กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--ซีพีเอฟ
เป็นไปตามวิสัยทัศน์ "ครัวของโลก" (Kitchen of the world)
เข้าไปสู่ตลาดอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจจากศักยภาพและเครือข่ายของ ซีพีเอฟ และ Bellisio ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและส่งออกไปทั่วโลก
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ"ซีพีเอฟ" ประกาศการเข้าซื้อกิจการของ Bellisio Parent, LLC เป็นมูลค่าจำนวน 1,075 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าการเข้าซื้อจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 180 วันนับจากวันลงนามในสัญญาและได้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขโดยครบถ้วนแล้ว
กลุ่ม Bellisio เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2533 โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานแบบ Single Serve ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดสูงเป็นลำดับที่ 3 (คำนวณจากปริมาณจำหน่าย) ในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้ตราสินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป เช่น Michelina's Chilli's Boston Market และ Atkins เป็นต้น รวมถึงอาหารเพื่อสุขภาพซึ่งมีจุดเด่นด้านคุณภาพและโภชนาการ ภายใต้ตราสินค้า EatingWell และ EAT! ซึ่งกลุ่ม Bellisio เริ่มวางจำหน่ายเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนี้ กลุ่ม Bellisio ยังเป็นผู้นำในตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานแบบ Single Serve ในประเทศแคนาดาอีกด้วย ปัจจุบัน กลุ่ม Bellisio มีโรงงานรวมทั้งสิ้น 4 โรงงาน ตั้งอยู่ในรัฐ Ohio รัฐ California และรัฐMinnesota
นอกจากนั้น กลุ่ม Bellisio ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ค้าปลีกชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้มีช่องทางขายร้านจัดจำหน่ายถึงกว่า 50,000 แห่ง นอกจากนี้โรงงานหลักของกลุ่ม Bellisio ในเมือง Jackson รัฐ Ohio ตั้งอยู่ในจุดยุทธ์ศาสตร์สำคัญที่สามารถส่งสินค้าไปยังเมืองต่างๆครอบคลุมครึ่งหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกาภายใน 24 ชั่วโมงและครอบคลุมทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาภายใน 48 ชั่วโมง รายได้สุทธิ (adjusted net sales) รวมล่าสุด 12 เดือนของกลุ่ม Bellisio มีจำนวน 668 ล้านเหรียญสหรัฐ และ adjusted EBITDA มีจำนวน 82 ล้านเหรียญสหรัฐ
Joel Conner ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่ม Bellisio เปิดเผยว่า "เราขอขอบคุณ Centre Partner ผู้ถือหุ้นเดิมสำหรับการสนับสนุนการทำงานร่วมกันตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และเรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มซีพีเอฟซึ่งเราคิดว่าการทำงานร่วมกันจะผลักดันการเจริญเติบโตของ Bellisio ได้เป็นอย่างดีในอนาคต"
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซีพีเอฟ เปิดเผยว่า "บริษัทมีความยินดีที่จะได้ร่วมงานกับคุณ Joel และทีมงานเพื่อนำ Bellisio ไปสู่ก้าวต่อไป การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นการเข้าไปสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีโอกาสในการขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง การผสมผสานจุดแข็งของซีพีเอฟและกลุ่มBellisio จะสามารถทำให้มีการผลิตสินค้าที่หลากหลายมากขึ้นโดยเฉพาะสินค้าอาหารเอเซียให้กับช่องทางจำหน่ายและเครือข่ายของทั้งสองกลุ่ม ทำให้มีโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและส่งออกไปทั่วโลก การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของซีพีเอฟที่ต้องการขยายธุรกิจอาหารไปยังตลาดที่มีศักยภาพ สัดส่วนยอดขายของบริษัทหลังจากการเข้าซื้อเสร็จสมบูรณ์จากการประมาณการเบื้องต้นนั้นจะทำให้สัดส่วนของธุรกิจอาหารของซีพีเอฟเพิ่มขึ้น
J.P. Morgan ทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงินและ Davis Polk & Wardwell LLP ทำหน้าที่ที่ปรึกษากฎหมายให้แก่ ซีพีเอฟ ในการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้