กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--24 คูณ 7
• ลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ขยายตัว 8.6% เกือบ 2 เท่าตัวของตลาดรถจักรยานยนต์
• คุณภาพลูกหนี้ดีขึ้นต่อเนื่อง ออกหุ้นกู้ 4 ครั้ง 2,000 ล้านบาท ในปี 2559
ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย 3.4%
บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2559 ว่าบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 112.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.6% จาก 64.4 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ TK เปิดเผยว่ากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3/2559 เป็นผลมาจากการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ และการควบคุมคุณภาพลูกหนี้อย่างต่อเนื่องถึง 14 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้ลูกหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือนลดลงที่ 4.9% อีกทั้งต้นทุนทางการเงินของ TK อยู่ในระดับต่ำเฉลี่ยที่ 3.4% ซึ่งเป็นผลจากการออกหุ้นกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ ระยะยาว 3 ปี ถึง 4 ครั้งในปีนี้ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท และ TRIS ให้ CREDIT RATING TK A- (คงที่) มาตั้งแต่ปี 2553 ยืนยันความแข็งแกร่งของระบบบัญชีการตั้งสำรองและการควบคุมคุณภาพลูกหนี้ที่ดี
ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น 4.4% จาก 1,293,465 คันเมื่อปีที่แล้วมาเป็น 1,350,105 คัน TK สามารถขยายลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ได้ 8.6% หรือเกือบ 2 เท่าตัวของยอดขายรถจักรยานยนต์ และยอดขายรถจักรยานยนต์มีแนวโน้มจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2560 TK เตรียมความพร้อมในการขยายการให้บริการสินเชื่อ ทั้งในด้านเงินทุนและพนักงาน รวมถึงเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ 88 สาขา, ราชอาณาจักรกัมพูชา 3 สาขา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 1 สาขา
นางสาวปฐมา กล่าวว่า ณ ไตรมาส 3 ปี 2559 บริษัทมีลูกหนี้เช่าซื้อและลูกหนี้เงินให้กู้ยืมสุทธิรวม 7,616.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% จาก 7,252.3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา บริษัทมีสินทรัพย์รวม 8,503.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% จาก 8,283.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และหนี้สินรวม 4,054.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4 % จาก 3,962.4 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีผ่านมา
กลุ่มบริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ของประเทศ ปัจจุบันมีพนักงาน กว่า 2,100 คน และมีสาขาบริการรวม 88 สาขา มีบริษัทลูกในประเทศ 4 บริษัท และต่างประเทศ 2 บริษัท ในประเทศกัมพูชาและลาว ให้บริการลูกค้าเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ โดยมีลูกค้าประมาณ 300,000 ราย