กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--ซิงเกอร์ประเทศไทย
"ซิงเกอร์" นำ 3 นโยบายเชิงรุกมาปรับทัพรับการดำเนินงานครบ 150 ปี ย้ำการนำจุดแข็งในด้านระบบขายตรงแบบเจาะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมาเป็นกลยุทธ์หลัก เตรียมทุ่มงบกว่า 60 ล้านบาท ยกเครื่องระบบงาน และบุคลากร มั่นใจปีนี้รับทรัพย์กว่า 4,000 ล้านบาทแน่
นายยงยุทธ บุญเปกข์ตระกูล ผู้จัดการทั่วไปบริษัท ซิงเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงนโยบายหลักของบริษัทฯ เนื่องโอกาสการดำเนินงานครบ 150 ปี ว่า จะเน้นการทำธุรกิจเชิงรุกด้วยการขยายช่องทางการจำหน่ายและปรับปรุงระบบขายตรง ตลอดจนพัฒนาบุคลากรฝ่ายขาย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยมั่นใจว่าจากนโยบายดังกล่าวจะสร้างยอดขายให้บริษัทฯได้ถึง 4,000 ล้านบาทในปีนี้
นายยงยุทธกล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้เริ่มดำเนินธุรกิจเชิงรุกด้วยการเปิดร้าน ซิงเกอร์พลัส ซึ่งเป็นร้านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าขายในทุกแบรนด์ และขายสินค้าหลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะเพิ่มการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อระดับบีขึ้นไป และยังคงเน้นจุดเด่นให้กับร้านซิงเกอร์พลัสด้วยการบริการหลังการขายที่รับซ่อมสินค้าถึงบ้าน และระบบเงินผ่อนที่ดำเนินการโดยบริษัท ซิงเกอร์ เอง โดยไม่ต้องผ่านบริษัท หรือสถาบันทางการเงินที่ดำเนินการระบบเช่าซื้อ ซึ่งมีผลดีในแง่ระบบการผ่อนชำระ และดอกเบี้ยที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่
สำหรับการขยายสาขาร้านซิงเกอร์พลัสนั้น นายยงยุทธกล่าวว่า จะเน้นการเปิดสาขาในแหล่งชุมชนเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากที่สุด โดยในปัจจุบันได้เปิดดำเนินการไปแล้ว 12 แห่งในเขตกรุงเทพฯ และจะเร่งเปิดให้ได้ครบ 20 แห่งภายในปีนี้ซึ่งจะเน้นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งหัวเมืองใหญ่ โดยมีเป้าหมายว่าจะเปิดดำเนินการทั่วประเทศให้ได้ 200 แห่งใน 3 ปี
"ในส่วนของร้านค้าในรูปแบบเดิมของซิงเกอร์ตามต่างจังหวัดที่มีอยู่ในปัจจุบันจำนวน 258 แห่งจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ จากเดิมที่ขายเพียงเครื่องไฟฟ้าซิงเกอร์เท่านั้น จะมีการเพิ่มไลน์สินค้ามากขึ้นกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ รถจักรยานยนต์ หรือแม้กระทั่งรถไถ ทั้งสินค้าที่จะนำมาขายก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในแต่ละท้องที่ด้วย ในขณะนี้เราได้เซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของซูซูกิในจังหวัดเชียงราย ส่วนยามาฮ่าเราได้เป็นตัวแทนในเขตกรุงเพทฯ หาดใหญ่ และเชียงใหม่" นายยงยุทธกล่าว
ทางด้านระบบการบริหารงานฝ่ายขายนั้น นายยงยุทธกล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของซิงเกอร์มีหลากหลายยิ่งขึ้น จึงได้มีการปรับโครงการสร้างการบริหารงานทางด้านฝ่ายขายให้แข็งแกร่ง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการแต่งตั้งผู้จัดการผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดขึ้น โดยแต่ละคนจะมีอำนาจในการตัดสินใจอย่างอิสระ ทั้งนี้เพื่อให้มีความคล่องตัวในการสร้างตลาด และการแข่งขันกับแบรนด์เครื่องไฟฟ้าต่างๆ ได้ อย่างมีเอกภาพมากยิ่งขึ้น
