กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หารือผู้แทนสถานฑูตสหรัฐอเมริกาสร้างความชัดเจนในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ย้ำผลงานปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ดำเนินคดีนายจ้างไปแล้ว ๒๔ คดี เป็นเงินกว่าล้านบาท
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) หารือร่วมกับMs. Erin L Castro หัวหน้าฝ่ายงานวิจัยและนโยบาย (Chief of Research and Policy Division) และนางสาวชื่นชม ทองเย็น ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายเศรษฐกิจ สถานเอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ในวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ณ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อหารือเรื่องการจัดทำข้อมูล
การดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ตามข้อคำถามของกระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการประเมินผลการดำเนินงานของไทยในปีถัดไป ซึ่งทางสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับประเด็นการเพิ่มพนักงานตรวจแรงงานให้มีจำนวนเพียงพอเหมาะสมกับสัดส่วนของสถานประกอบกิจการในประเทศ การพัฒนาระบบตรวจแรงงานและศักยภาพพนักงาน
ตรวจแรงงาน การมีล่ามสื่อภาษาสำหรับแรงงานต่างด้าว รวมถึงการตรวจแรงงานกลุ่มเสี่ยงต่างๆทั้งแรงงานนอกระบบและผู้รับงานไปทำที่บ้าน เป็นต้น
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมว่ารัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อปัญหาการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ได้มีการบูรณาการความร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในฐานะที่กสร.เป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลในเรื่องของการจ้างแรงงานเด็กให้มีสภาพการจ้าง สภาพการทำงานที่เป็นธรรม แม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องของบุคลากร
คือจำนวนพนักงานตรวจแรงงาน แต่ก็ได้กำชับให้หน่วยปฏิบัติของกสร. ได้แก่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครเขตทั้ง๑๐ เขต ตรวจสภาพการจ้างการทำงานของลูกจ้างเด็กอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในสถานประกอบกิจการที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น งานแปรรูปอาหารทะเล งานฟาร์มเลี้ยงไก่ งานเกษตรกรรม งานตัดเย็บเสื้อผ้า ร้านอาหาร บริการ และปั๊มน้ำมัน เป็นต้น เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กอย่างไม่ถูกต้อง และขจัดการแสวงหาประโยชน์จากการใช้แรงงานเด็กเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หากตรวจพบว่านายจ้าง เจ้าของสถานประกอบกิจการใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมายให้ดำเนินคดีทันที โดยมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกินหกเดือนปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งในปีงบประมาณที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีนายจ้างไปแล้ว
๒๔ คดี เป็นเงิน ๑,๒๔๖,๐๐๐ บาท ทั้งนี้กสร.กำลังดำเนินการพิจารณาแก้ไขโทษทางกฎหมายกรณีใช้แรงงานเด็กให้สูงขึ้นด้วย