กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--สพช.
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้เห็นชอบการเรียกชื่อน้ำมันจากพืชมาเป็นเชื้อเพลิงตามหลักสากล โดยให้คำจำกัดความ “ไบโอดีเซล” หมายถึงการแปลงน้ำมันพืชให้เป็นสาร Ester ส่วนการนำน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันมะพร้าวมาผสมกับน้ำมันดีเซลหรือน้ำมันก๊าด ดังที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ ให้มีการระบุด้วยว่า ถ้าน้ำมันพืชที่กลั่นแล้วให้เรียกว่า “บริสุทธิ์” ถ้าไม่กลั่นให้เรียกว่า “ดิบ” เช่น ดีเซลปาล์มดิบ หรือ ดีเซลปาล์มบริสุทธิ์ เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะกับเครื่องยนต์แต่ละชนิด
สำหรับแนวทางการสนับสนุนการใช้น้ำมันจากพืชเป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ได้ทุ่ม งบประมาณเต็มที่จากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยให้ ปตท.ผลิตดีเซลปาล์มบริสุทธิ์ป้อนให้หน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจได้ใช้ก่อน ซึ่งมีความต้องการใช้ประมาณ 400 ล้านลิตรต่อปี พร้อมทั้งให้ชี้แจงเกษตรกรที่ใช้ดีเซลมะพร้าวดิบหรือดีเซลปาล์มดิบในเครื่องยนต์ดีเซลหมุนเร็วว่า อาจมีปัญหาต่อเครื่องยนต์ได้ แต่ยังสามารถใช้กับเครื่องยนต์รอบต่ำได้ เช่น เครื่องยนต์ดีเซลสำหรับจักรกลการเกษตร เรือประมง เรือสินค้า อย่างไรก็ตามต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและมีความรู้ในการดูแลรักษาเครื่องยนต์อยู่เสมอด้วย ขณะเดียวกันจะสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อกำหนดมาตรฐานไบโอดีเซลของไทยที่ ปลอดภัยต่อเครื่องยนต์และสิ่งแวดล้อม การวิจัยเพื่อลดต้นทุนในการผลิตตั้งแต่การปลูกจนถึงการผลิต การวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลและการต่อเติมหรือปรับแต่งให้เหมาะสม รวมทั้งนำ “สบู่ดำ” หรือ น้ำมันพืชที่เหลือจากการใช้ทำอาหาร เช่น จากร้านฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ มาใช้เป็นเชื้อเพลิงอีกด้วย นอกจากนี้เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำมันจากพืช คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเห็นควรให้กระทรวงการคลัง ยกเว้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันและเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและเงินเก็บเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในส่วนของน้ำมันพืช หรือ Ester ที่ผลิตจากน้ำมันพืช ในอัตราส่วนที่ผสมในน้ำมันดีเซล โดยเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตเฉพาะในส่วนของน้ำมันดีเซลเท่านั้น--จบ--
-สส-