กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการ เพิ่งตื่นหลังจากหลับมานาน หวั่นสิ้นชาติเพราะบรรจุหลักสูตรสอนเด็กผิด เร่งบรรจุวิชาหน้าที่พลเมือง-ศีลธรรม ประวัติศาสตร์ไทย แยกเป็นรายวิชาสอนประถม-มัธยม เริ่มภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2544 นี้ เผยถูกร้องเรียนมานาน เพราะตัดวิชาดังกล่าวไปไว้ในหมวดสังคมศึกษา เพิ่งตาสว่างเร่งแยกออกเป็นรายวิชา ก่อนที่เยาวชนทั้งชาติจะถูกกระแสค่านิยมตะวันตกกลืน
แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงศึกษาธิการได้นำเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบด้วยหลักการเรื่องมาตรการแก้ปัญหาเรื่องหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนวิชาหน้าที่พลเมือง-ศีลธรรม และประวัติศาสตร์ไทย เพราะขณะนี้เยาวชนไทยกำลังน่าเป็นห่วงทั้งจากเรื่องยาเสพย์ติด การประพฤติปฏิบัติที่กำลังลืมประเพณีวัฒนธรรมไทย โดยหลงระเริงไปกับค่านิยมทางตะวันตกอย่างน่าเป็นห่วง สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้ดึงเอาวิชาหน้าที่พลเมือง-ศีลธรรม และประวัติศาสตร์ไทย มีเนื้อหาวิชาสอดแทรกไว้ในกลุ่มสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตเท่านั้น ถือว่าเป็นการบรรจุหลักสูตรที่ผิดพลาดมาโดยตลอด
สำหรับมาตรการและแนวทางดำเนินงานเรื่องนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้จัดกระบวนการเรียนรู้วิชาหน้าที่พลเมือง-ศีลธรรม ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสังคมปัจจุบัน โดยปีการศึกษาหน้าจะกำหนดและจัดให้มีวิชาดังกล่าวอยู่ในหลักสูตรทุกระดับ
“กระทรวงศึกษาธิการจะบรรจุวิชาหน้าที่พลเมือง-ศีลธรรม ซึ่งได้บูรณาการไว้ในกลุ่มประสบการณ์ และกลุ่มวิชาต่างๆ ในหลักสูตรฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533 ออกมาจัดทำเป็นเนื้อหา วิชาหน้าที่พลเมือง-ศีลธรรม เป็นการเฉพาะ โดยกำหนดเนื้อหาในระดับประถมศึกษาเป็นหน่วย ในระดับมัธยมศึกษาเป็นรายวิชา ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวสามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นก่อนภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2544” แหล่งข่าวเผย
แหล่งข่าวกล่าวว่า สาเหตุที่กระทรวงศึกษาธิการได้นำวิชาหน้าที่พลเมือง-ศีลธรรมแยกออกมาเป็นวิชาสอนโดยเฉพาะ เหมือนสมัยก่อน เพราะว่าได้รับการร้องเรียนมาเป็นอย่างมากว่า กระทรวงศึกษาดำเนินการเรื่องนี้ผิดพลาด และทำให้เยาวชนไทยกลายเป็นคนไม่รู้จักหน้าที่พลเมืองของตนเอง หรือประวัติศาสตร์ของชาติตัวเอง เพราะที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการได้นำวิชาหน้าที่พลเมือง-ศีลธรรมไปเป็นเพียงวิชาย่อยในหมวดสังคมศึกษา จึงทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น--จบ--
-สส-