กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--ธามดี พลัส
"PCD" ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองหลักทรัพย์ เสนอขายไอพีโอจำนวน 150 ล้านหุ้น คาดได้เงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านกีบ (ประมาณ 120 ล้านบาท) โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับงานก่อสร้าง วิจัยค้นคว้าและพัฒนา ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในงานก่อสร้าง และบางส่วนนำไปชำระคืนเงินกู้ ด้านที่ปรึกษาทางการเงิน เผยบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และยังมีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้(Backlog) อีกกว่า 393,536 ล้านกีบ(ประมาณ 1,574.14 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการรับงานใหม่ในอนาคตอีกกว่า 1,276,355 ล้านกีบ(ประมาณ 5,105.42 ล้านบาท) ทำให้มั่นใจ PCD จะเป็นหุ้นขวัญใจของตลาดหลักทรัพย์ลาวอย่างแน่นอน
นายสีทอง พรหมมะจิต ประธานสภาบริหาร บริษัท พูสีก่อสร้างและพัฒนา มหาชน (PCD) หนึ่งในผู้นำการให้บริการงานวิศวกรรมการก่อสร้างแบบครบวงจร(Design and EPC) เปิดเผยว่า วันนี้ (16 พย. 2559) บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองหลักทรัพย์ (สคคซ.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2,000 กีบ ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 700,000 ล้านกีบ (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) และภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว(LSX) บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 1,000,000 ล้านกีบ (ประมาณ 4,000 ล้านบาท)
ขณะที่การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชน(IPO) จะมีการกำหนดราคาเมื่อทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองหลักทรัพย์(สคคซ.) อนุมัติให้บริษัท พูสีก่อสร้างและพัฒนา มหาชน เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอนาคตบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายขึ้นมาเป็นผู้นำงานด้านการก่อสร้างและพัฒนาภายในประเทศและจะขยายธุรกิจไปถึงเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอีกด้วย
"บริษัทฯ คาดว่าจะได้เงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านกีบ (ประมาณ 1,200 ล้านบาท) และจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับงานก่อสร้างประมาณ 166,000 ล้านกีบ(ประมาณ 664 ล้านบาท) วิจัยค้นคว้าและพัฒนา(Research andDevelopment) ประมาณ 38,000 ล้านกีบ(ประมาณ 152 ล้านบาท) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในงานก่อสร้างประมาณ 388,000 ล้านกีบ(ประมาณ 1552 ล้านบาท) บางส่วนนำไปชำระคืนเงินกู้ในนามบริษัท/หรือในนามบุคคลที่เกี่ยวพันประมาณ 77,000 ล้านกีบ(ประมาณ 308 ล้านบาท) ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ประมาณ 155,000 ล้านกีบ(ประมาณ 620 ล้านบาท)"นายสีทอง กล่าว
นางสาวพิไลพร วงประเสริฐ ผู้อำนวยการ บริษัท พูสีก่อสร้างและพัฒนา มหาชน (PCD) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่ได้ลงนามเซ็นสัญญาและอยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 840,121 ล้านกีบ(ประมาณ 3,360.48 ล้านบาท) แบ่งเป็น โครงการก่อสร้างถนนลาดยางมะตอย 2 ชั้น เส้นทางเลขที่ 2501 ระยะทาง 50.20 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 343,615 ล้านกีบ(ประมาณ 1,374.46 ล้านบาท ) อายุสัญญาปี 2013-2016(ต่ออายุสัญญาถึงปี2019) โครงการก่อสร้างทางยกระดับเส้นทางเลขที่ 3503 ระยะทาง 50.02 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 80,881 ล้านกีบ(ประมาณ 323.52 ล้านบาท) อายุสัญญาปี 2013-2015(ต่ออายุสัญญาถึงปี 2018) และโครงการก่อสร้างเส้นทางเลียบชายแดนลาว-เวียดนาม-กัมพูชา ระยะทาง 225 กิโลเมตร มูลค่าสัญญา 415,625 ล้านกีบ(ประมาณ 1,662.50 ล้านบาท)
"ปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่างานทั้งหมด(Backlog)จำนวน 840,121 ล้านกีบ(ประมาณ 3,360.48 ล้านบาท รับรู้รายได้ไปแล้วจำนวน 446,585 ล้านกีบ(ประมาณ 1,786.34 ล้านบาท) คงเหลือ 393,536 ล้านกีบ(ประมาณ 1,574.14 ล้านบาท) และบริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการสำรวจออกแบบเพื่อเตรียมการประมูลและเซ็นสัญญาในปี 2016 มูลค่ารวมประมาณ 1,276,355 ล้านกีบ(ประมาณ 5,105.42 ล้านบาท) ซึ่งบริษัทฯ มีทีมงานที่มีความรู้ความสามารถ มีเทคนิคงานด้านวิศวกรรมการก่อสร้างและเทคโนโลยีก่อสร้างที่ทันสมัย และรักษาคุณภาพ มาตราฐานในการทำงานได้เป็นอย่างดี รวมถึงส่งมอบงานได้ทันเวลา ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดีและทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง"นางสาวพิไลพร กล่าว
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ เอพีเอ็มลาว จำกัด (APMLAO) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท พูสีก่อสร้างและพัฒนา มหาชน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ย้อนหลัง 3 ปีและ 6 เดือนแรกของปี 2016 ดังนี้ ปี 2013 มีรายได้รวม 118,101 ล้านกีบ (ประมาณ 472.40 ล้านบาท) กำไรสุทธิ 38,559 ล้านกีบ (ประมาณ 154.23 ล้านบาท) ปี 2014 มีรายได้รวม 93,266 ล้านกีบ (ประมาณ 373.06 ล้านบาท) กำไรสุทธิ 72,685 ล้านกีบ (ประมาณ 290.74 ล้านบาท) ปี 2015 มีรายได้รวม 144,629 ล้านกีบ (ประมาณ 578.51 ล้านบาท) กำไรสุทธิ 68,079 ล้านกีบ (ประมาณ 272.31 ล้านบาท)
"สปป.ลาวเป็นประเทศตั้งอยู่ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีชายแดนติดกับ 5 ประเทศเพื่อนบ้านและไม่มีชายแดนติดกับทะเล การคมนาคมขนส่งสินค้า หรือการค้าส่วนใหญ่จึงเน้นทางบก ดังนั้นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญ ขณะเดียวกันการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจของสปป.ลาวในระยะ 3 ปีที่ผ่านมาคือตั้งแต่ปี 2013-2015 ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศอยู่ร้อยละ 8.0,7.8 และ7.40 ตามลำดับ ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่น่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นเชื่อว่าบริษัทฯ ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก และเมื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว จะยิ่งทำให้บริษัทฯ มีฐานทุนที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น รวมไปถึงความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี เชื่อว่า PCD จะเป็นหุ้นที่ขวัญใจของตลาดหลักทรัพย์ลาวอย่างแน่นอน"นายสมภพ กล่าว