นายยงยุทธกล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะกลับมาเน้นการทำตลาดจักรเย็บผ้าซิงเกอร์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับในด้านประสิทธิภาพอย่างมากจากภายในประเทศไทย และนานาประเทศ โดยจะวางจำหน่ายทั้งในส่วนของร้านซิงเกอร์พลัสและร้านซิงเกอร์ที่มีอยู่เดิม ทั้งนี้การจำหน่ายจะยังคงเน้นในระบบเงินผ่อน ซึ่งดอกเบี้ยจะมีการยืดหยุ่นตามสภาพเศรษฐกิจของแต่ละท้องที่
และเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองการดำเนินงานครบ 150 ปีของ ซิงเกอร์ นั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า จะจัดให้มี 3 กิจกรรมหลักคือ กิจกรรมแรก การจัดงาน "150 ปี สายสัมพันธ์ครอบครัวไทยกับซิงเกอร์" ซึ่งจะเป็นงานที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ของซิงเกอร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังจะมีสินค้าของซิงเกอร์ที่จะนำมาจำหน่ายในราคาพิเศษอีกมากมาย พร้อมทั้งจะมีกิจกรรมบนเวทีที่จะสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินให้กับผู้เข้าร่วมงานโดยจะจัดให้มีงานดังกล่าวขึ้นตั้งแต่วันที่ 10-15 ตุลาคม 2544 ณ ลาน น้ำพุ ชั้น 1 ซีคอนสแควร์
กิจกรรมที่ 2 ได้แก่ การจัดรายการ "ชิงโชคซ้อนโชค ฉลองซิงเกอร์ 150 ปี" เพื่อเป็นการตอบแทนผู้บริโภคที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ซิงเกอร์ โดยจะมอบทองคำจำนวน 420 รางวัลให้กับผู้โชคดีที่ซื้อผลิตภัณฑ์ซิงเกอร์ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนจนถึง 31 ธันวาคม โดยบริษัทฯ จะจับรางวัลจากใบรับประกันสินค้าของซิงเกอร์ทุกชนิด
ส่วนกิจกรรมสุดท้ายคือ กาเข้าร่วมพัฒนาสังคมไทยให้ดีขึ้น ด้วยการเข้าร่วมกับกระทรวงแรงงาน และสวัสดิการสังคม ในการมอบอุปกรณ์ อาทิ จักรเย็บผ้า, ตู้เย็น, เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น เพื่อให้นำไปใช้ประกอบการเรียนการสอนฝึกอาชีพให้กับผู้สนใจให้กับชาวชนบท ซึ่งมั่นใจว่าส กิจกรรมนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชาวไทยได้ยิ่งขึ้น
นายนพดล มิ่งจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี และการเงินประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออก เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะมีการทุ่มงบประมาณราว 60 ล้านบาทสำหรับแผนการปรับปรุงองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้กำหนดไว้ใน 3 โครงการคือ โครงการแรก การปรับปรุงระบบสายงาน โครงการที่สอง การพัฒนาบุคลากร และโครงการที่สาม การกำหนดทิศทางธุรกิจของซิงเกอร์ในประเทศไทย โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ถึง 3 ปี ในการพัฒนาระบบต่าง ๆ ให้ได้สมบูรณ์แบบ
