กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--Worklink PR
BEAUTY เนื้อหอม นักลงทุนสถาบันในและต่างประเทศขอถือหุ้นเพิ่ม 10% ขายหุ้นเดิม 300 ล้านหุ้น ราคา 11 บาท หมอสุวินเผยนักลงทุนสถาบันเชื่อมั่นศักยภาพการเติบโต โครงสร้างการบริหารไม่เปลี่ยนแปลง ถือหุ้นใหญ่ 25.94% ประกาศเดินหน้าขยายธุรกิจ สร้างการเติบโตก้าวกระโดด
นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY ) เปิดเผยว่ากลุ่มนพ.สุวิน ไกรภูเบศ ซึ่งประกอบไปด้วย นพ.สุวิน ไกรภูเบศ กรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทฯ และคุณธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ กรรมการและผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ได้ทำการขายหุ้นสามัญเดิมจำนวนรวม 300,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 10.00 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ ในราคาหุ้นละ 11.00 บาท แก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเป็นการขายให้แก่นักลงทุนในวงจำกัดแบบข้ามคืน (Overnight Global Bookbuild Transaction)
ภายหลังการขายหุ้นในครั้งนี้กลุ่มนพ.สุวิน จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้มีอำนาจควบคุมในบริษัทฯ โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมคิดเป็นร้อยละ 25.94 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ ทั้งนี้ นพ.สุวิน ไกรภูเบศ จะยังคงเป็นกรรมการและผู้บริหารและคุณธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ จะยังคงเป็นกรรมการดังเดิม อีกทั้งโครงสร้างการบริหารจัดการจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
การขายหุ้นสามัญเดิมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มฐานผู้ลงทุนประเภทสถาบันและเพื่อให้ฐานผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ มีการกระจายตัวที่เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยการขายหุ้นสามัญเดิมในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนประเภทสถาบันเป็นจำนวนมาก โดยมีความต้องการประมาณ 3 เท่าของหุ้นที่ขาย โดยหุ้นส่วนใหญ่ได้รับการจัดสรรให้กับนักลงทุนสถาบัน ภายหลังจากการขายหุ้นสามัญเดิมในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีปริมาณหุ้นที่ซื้อขายหมุนเวียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Free Float) ประมาณร้อยละ 72.83 โดยมีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศและนักลงทุนสถาบันไทยคิดเป็นประมาณร้อยละ 35 และร้อยละ 21 ของ Free Float ของบริษัทฯ ตามลำดับ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
"เราได้รับการติดต่อจากสถาบันทั้งในและต่างประเทศ แสดงความต้องการลงทุนระยะยาวในหุ้นของบริษัท เนื่องจากมีความเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการที่ดี แผนการดำเนินงานและแนวโน้มการเติบโตในอนาคต ความเชื่อมั่นจากนักลงทุนสถาบันเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของการเป็นกิจการที่มีศักยภาพ อีกทั้งการที่มีสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศเข้ามาลงทุน จะส่งผลให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของกิจการแข็งแรงขึ้น ซึ่งผมมั่นใจว่าจะเป็นผลบวกต่อบริษัท"นพ.สุวิน กล่าว
อย่างไรก็ตามคณะผู้บริหารและบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจ และสร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ วางกลยุทธ์การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ออกโปรโมชั่นต่างๆ จัดกิจกรรมกับลูกค้าสมาชิก เพื่อกระตุ้นยอดขาย และออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบรับความต้องการของตลาด ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้รวมปีนี้ จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 2,100 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20