กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
"ออลล่า" ตุน Backlog 324 ลบ. รับรู้รายได้ Q4/59 เป็นต้นไป พร้อมเดินหน้าเข้ารับงานใหม่มั่นใจปีหน้าผลงานโดดเด่น หลังการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ฟื้นตัวชัดเจน
นายองอาจ ปัณฑุยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออลล่า จำกัด (มหาชน) หรือ ALLA ผู้ผลิต จำหน่าย และติดตั้งอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุอุปกรณ์ และสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม และคลังสินค้าต่าง ๆเปิดเผยว่า ในปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือเพื่อรอรับรู้รายได้ หรือ Backlog อยู่ประมาณ 324 ล้านบาท โดยจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ไปจนถึงปีหน้า โดย Backlog จำนวนดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นงานเครน และรอกไฟฟ้าสำหรับหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะโรงไฟฟ้า ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตตามความต้องการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อเข้ารับงานใหม่ๆ จากลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ค้าปลีก รถยนต์ โรงไฟฟ้า รถไฟฟ้า เป็นต้น ทั้งนี้จากมูลค่า Backlog ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของการลงทุนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น หลังจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาการลงทุนของทั้งภาครัฐ และเอกชนอยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่งถือว่าเป็นช่วงจุดต่ำสุดของบริษัทฯ โดยคาดว่าตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป ผลประกอบการของบริษัทฯจะกลับมาเติบโตได้อย่างโดดเด่นตามการลงทุนของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการเดินหน้าขยายตลาดไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย ที่คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญา MOU ข้อตกลงในการจัดตั้งบริษัทร่วมที่อินโดนีเซีย ได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งในประเทศอินโดนีเซียถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และมีความต้องการใช้อุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุอุปกรณ์ และสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม และคลังสินค้าต่าง ๆ ที่สูงเนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นเกาะทำให้มีคลังสินค้า และท่าเทียบเรือเป็นจำนวนมาก ซึ่งการขยายตลาดในต่างประเทศจะเป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯในอนาคต
"ช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงที่การลงทุนของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถือว่าในตอนนี้บริษัทฯได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จากสัญญาณการลงทุนที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้น อันจะเห็นได้จากตัวเลข Backlog ของบริษัทฯที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีอีกหลายงานที่อยู่ในระหว่างเจรจาเพื่อเข้ารับงานในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้เรามั่นใจว่าในปีหน้าผลการดำเนินงานของบริษัทฯจะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น" นายองอาจกล่าว