กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--กทม.
ผู้ว่าฯกทม.ให้กำลังใจเทศกิจจัดการปัญหาจัดระเบียบผู้ค้า พร้อมมอบนโยบายเทศกิจขวัญใจประชาชน จับคู่กัน 2 นายพร้อมสมุดบันทึก เดินเท้าตรวจตราทุกตรอกซอย รับทราบปัญหา อาสารับร้องทุกข์ ช่วยเหลือประชาชนเพิ่มอีกทาง ขณะที่ทุกเขตเตรียมกวดขันมาตรการ “ทิ้ง จับ ปรับ” ใหม่อีกรอบในเร็วๆนี้ ส่วนปัญหาการจัดเก็บค่าบริการรักษา ความสะอาดฯ ท้างเท้าจากผู้ค้าแผงลอยกำลังเร่งวัดพื้นที่จุดที่ร้องเรียนใหม่ หลังจากนี้คาดว่าจะเก็บค่าบริการฯ ได้ 10-12 ล้านบาทต่อเดือนตามทะเบียนผู้ค้า
เมื่อวันที่ 28 พ.ย.44 ที่สำนักเทศกิจ นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในการประชุมแนวดิ่งระหว่างสำนักเทศกิจ กับ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตซึ่งกำกับดูแลงานเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจทั้ง 50 สำนักงานเขต เพื่อชี้แจงนโยบายในการปฏิบัติงานด้านเทศกิจให้เป็นในแนวทางเดียวกัน
การประชุมในครั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบนโยบายในการจัดการกับปัญหาด้านการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่แผงลอยว่าให้ดำเนินการไปตามหลักเกณฑ์การจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ใดที่ไม่ควรจะทำการค้าขายก็ไม่ควรอนุญาตให้ขาย ทั้งนี้ ผู้บริหารกทม.กำลังพยายามจะจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อผลักดันให้ผู้ที่ทำการค้าอยู่ภายนอก ตามทางเท้าต่างๆ ได้มีที่ขายของเป็นสัดส่วนอยู่ข้างใน เพื่อให้เกิดความสะดวกด้วยกันทุกฝ่าย และช่วยให้บ้านเมืองเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่โดยปกติแล้ว ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังมีนโยบายให้เจ้าหน้าที่เทศกิจมีความใกล้ชิดกับประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยให้เทศกิจ 2 คน ร่วมกันออกเดินเท้าตรวจพื้นที่ ตามตรอก ซอยต่างๆ ทุกวัน เมื่อพบเห็นปัญหา เช่น ขยะตกค้าง ท่อระบายน้ำอุดตัน น้ำท่วมขัง ขาดแคลนไฟฟ้าสาธารณะ ตลอดจนรับฟังความต้องการของประชาชนว่าต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องใด แล้วลงสมุดบันทึกไว้ เพื่อแจ้งผู้อำนวยการเขตเร่งพิจารณาดำเนินการแก้ไขต่อไป เป็นต้น วิธีการนี้ก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของเทศกิจดียิ่งขึ้น ประชาชนมีความอุ่นใจที่ได้เห็นเทศกิจ
ด้านนายธวัชชัย กำลังงาม ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า การให้เทศกิจทำงานใกล้ชิดกับประชาชนนั้นเป็นนโยบายที่เทศกิจจะต้องปฏิบัติ ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินโครงการ “เทศกิจพิทักษ์เมือง” เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านการจราจร ดูแลนักเรียนข้ามถนน การให้ความช่วยเหลือประชาชนบนท้องถนนเมื่อเกิดรถเสียขณะที่ฝนตกน้ำท่วม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสายตรวจเทศกิจออกตรวจพื้นที่อยู่เป็นประจำ และจะรับนโยบายของผู้ว่าราชการกทม.ไปเป็นแนวปฏิบัติในการสร้างความใกล้ชิด และการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ให้ได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ สำนักเทศเทศกิจยังได้กำชับทั้ง 50 เขต เพิ่มความเข้มงวดกวดขันการรักษาความสะอาดของสถานที่สาธารณะ โดยในเร็วๆ นี้จะเริ่มรณรงค์การ “ทิ้ง จับ ปรับ” เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความสำนึกในการร่วมกันรักษาความสะอาดของบ้านเมืองด้วยการทิ้งขยะให้ถูกที่ ซึ่งจะรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนจะให้มาตรการจับปรับอย่างเข้มงวดอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อเจ้าหน้าที่ผ่อนคลายมาตรการการจับปรับก็มีการทิ้งขยะในที่สาธารณะ การบ้วนน้ำลาย การทิ้งก้นบุหรี่ กันมากขึ้น
สำหรับการแก้ปัญหาเรื่องการจัดเก็บค่าบริการรักษาความสะอาดบริเวณทางเท้าที่ใช้ตั้งวางแผงลอยของผู้ค้านั้น ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจกล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาร้องเรียนเรื่องการวัดระยะขนาดแผงค้า ซึ่งทางสำนักงานเทศกิจตรวจสอบแล้วพบว่ามีปัญหาอยู่ในพื้นที่เพียงบางจุดเท่านั้น อย่างไรก็ดี ได้ให้เจ้าหน้าเทศกิจดำเนินการวัดพื้นที่ใหม่ และให้ทุกสำนักงานเขตติดประกาศแจ้งผู้ค้าตามทะเบียนรายชื่อว่าแต่ละรายมีสิทธิ์ทำการค้าในพื้นที่เท่าใด หากสงสัยให้ขอตรวจสอบได้ก่อนที่จะมีการจัดเก็บ ทั้งนี้ตนทราบว่าจากการจัดเก็บค่าทำความสะอาดแผงค้าช่วงครึ่งเดือนตุลาคมที่ผ่านมาโดยฝ่ายสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม 50 เขต สามารถจัดเก็บได้รวมจำนวนประมาณ 4 ล้านบาท โดยเก็บได้ประมาณ 80% ของผู้ค้าทั้งหมดในบัญชี อย่างไรก็ตามหากสามารถแก้ปัญหาการวัดพื้นที่แผงค้าได้แล้ว คาดว่าจะสามารถจัดเก็บได้เดือนละประมาณ 10-12 ล้านบาท ตามทะเบียนผู้ค้า--จบ--
-นห-