โครงการแรก ซึ่งเป็นการปรับปรุงระบบสายงานั้น นายนพดล กล่าวว่า ยังได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนแรกการพัฒนาระบบงานให้มีประสิทธิภาพ และลดขั้นตอนในการดำเนินงาน ส่วนที่สองระบบการควบคุมภายในเพื่อลดการสูญเสีย รวมถึงการรั่วไหลของทรัพย์กร และส่วนสุดท้ายระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งนำมาใช้ปรับปรุงทั้งในส่วนของสำนักงานใหญ่, ร้านค้ารูปแบบเดิม รวมถึงร้านซิงเกอร์พลัส โดยจะใช้งบประมาณในการพัฒนา และปรับปรุงทั้งสิ้นราว 45 ล้านบาท
โครงการที่สองคือ การพัฒนาบุคลากร ซึงจะมีการพัฒนาทั้งในส่วนของพนักงานปัจจุบันด้วยการจัดเข้าคอร์สฝึกอบรมวิชาการ และการปฏิบัติทั้งในด้านการบริหาร, การตลาด, การขาย เป็นต้น และยังจะมีการรับพนักงานในระดับบริหารเพิ่มเติมเพื่อรองรับระบบโครงสร้างใหม่ที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับซิงเกอร์มากยิ่งขึ้นโดยจะใช้งบประมาณในส่วนนี้ราว 14 ล้านบาท
"เราจะมีการฝึกอบรมพนักงานทุกระดับอย่างต่อเนื่อง โดยจัดหลักสูตรสำหรับพนักงานทั่วไป และฝ่ายขาย เพื่อให้พนักงานแต่ละรายมีแนวความคิดที่ทันสมัย รวมถึงการเพิ่มความชำนาญให้กับช่างเทคนิค และช่างเครื่อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า เนื่องจากนโยบายของซิงเกอร์จะเน้นการบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การบริการติดตั้ง และซ่อมบำรุงที่รวดเร็ววางใจได้ ซึ่งซิงเกอร์มีแผนงานที่จะลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของศูนย์บริการ โดยปัจจุบันซิงเกอร์มีศูนย์บริการกว่า 15 แห่งทั่วประเทศ"
โครงการที่สาม การกำหนดทิศทางธุรกิจ โดยเน้นการจำหน่ายเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทฯ ให้มากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของซิงเกอร์พลัส และร้านค้าในรูปแบบเดิมของซิงเกอร์ โดยบริษัทฯ จะให้การสนับสนุนทางด้านการตลาด และการส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มยอดให้กับร้านค้าอย่างต่อเนื่องรวมทั้งถึงระบบเงินผ่อน ซึ่งซิงเกอร์เป็นรายแรกที่ดำเนินการในระบบนี้
"เราได้เปรียบบริษัทฯ ที่ดำเนินการระบบเงินผ่อนต่างๆ ก็คือ เราสามารถที่จะปรับดอกเบี้ยการผ่อนของแต่ละรายให้มีความยืดหยุ่นแตกต่างกันตามความเหมาะสมเพราะเราอาศัยความได้เปรียบในแง่ของการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรง" นายนพดลกล่าว
ปัจจุบันซิงเกอร์มีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายใต้แบรนด์ ซิงเกอร์ ดังนี้
/ผลิตภัณฑ์จักรเย็บผ้า อาทิ จักรเย็บผ้า, น้ำมันหล่อลื่นอเนกประสงค์ และกรรไกร
/ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน อาทิ ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, เตาแก๊ส, เครื่องปรับอากาศ, เตาไมโครเวฟ, เครื่องรีดผ้า, หม้อหุงข้าว และพัดลม
/ผลิตภัณฑ์กลุ่มโสตทัศนูปกรณ์ อาทิ โทรทัศน์สี, เครื่องเล่นวิดีโอและเครื่องเสียงระบบสเตอริโอ
สำหรับยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ซิงเกอร์ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แบ่งออกเป็น โทรทัศน์ 31% เครื่องซักผ้า 25% ตู้เย็น 19% จักรเย็บผ้า 8% เครื่องเสียงสเตอริโอ 6% เครื่องเล่นวิดีโอ 2% และผลิตภัณฑ์อื่นๆ 9%--จบ--
-นห-