กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์
มากกว่า 3 ใน 4 ของผู้ขับขี่ชาวไทยไม่รู้วิธีการใช้จีพีเอสเพื่อค้นหาเส้นทางการขับรถที่รวดเร็วที่สุดก่อนออกเดินทาง
ร้อยละ 79 ของผู้ขับขี่ชาวไทย ไม่รู้ว่าการใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้
การสำรวจความเข้าใจด้านการประหยัดน้ำมันของฟอร์ด ครอบคลุมผู้ขับขี่กว่า 9,500 คนใน 11 ตลาดทั่วเอเชียแปซิฟิก โดยมีผู้ขับขี่ชาวไทยร่วมตอบแบบสอบถาม 1,026 คน
ผู้ขับขี่ชาวไทยกล่าวว่าพวกเขามั่นใจในทักษะการขับขี่และมีความรู้เกี่ยวกับ 'การขับขี่ที่ดี' แต่เมื่อถามถึงเทคนิคการขับขี่ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ผู้ขับขี่ชาวไทยส่วนใหญ่ยังคงมีความเข้าใจผิด
จากผลสำรวจล่าสุดด้านการประหยัดน้ำมันของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ผู้ขับขี่ชาวไทยจำนวน 1,026 คนได้ร่วมตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับนิสัยการขับขี่และความรู้เกี่ยวกับการประหยัดน้ำมัน
ร้อยละ 93 ของผู้ขับขี่ชาวไทยกล่าวว่าพวกเขารู้ว่าต้องขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมันสูงสุด และร้อยละ 97 กล่าวว่าพวกเขาพยายามขับรถอย่างประหยัดน้ำมันทุกวัน
มร. เคลวิน ทาลิโอ หัวหน้าวิศวกร ด้านวิศวกรรมเครื่องยนต์ ฟอร์ด เอเชีย แฟซิฟิก กล่าวว่า "เมื่อพูดถึงการประหยัดน้ำมัน สิ่งที่เราคิดว่าเรารู้กับสิ่งที่เรารู้จริงๆ นั้นมักจะแตกต่างกัน เห็นได้จากผลสำรวจของเราที่แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้ถึงประโยชน์ของจีพีเอสหรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่สามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้"
ร้อยละ 37 ของผู้ขับขี่ไม่รู้ว่าการเร่งเครื่องและเบรกกะทันหันสามารถส่งผลกระทบกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
ข้อเท็จจริง: การขับขี่รถอย่างกระชาก เช่น การเร่งเรื่องและเบรกกะทันหัน เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน
ร้อยละ 79 ของผู้ขับขี่ไม่รู้ว่าระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้
ข้อเท็จจริง: ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเป็นอาวุธลับของรถรุ่นใหม่ที่ใช้สู้กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน การรักษาระดับความเร็วให้คงที่ แปลว่าคุณไม่ต้องเสียน้ำมันไปกับการเบรกและเร่งเครื่องโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ขับรถเร็วเกินตามที่กฎหมายกำหนดอีกด้วย
มากกว่า 3 ใน 4 ไม่รู้วิธีการใช้จีพีเอส เพื่อค้นหาเส้นทางการขับรถที่รวดเร็วที่สุด
ข้อเท็จจริง: ทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่ายิ่งขับรถนานเท่าไร คุณก็จะใช้น้ำมันมากขึ้นเท่านั้น แต่คุณสามารถประหยัดทั้งเงินและเวลาได้มากขึ้นหากตรวจสอบเส้นทางการเดินทางของคุณล่วงหน้าบนระบบจีพีเอสเพื่อเลือกเส้นทางขับรถที่รวดเร็วที่สุด
มากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 51) ไม่รู้ว่าการขับขี่บนพื้นที่ลาดชันจะส่งผลกระทบต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
ข้อเท็จจริง: การขับระยะทางไกลบนภูเขาจะใช้น้ำมันมากกว่าการขับบนพื้นราบและบนถนนเส้นตรง การขับขึ้นเขาใช้น้ำมันมากกว่าเนื่องจากรถยนต์จำเป็นทำงานหนักขึ้นเพื่อสู้กับแรงโน้มถ่วง
ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมาก ไม่รู้ว่าอากาศเย็น (ร้อยละ 86) และอากาศร้อน (ร้อยละ 58) ส่งผลกระทบต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
