กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--มทร.ธัญบุรี
สาขาภาษาไทย คณะศิลปศาสตร์ จัดการ "เสวนาเที่ยวไทยมีเฮ เท่ หรือ ทำลายวัฒนธรรม" ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ได้ถกเถียงกันถึงความเหมาะสมหรือไม่ ที่ได้นำเรื่องราวของทศกัณฑ์ที่เป็นตัวเอกของ MV เที่ยวไทยมีเฮ มานำเสนอประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในประเทศไทย ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยผู้ร่วมเสวนาในครั้งนี้ ได้แก่ นายมาโนช บุญทองเล็ก หัวหน้าภาควิชานาฎดุริยางคศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ผศ.ดร.สุทัศน์ วงศ์กระบากถาวร อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ผู้เขียนหนังสือนามปากกา "ทัศนาวดี" นายโสภณ สาทรสัมฤทธิ์ผล ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาไทย หัวหน้าสาขาภาษาตะวันออก คณะศิลปศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ดำเนินการเสวนาโดย นายสมพงษ์ บุญหนุน อาจารย์ประจำสาขาภาษาตะวันออก คณะศิลปศาสตร์ มทร.ธัญบุรี
นายมาโนช บุญทองเล็ก หัวหน้าภาควิชานาฎดุริยางคศิลป์ ในฐานะผู้สอนโขนให้แก่นักศึกษา เล่าว่า จากการดู MV ลักษณะการนำเสนอมีหลายมิติ การใช้ประโยชน์หลากหลาย ทั้งทางด้านความบันเทิง การค้า และธุรกิจ ใน MV ใช้ทศกัณฐ์เป็นตัวเอกในดำเนินเรื่อง รามเกียรติ์ ได้รับอิทธิพลมาจาก รามายณะ ของประเทศอินเดีย ได้ซึมซับมาเป็นรูปแบบ ซึ่งสังคมไทยมีความเชื่อในเรื่องคุณค่า ตัวทศกัณฑ์มีฐานานุศักดิ์ ในเรื่องของจารีตที่เจ้าเมืองควรทำและไม่ควรทำ ซึ่งทางวรรณกรรมมาแปลงและสามารถใช้ประโยชน์ได้ แต่ด้วยจารีตวิชาชีพ ในด้านนาฏศิลป์กำหนดไว้ ในส่วนของ MV ตนเองคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ยังขาดองค์ความรู้ ในเรื่องของจารีตของโขน ทศกัณฑ์แคะขนมครกสามารถทำได้ แต่ทศกัณฑ์ขี่ม้าไม่เหมาะ หรือแม้แต่การไปนั่งกินข้าวกับเหล่าทหาร มีช่องว่างของตัวละคร โดยตามหลักความเป็นจริงคนที่สามารถเข้าใกล้ทศกัณฐ์มีเพียงยักษ์เสนาบดี 2 ตัวคือ เปาวนาสูร และมโหทร "ไม่ได้คัดค้านการนำโขนมาทำโฆษณา หรือห้ามนำตัวทศกัณฐ์มาใช้ แต่อยากให้ยึดจารีตของการแสดงโขน อย่าเพียงใช้ให้เป็นกระแส"
ผศ.ดร.สุทัศน์ วงศ์กระบากถาวร เล่าว่า ในฐานะที่ตนเองสอนทางด้านวรรณคดี ในการนำเรื่องราวมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน ทุกอย่างมีที่มาและที่ไป ในเรื่องของจารีตของแต่ละแขนง ซึ่งสามารถเกิดจากความเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถหยุดได้ เช่นในเรื่องภาษา ในส่วนของภาษาในเฟสบุ๊ก โดยส่วนตัวในการอิงกระแสต้องดูความถูกต้องของจารีตว่าควรใช้หรือไม่ควรใช้ จารีตในเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธามาพร้อมกัน กาลเทศะในการสืบทอดประเพณี ซึ่งในความจริงสามารถนำมาใช้ได้ แต่ต้องคำนึงว่านำมาใช้อย่างไร เกิดจากความรู้หรือเจตนา ในการนำเรื่องราวมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิต หรือการนำมาสื่อสารต้องให้ข้อคิด คือสิ่งสำคัญในการนำมาใช้ ส่วนตัวอยากให้เนื้อหาใน MV มีความรู้ และความรู้สึกให้เกิดความพอดี วางบทบาทอยู่ในสังคมร่วมสมัย "ทำอย่างไรไม่ให้กระทบกับความศรัทธาที่มีมาแต่เดิม"
นายโสภณ สาทรสัมฤทธิ์ผล ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาไทย หัวหน้าสาขาภาษาตะวันออก เล่าว่า คนไทยโดยส่วนใหญ่มีความรู้สึกในบทบาทนั้นจริงหรือภาษาในปัจจุบันเรียกว่าอิน ซึ่งทุกอย่างมีที่อยู่เฉพาะของมันทั้งสิ้น เช่นในเรื่องของภาษาพูดและภาษาเขียน ความคิดรวบยอด (Concept)และเนื้อหา (Content) ไม่เหมือนกัน สำหรับMV เที่ยวไทยมีเฮ มองว่าเท่ หรือทำลาย ตนเองว่ามีทั้ง 2 แง่ ทำอย่างไรก็ได้ให้สองสิ่งนี้มาอยู่ร่วมกัน การนำทศกัณฐ์ มาใส่ความเท่ ต้องอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง "วัฒนธรรมกับเทคโนโลยีอยู่ร่วมกัน อยู่ที่การเลือกวิธีใช้"
นายวุฒิศักดิ์ จ้องสาระ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขานาฏศิลป์ไทยศึกษา เล่าว่า เป็นโฆษณาที่ดีที่ได้นำวัฒนธรรมมานำเสนอผ่านเรื่องราวการท่องเที่ยว ซึ่งตนเองคิดว่าถูกใจวัยรุ่นหลายๆ คน แปลกใหม่ ให้แก่ ยุคสมัย แต่อีกในมุมมองหนึ่ง ในฐานะของนักแสดงโขน ซึ่งรับบทเป็นทศกัณฐ์ ตนเองคิดว่า ในการนำเสนอเรื่องราว ควรเป็นเรื่องราวที่ถูกต้องและเหมาะสม เนื่องจากความถูกต้องจะสอนลูกหลานรุ่นหลัง ได้เข้าใจในเรื่องราวที่ถูกต้อง เมื่อโฆษณาออกมาผิดๆ จะทำให้คนดูจำสิ่งที่ผิดๆ
ต่างคนต่างความคิดเห็น แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างบอกและสะท้อนเป็นสิ่งเดียวกันว่า ควรใส่องค์ความรู้ลงไปใน MV ด้วย