กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--พาร์ทูโกล
บมจ. ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม เริ่มเปิดขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 มูลค่าโครงการรวม 7 พันล้านบาท หลังการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย อนุมัติ TFD จัดตั้งนิคมฯ ทีเอฟดี 2 จำนวน 840 ไร่ พร้อมเข้าทำสัญญาร่วมดำเนินงานกับ กนอ. มั่นใจรับรู้รายได้ในไตรมาส ที่ 4/ 59 ทันที หลังจากมีลูกค้าต่างชาติเข้าเจรจาติดต่อขอซื้อพื้นที่เพื่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมหลายราย เผยลูกค้าติดใจบริการเพราะมีบริษัทในเครือรับสร้างโรงงานมาตรฐานให้แบบครบวงจร
นายอภิชัย เตชะอุบล รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิยายน 2559 TFD และการนิคมอุตสาหกรรม (กนอ.) ได้ร่วมลงนามสัญญาร่วมดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ กนอ. ใช้เวลาในการพิจารณานิคมอุตสาหกรรมส่วนขยายเฟส 2 กว่า 4 เดือน และอนุมัติให้จัดตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 จำนวน 840 ไร่ โดยTFD พร้อมพัฒนานิคมฯ ด้วยเนื้อที่ทั้งหมด 840 ไร่ และเริ่มเปิดขายได้ภายในไตรมาส 4/59 ตั้งเป้ายอดขายจากทั้งหมดไว้ที่ 7 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้ มีกลุ่มทุนในประเทศและต่างประเทศเข้ามาเจรจาขอซื้อที่ดินเป็นจำนวนมาก สำหรับปี 2559 ตั้งเป้ายอดขายที่ดิน 200 ไร่ รวมมูลค่า ประมาณ 2 พันล้านบาท แต่คาดว่าจะสามารถโอนได้ภายในปี 2559-2560 ที่ 1 พันล้านบาท ส่วนปี 2560 ตั้งเป้ายอดขายที่ดินเพิ่มอีก 200 ไร่
"นิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่ในแนวคู่ขนานกับถนนมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ ชลบุรี ช่วงทางเข้าฉะเชิงเทรา ระหว่างกม.ที่ 42-45 นับว่าอยู่ในทำเลที่ดี ใกล้กับท่าเรือแหลมฉะบัง และห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 43 กม. เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที จึงทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากทำเลที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม ทีเอฟดี 2 มีข้อได้เปรียบจากที่อื่นแล้ว TFD ยังมีบริษัทในเครือที่ให้บริการสร้างโรงงานที่ได้มาตรฐานให้กับผู้ที่มาซื้อที่ดินภายในนิคม จึงสร้างความสะดวกให้แก่นักลงทุนอย่างมาก" นายอภิชัย กล่าว
อย่างไรก็ตามคาดว่าการจำหน่ายที่ดินของ นิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 จะสามารถรับรู้รายได้และมีแนวโน้มพลิกฟื้นผลประกอบการที่ดีขึ้นภายใน ปี 2560 ซึ่งปัจจุบันถือว่าสัญญาณการกลับเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติดีขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจได้ชะลอตัวมาระยะหนึ่งแล้ว และกำลังจะเริ่มเข้าสู่การลงทุนรอบใหม่ จึงถือเป็นจังหวะที่ดีในการเปิดขาย นิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 ในช่วงนี้