ข้อเท็จจริง: อากาศเย็นทำให้รถของคุณสิ้นเปลืองน้ำมันมากยิ่งขึ้น เนื่องจากต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าจะทำให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงขึ้นจนทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นคุณอาจต้องคิดให้ดี หากวางแผนไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาว แต่หากต้องขับรถในสภาพอากาศที่ร้อนกว่า ให้พิจารณาว่าเมื่อใดควรใช้ระบบปรับอากาศในรถยนต์ เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงขึ้น รถจะเกิดแรงต้านอากาศมากขึ้นและส่งผลกระทบโดยตรงต่ออัตราการประหยัดน้ำมัน ดังนั้น เมื่อใช้ระดับความเร็วบนทางหลวง ควรปิดกระจกและใช้ระบบปรับอากาศเพื่อลดแรงต้านอากาศ หรือขับขี่ด้วยความเร็วต่ำเมื่อลดกระจกรถลง
เพียงร้อยละ 52 จากผู้ทำแบบสำรวจรู้ว่าการกำจัดสัมภาระและของจุกจิกต่างๆ ที่ไม่จำเป็นออกจากรถ ช่วยประหยัดน้ำมัน
ข้อเท็จจริง: น้ำหนักส่วนเกินบนรถส่งผลอย่างมากต่ออัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นประมาณ 20 กิโลกรัมจะลดอัตราการประหยัดน้ำมันราวร้อยละ 1 ดังนั้น พยายามขนของไปทริปครั้งต่อไปเท่าที่จำเป็น
ร้อยละ 67 ไม่รู้ว่าการเปลื่ยนยางเป็นแบบสปอร์ตหรือการเปลี่ยนชุดแต่งรถสามารถส่งผลกระทบต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
ข้อเท็จจริง: การพยายามเปลี่ยนรถของคุณให้โฉบเฉี่ยวตามภาพยนตร์ Fast and Furious อาจทำให้คุณดูเท่บนท้องถนน แต่มันเพิ่มแรงต้านการหมุนของล้อและเพิ่มแรงต้านทานอากาศซึ่งทำให้รถสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น
ร้อยละ 36 ไม่รู้ว่าการนำรถเข้าตรวจเช็คเป็นประจำสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้ และ 1 ใน 3 ไม่ทราบว่าการตรวจเช็คลมยางเป็นประจำสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้
ข้อเท็จจริง: การนำรถเข้าตรวจเช็คเป็นประจำและเติมลมอย่างถูกต้อง เป็นความรู้พื้นฐานที่หลายๆ คนลืมกันง่ายๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดค่าน้ำมันได้
แม้ว่าผู้ขับขี่ชาวไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อยานพาหนะแบบประหยัดน้ำมันเพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่นิสัยการขับขี่ที่ดีต่างหาก คือวิธีดีที่สุดสำหรับการประหยัดน้ำมันและเงินในกระเป๋า
"การเลือกรถยนต์แบบประหยัดน้ำมันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับการประหยัดน้ำมัน แต่หากเป้าหมายของคุณคือการประหยัดเงินและเดินทางได้ไกลขึ้น นิสัยการขับขี่ที่ดีจะช่วยให้คุณเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน" มร. ทาลิโอ ผู้ทำงานพัฒนาเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ ขนาด 1.0 ลิตรของฟอร์ดที่คว้ารางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย กล่าว
เทคโนโลยีอีโค่บูสท์คือหัวใจหลักของฟอร์ดในการพยายามพัฒนาเครื่องยนต์ที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น โดยใช้ระบบเทอร์โบชาร์จ ระบบวาล์วแปรผัน (variable-valve timing) และระบบไดเร็ค อินเจ็คชั่น (direct fuel injection) พร้อมทั้งลดขนาดความจุเครื่องยนต์เพื่อให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันมากขึ้นและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง แต่คงสมรรถนะเทียบเท่าเครื่องยนต์ที่มีขนาดความจุใหญ่กว่าโดยไม่สูญเสียสมรรถนะของรถยนต์ไป
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ฟอร์ดได้นำเครื่องยนต์อีโค่บูสท์มาติดตั้งในรถยนต์หลายๆ รุ่น เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้น้อยลง ในประเทศไทย เครื่องยนต์อีโค่บูสท์ ติดตั้งอยู่ในฟอร์ด โฟกัส ใหม่