กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวสรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวไทย ไตรมาส 3 ปี 2559 ว่ามีรายได้รวมจากการท่องเที่ยว จำนวน 627,037.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.22 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 410,755.03ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.77 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยท่องเที่ยวภายในประเทศ จำนวน216,282.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.69จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สถานการณ์ท่องเที่ยวระหว่างประเทศ (ชาวต่างชาติเที่ยวไทย) ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 มีนักท่องเที่ยวทั้งหมด จำนวน 8,228,278 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.09 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด จำนวน 410,755.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.77จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแยกเป็น
- นักท่องเที่ยวจีนมีจำนวน 2.42 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.53 จากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นรายได้ จำนวน 123,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.67 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
- นักท่องเที่ยวยุโรปมีจำนวน 1.20 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.11 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นรายได้ จำนวน 86,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.60จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
- นักท่องเที่ยวอาเซียนมีจำนวน 2.20 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.63จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นรายได้ จำนวน 67,601 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศ (ไทยเที่ยวไทย) ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 มีจำนวน 36.48 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.55 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นรายได้ จำนวน 216,282.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.69จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งการท่องเที่ยวเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- 10 เมืองท่องเที่ยวหลัก สร้างรายได้ จำนวน 155,631.85 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 72 ของรายได้ภายในประเทศทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.57 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
- 12 เมืองต้องห้าม...พลาด สร้างรายได้ จำนวน 13,141.70 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.1 ของรายได้ภายในประเทศทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.54 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
- 12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส สร้างรายได้ จำนวน 13,777.87 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.4 ของรายได้ภายในประเทศทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.21 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ด้านสถานการณ์การท่องเที่ยวไตรมาส 4 คาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว จำนวน 609,616.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.28จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 389,884.43 ล้านบาท และรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยท่องเที่ยวภายในประเทศ จำนวน 219,731.62ล้านบาท
ดั้งนั้น คาดว่าจะมีรายได้รวมจากการท่องเที่ยวในปี 2559 จำนวน 2,486,282 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่2.4 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4 แยกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 1,627,280.23 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.68 (ประมาณ 32.4 ล้านคน) และรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยท่องเที่ยวภายในประเทศ จำนวน 859,002.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.96 จากปีที่ผ่านมา
นางกอบกาญจน์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงในการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 3 และระยะต่อไป ได้แก่ แนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยวโลก รวมถึงบทบาทการเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวภูมิภาคต่างๆ โดยให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการเพิ่มเส้นทางการบินของสายการบินต้นทุนต่ำ อาทิ การเปิดเส้นทางบินของ Vietjet ในประเทศไทย, แอร์เอเชีย ใช้ไทยเป็นฐานในการเชื่อมโยงไปยังภายในภูมิภาคเชื่อมโยงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของกลุ่ม นักท่องเที่ยวสูงอายุ, การเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางในเอเชียที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวและนิยมสินค้าบริการประเภทAffordable luxury (ราคาสินค้าแบรนด์เนมที่จับต้องได้)
ดังนั้นจึง ต้องกำหนดนโยบายการตลาดและแนวทางที่ชัดเจนในการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT ของจีนเพิ่มมากขึ้นและนโยบายด้าน Visa ของต่างประเทศ เช่น ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดการท่องเที่ยวของไทยและที่สำคัญเราต้องชี้แจงสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้เข้าใจ สถานการณ์ ว่ากิจกรรมต่างๆ ยังดำเนินต่อไปแม้จะเป็นช่วงแห่งการไว้อาลัย อีกทั้ง กระตุ้นกลุ่มนักท่องเที่ยว Responsible tourism ให้เดินทางเข้ามาประเทศไทย เพื่อปรับโครงสร้างกลุ่มนักท่องเที่ยวของไทยไปสู่การท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพต่อไป