กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--อาร์เอส
"พัชริดา วัฒนา" เล่าความประทับใจ ครั้งหนึ่งในชีวิต เคยถามงานหน้าพระพักตร์ และได้ร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ยามค่ำ
"ร้องเพลงหลายกรณีคะ กับบริษัทอาร์เอสก็มีอัดเป็นเทปเพลงพระราชนิพนธ์ ช่วงนั้นจะพระราชทานพระบรมราชานุญาติทำเพลงพระราชนิพนธ์ของบริษัท เพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสพระชนมายุครบ ๗๒ พรรษา แบ่งเป็นสองอัลบั้ม โดยอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์มาทั้งสิ้น ๒๓ ให้ศิลปินทั้งค่ายของบริษัทในยุคนั้นขับร้อง ก็จะมีศิลปิน โดม-ปกรณ์ ลัม ดัง-พันกร แนนซี่-นันทพร โมเม-นภัสสรและ เอิร์น-จิรวรรณ ร้องคนละเพลง ส่วนเราร้องเพลง ยามค่ำ และมีคอนเสิร์ตด้วย หลังจากนั้นก็จะมีเพลงลูกของพ่อ คุณบั๋ง-สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา เป็นคนแต่ง ที่เราใส่เสื้อเหลืองกันหมด อย่างท่อน "เมื่อพ่อยิ้มลูกทุกคนอิ่มใจ ได้ข่าวพ่อไม่สบาย ลูกไม่อาจหลับตา" นอกเหนือจากอาร์เอสก็จะมีเพลงรวมศิลปินทั้งหมด มีเบิร์ด-ธงไชย แอม-เสาวลักษณ์ ปาน-ธนพร ร้องรวมกับค่ายอื่นๆ ชื่อเพลงภูมิแผ่นดิน นวมินทร์มหาราช ได้ไปบันทึกเสียงในห้องอัดแล้วก็ถ่ายทอดเก็บบันทึกภาพ
นอกจากนั้นก็จะเป็นการร้องเพลงถวายงานในส่วนพระองค์ ในเชื้อพระวงศ์บ้าง เป็นการภายในของทุกพระองค์ ของในหลวงมีเป็นของสาวสาวสาว ได้ไปร้องถวายที่วังไกลกังวล หัวหิน ตอนนั้นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภายังทรงพระเยาว์ ตอนนั้นพระองค์ภาท่านทรงโปรดเพลงของสาวสาวสาว ทาง วังก็ได้ติดต่อมาให้ไปร้องเพลง ที่พระองค์เสด็จแปรพระราชฐานไปที่วังไกลกังวล ซึ่งในงานเลี้ยงส่วนพระองค์งานนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระองค์โสมสวลีกับพระองค์ภา ร้องเสร็จก็ได้มีโอกาสเข้าไปกราบ แต่ก็ไม่ถึงแทบพระบาทใกล้มาก และได้มีพระราชปฏิสันถารกับพระองค์ภา แค่นั้นก็ถือว่าเป็นการใกล้พระองค์มากที่สุดแล้ว ที่ได้ถวายรับใช้เบื้องพระยุคลบาท เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่เราจะจดจำอีกครั้งหนึ่งก็คือตอนรับพระราชทานปริญญาบัตรนิเทศศาสตร์ ปริญญาโท ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั่นคือการได้รับพระราชทานปริญญาบัตรที่หวังไว้และรู้สึกภูมิใจมากที่สุดในชีวิต
ความภูมิใจที่ได้เกิดในรัชกาลที่ 9
ภูมิใจที่สุดในชีวิต คือเกิดมาได้เห็นท่านตอนเด็กๆคุณยายที่เลี้ยง ก็สอนอยู่เสมอ อย่างเวลามีข่าวในพระราชสำนักออกมา นั่งดูทีวีอยู่บ้านท่านก็จะคอยบอกเราว่าต้องกราบ และบอกว่าเราอยู่ในกรุงเทพไม่ได้เจอท่านหรอก ต้องคนต่างจังหวัด คนลำบากถึงจะได้เห็นพระองค์ท่านใกล้ๆ ซึ่งเราโตมากับแบบนั้นและเห็นภาพแบบนั้นจริงๆ เด็กสมัยนี้เค้าไม่เห็นเค้าก็จะไม่เข้าใจว่าทำไมเราซาบซึ้งนักหนา โตมาเราก็ไม่เคยเห็นท่านอยู่ในเมืองหลวง วันนี้ไปเสด็จไปนู้นเสด็จไปนี้ เดินตากแดดตากลมตลอด เพราะฉะนั้นไม่รู้ว่าจะบอกว่าภูมิใจอย่างไร แต่ภูมิใจที่สุด หันไปดูสารคดีที่ฉายวันนี้ก็จะเห็นว่ามีอะไรที่ท่านทำไม่ได้บ้าง พระราชนิพนธ์เพลงก็ไม่ใช่เพลงอย่างที่พวกเราแต่ง ก็เป็นเพลงที่ยาก มีทั้งความรู้ ความไพเราะ และสิ่งที่ท่านทำทั้งขุดดิน ปลูกข้าว ดูน้ำ อ่านแผนที่ ทำฝนเทียม ปีนเขา ลงห้วย ซ่อมอุปกรณ์ ต่อเรือ ทำน้ำมัน ถ้าเป็นคนไทยแล้วมีพระมหากษัตริย์แบบนี้ไม่ภูมิใจได้หรอ