กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--บลจ.กสิกรไทย
บลจ.กสิกรไทย ส่งกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุโครงการ 3 เดือน และ 6 เดือน เสนอขายต่อเนื่อง ชูโอกาสรับผลตอบแทน 1.40% - 1.50% ต่อปี เปิดเสนอขาย 8-14 พฤศจิกายนนี้
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 8-14 พฤศจิกายน 2559 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีจี (KFF6MCG) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.50% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เอเจ (KFF3MAJ) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.40% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
ด้านมุมมองตลาดตราสารหนี้ นายนาวินกล่าวว่า "ทิศทางการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนตารสารหนี้ไทยระยะสั้น น่าจะยังทรงตัวและเคลื่อนไหวอิงกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% ต่อปี ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ส่วนทิศทางอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวยังคงมีความไม่นอนจากปัจจัยต่างประเทศ อาทิ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารสหรัฐฯ(FED) ในช่วงปลายปีนี้ ที่อาจส่งผลต่อการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ ส่วนปัจจัยที่นักลงทุนและตลาดรอติดตาม คือการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ ยังรอติดตามผลการประชุมของกนง. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้"
นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก หรือผู้ที่ต้องการแบ่งเงินลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงมาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ บลจ.กสิกรไทยได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนที่แน่นอน โดยสามารถเลือกลงทุนเป็นเวลา 3 เดือน หรือ 6 เดือน ทั้งนี้สำหรับ กองทุน KFF6MCG ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation, เงินฝาก Bank of China, เงินฝาก First Gulf Bank และเงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Qatar National Bank ด้านกองทุน KFF3MAJ ที่มีอายุโครงการ 3 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก China Construction Bank Corporation, เงินฝาก Agricultural Bank of China และเงินฝาก First Gulf Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Qatar National Bank โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KFF6MCG และกองทุน KFF3MAJ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่www.kasikornasset.com