กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--กทม.
นายสนั่น โตทอง ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวว่า เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประสบปัญหาในด้านการลงทุน ทำให้มีอาคารค้างการก่อสร้างหรืออาคารร้างเกิดขึ้นจำนวนมาก เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร มีโครงการค้างการก่อสร้างประมาณ 350 โครงการ มีอาคารร้างกว่า 800 อาคาร คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งอาคารเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหาอุบัติเหตุและเป็นสถานที่ก่ออาชญากรรมได้ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว กรุงเทพมหานคร จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์สงเคราะห์อาคารที่ประสบปัญหา” โดยจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบอาคารร้างในเขตกรุงเทพมหานครว่าตัวอาคารมีสภาพเสื่อมโทรมหรือไม่ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง เช่น เครน ลิฟต์ แผงกันวัสดุตกหล่น ฯลฯ อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่ และสมควรล้อมรั้วอาคารหรือติดไฟส่องสว่างเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
สำหรับศูนย์ฯ ดังกล่าวมีหน้าที่ให้คำปรึกษา แนะนำการแก้ไขปัญหาอาคารค้างการก่อสร้างตามกฎหมายควบคุมอาคารฯ ที่กำหนดให้สามารถออกใบอนุญาตให้ดำเนินการต่อไปไม่ว่าจะเป็นกรณีการโอนกรรมสิทธิอาคาร การขออนุญาตก่อสร้างดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลงการใช้อาคาร เป็นต้น
ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กล่าวต่อว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มีนโยบายให้ใช้ประโยชน์จากอาคารค้างการก่อสร้าง กองควบคุมอาคารจึงได้จัดเจ้าหน้าที่ออกสำรวจอาคารร้างในเขตกรุงเทพมหานครว่า อาคารร้างต่างๆ ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ ใครคือเจ้าของที่ดินหรือเจ้าของโครงการ สภาพอาคารเป็นอย่างไร ฯลฯ เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่สนใจเข้ามาซื้อหรือทำสัญญาดำเนินการก่อสร้างต่อไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ คือ เกิดการหมุนเวียนทางการเงินและลดปริมาณหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่สนใจ สามารถขอทราบข้อมูลอาคารค้างการก่อสร้างได้ที่ กองควบคุมอาคาร ชั้น 5 สำนักการโยธา กทม.2 ดินแดง โทรศัพท์หมายเลข 247-0075--จบ--
-นห-