กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--Feel Good Together
"ยูบิลลี่" สุดแกร่ง สร้างผลงานไตรมาส 3 กำไรพุ่ง 55% และผลงาน 9 เดือนกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังบริษัทวางกลยุทธ์วางแผนการบริหารตอบโจทย์นวัตกรรมสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ทั้งการขาย การตลาด และการควบคุมต้นทุน พร้อมเร่งเครื่องทำตลาดท้ายปีกระตุ้นยอดขาย
นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัท มีรายได้รวม 327.40 ล้านบาท ใกล้เคียงเมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิ 37.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยบริษัทยังสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้สูงเกิน 40% โดยไตรมาส 3 อยู่ที่ 44.2%
ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกของปี 2559 (มกราคม- กันยายน) บริษัทมีกำไรสุทธิ 108.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 28 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 84.93 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่พึงพอใจกับผลงานท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวอยู่บ้าง
ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทที่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมในการบริหารจัดการ ทั้งการบริหารสัดส่วนของส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่วางขายอย่างมีประสิทธิภาพ การวางแผนการบริหารวัตถุดิบร่วมกับซัพพลายเออร์รายใหญ่จากต่างประเทศ การบริหารจัดการในระบบลูกค้าสัมพันธ์เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และการควบคุมใช้จ่ายในการขายและบริหาร ตลอดจนการพัฒนาอบรมและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงานขาย
ขณะเดียวกันบริษัทยังเสริมกลยุทธ์การขายและการตลาดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมไปถึงการตอกย้ำในเรื่องการสร้างแบรนด์ โดยเน้นย้ำถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ พร้อมให้ความรู้ในเรื่องคุณภาพของเพชร รวมถึง การใช้การตลาดออนไลน์ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการลดต้นทุนได้ดี
"ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 เป็นที่น่าพอใจ ในด้านการบริหารที่ทำให้กำไรเติบโตได้ก้าวกระโดด ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การดำเนินงานประสบผลสำเร็จ โดยบริษัทยังคงยึดมั่นกลยุทธ์ในการบริหารต้นทุน ควบคู่ไปกับกลยุทธ์การขายและการตลาด" นางสาวอัญรัตน์ กล่าว
นางสาวอัญรัตน์ ระบุว่า ทิศทางของตลาดเพชรในระดับโลกที่ยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินว่ากำลังซื้อในระยะยาวยังมีอยู่มาก จากปัจจัยการเติบโตของราคาเพชร ทั้งเพิ่มความนิยมในการลงทุนในเพชรเพื่อทั้งใส่เป็นเครื่องประดับควบคุ่กับการลงทุนเป็นสินทรัพย์ที่เติบโตด้านมูลค่าได้ในระยะยาว ขณะเดียวกันก็พบว่ามีผู้บริโภคหันมาซื้อเพชรให้กันเป็นของขวัญมากขึ้นในช่วงเทศกาลต่างๆ
ส่วนความสามารถทางการแข่งขันของบริษัทก็นับว่าแข็งแกร่ง ทั้งในด้านของแบรนด์ Jubilee Diamond ซึ่งเป็นแบรนด์เพชรคุณภาพที่ส่งตรงจากแหล่งเจียระไนอันดับหนึ่งของโลก อย่างเมืองแอนป์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม และยังเป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์เพชรอันดับหนึ่งอย่าง FOREVERMARK ซึ่งเป็นแบรนด์เพชรจากยักษ์ใหญ่ในวงการเพชรระดับโลกอย่างเดอ เบียร์ ซึ่งเมื่อช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ขยายสาขา FOREVERMARK เพิ่มอีก 2 สาขา รวมเป็น 3 สาขาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งบริษัทฯมีแผนในการขยายสาขาทั้งสิ้น 25-30 สาขาภายใน 5 ปี
ส่วนสาขาของ Jubilee Diamond ได้วางเป้าหมายขยายเพิ่มอีก 2-3 สาขา ในช่วงปลายปีนี้ จากปัจจุบันมีอยู่ 127 สาขา ซึ่งนับว่าเป็นแบรนด์เครื่องประดับเพชรที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4 นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า รวมถึงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่บริษัทมียอดขายมากที่สุดกว่าทุกๆ ไตรมาสจากสถิติที่ผ่านมา บริษัทฯ จะมีการจัดรายการส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพื่อสร้างบรรยากาศการซื้อสินค้าเครื่องประดับเพชรในช่วงปลายปีนี้ให้มีความคึกคัก โดยมั่นใจว่าผลงานในปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา