กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดอุทัยธานี เริ่มคลี่คลายแล้ว ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง ยังมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรในบางแห่ง ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นและหมอกปกคลุมในช่วงเช้า ส่วนภาคใต้ยังมีฝนตกได้ในระยะนี้ ซึ่ง ปภ. ได้ประสานให้จังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมือ อุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในช่วงวันที่ 7 – 10 พฤศจิกายน 2559 ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่งในจังหวัดอุทัยธานี รวม 5 อำเภอ 21 ตำบล 67 หมู่บ้าน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองฉาง และอำเภอหนองขาหย่าง รวม 16 ตำบล 56 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 561 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 6,695 ไร่ ถนนถูกน้ำท่วมขัง 5 สาย ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกจากพื้นที่ชุมชนไปยังแหล่งรองรับน้ำ รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่
พร้อมรถบรรทุกขนาดใหญ่ เรือท้องแบนอำนวยความสะดวกในการสัญจรและขนย้ายสิ่งของแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัย และทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พร้อมเร่งซ่อมแซมสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณะประโยชน์ให้ใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว นอกจากนี้ จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศหนาวเย็น และมีหมอกในช่วงเช้า ปภ. จึงได้ประสานจังหวัดเตรียมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็น และวางมาตรการป้องกันภัยในช่วงฤดูหนาว เน้นการประชาสัมพันธ์ข้อมูลสภาพอากาศและภาวะความเสี่ยงภัยในช่วงฤดูหนาว เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตในช่วงฤดูหนาวได้อย่างปลอดภัย สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ โดยเปิดไฟหน้ารถ
ไฟตัดหมอก ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ ไม่แซงหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ในช่วงหมอกปกคลุมเส้นทาง ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ส่งผลให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตก
ได้ในระยะนี้ ปภ.จึงได้ประสานให้จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด
พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมือ อุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัย พร้อมปฏิบัติตามคำเตือน
อย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป