กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--ไทยทีวีสีช่อง 3
นาคี ตอนที่ 7 ออกอากาศ วันจันทร์ที่ 21 พย. หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3
หมออ่วมยังไม่ลดละเรื่องปราบเจ้าแม่นาคี บอกกับกอ บุญส่ง ว่าจะไปหาเหล็กไหลที่ภูพระนาง มาปราบให้ได้ บุญส่งสมทบกับกำนันแย้ม หมออ่วม กอ เตรียมออกเดินทาง
ลำเจียก อยากได้ทศพลมาเป็นของตนเอง จึงไปทำเสน่ห์ใส่ทศพล เสน่ห์ของลำเจียกเริ่มออกฤทธิ์ ทศพลตีตัวออกห่างคำแก้ว เริ่มคิดถึงแต่ลำเจียก จนคำแก้วเริ่มแปลกใจ ลำเจียกให้เมืองอินทร์ทำเสน่ห์ฝังรูปฝังรอยทศพลให้อีก เร่งวันเร่งคืนให้เขามาหา สุดท้ายทศพลไปตำบลนาคหนี ไปหาลำเจียก คำแก้วเสียใจหนัก ไม่รู้ว่าทศพลถูกเสน่ห์
เลื่อมประภัตร ฉัตรสุดา บอกกับคำแก้ว ว่าทศพลไปหาลำเจียกที่ตำบล นาคหนี คำแก้ว จึงบอกคำปอง ว่าตนเองจะไปตามทศพลกลับมา เจ้าแม่นาคีในชุดแพรเยื่อไม้สีกลีบบัวซ้อนทับร่างคำแก้ว คำแก้วกลายร่างเป็นนางพญานาคี แล้วกระโจนพรวดลงน้ำไปทันที คำปองเห็นพอดี รู้สึกเวทนาคำแก้วมากยิ่งขึ้น คำแก้วมาถึงตำบลนาคหนี แต่กลับหมดเรี่ยวแรง ด้วยคำสาปของมหาฤาษี ทศพลมาหาลำเจียกถึงบ้าน ทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน ด้วยอำนาจของมนต์เสน่ห์ แหวนพิรอดบนนิ้วลำเจียกเสื่อมสลายกลายเป็นผุยผงในพริบตา เนื่องจากทำผิดศีลข้อ 3 แย่งคนรักของคำแก้ว มาเป็นของตน
คำแก้วตามมาเจอทศพลอยู่กับลำเจียก ฤทธิ์ของมนต์เสน่ห์ทำให้ทศพลจำคำแก้วไม่ได้ เมืองอินทร์หวังจะกำจัดคำแก้วไปเสียทีเดียว คำแก้วกลายร่างเป็นนาคีต่อสู้กับเมืองอินทร์ แล้วก็ถูกคล้องด้วยบ่วงนาคบาศ เจ้าแม่นาคีร้องหวยหวน สู้ไม่ได้ เมืองอินทร์นำนาคีไปผูกไว้ที่ใต้ถุนเรือน แล้วคืนนั้น ทศพลก็ตามมาปล่อยด้วยความสงสาร ทั้งที่ยังจำคำแก้วไม่ได้ เมืองอินทร์โกรธจัด เอาไม้ตีทศพลไปหลายที จนลำเจียกต้องเข้าไปห้าม ส่วนคำแก้วกลับไปด้วยหัวใจบอบช้ำ
สุภัทร กลับไปที่เทวาลัยอีกครั้ง และได้พบกับศิลาจารึก ที่มีมนต์อาลัมพายน์อยู่ด้วย เขาดีใจมากที่ได้พบของล้ำค่า ลำเจียกท้าให้เมืองอินทร์ตามไปปราบเจ้าแม่นาคีถึงที่บ้าน เพราะตัวเองอยากประกาศให้ทุกคนรู้ว่าได้ทศพลเป็นสามีแล้ว ทั้งเมืองอินทร์ ทศพล ลำเจียก มะลิ ชบา ยกขบวนไปที่บ้านคำแก้ว
ลำเจียกพาทศพลกลับมาที่ดอนไม้ป่า ทศพลยังไม่สิ้นมนต์เสน่ห์ของลำเจียก จึงยังจำคำแก้วไม่ได้ ซ้ำลำเจียกยังบอกกับทุกคนอีกว่า คำแก้วเป็นเจ้าแม่นาคี พิมพ์พรแค้นใจไปต่อว่าลำเจียก จนถึงขนาดมีเรื่องตบตีกัน สุภัทรแค้นใจที่ทศพลทำตัวเหลวไหล ได้แต่ไปขอโทษคำปอง และปลอบคำแก้ว
ที่ภูพระนาง หมออ่วมทำพิธีอัญเชิญเหล็กไหล จึงไม่ให้บุญส่ง กอ กับกำนันแย้ม รบกวน แล้วสุดท้ายพิธีก็สำเร็จ หมออ่วมได้เหล็กไหลมาเสียที จะนำเหล็กไหลไปทำพิธีตีดาบศักดิ์สิทธิ์ ปราบเจ้าแม่นาคี ส่วนส่วนเมืองอินทร์ก็ทำพิธีในป่าช้า จะปราบเจ้าแม่นาคี แต่ไม่สำเร็จ เจ้าแม่นาคีหนีไปได้ แถมเมืองอินทร์ ยังเสีย ตะพดที่ไว้ใช้สำหรับต่อสู้ไปด้วย เลื่อมประภัสจึงออกอุบาย จะช่วยเจ้าแม่นาคี
ในอดีต
กรรเจียกป่วยด้วยไข้ใจ บอกกับนิรุทธราช ว่ารักแม่ทัพไชยสิงห์ นิรุทธราช จึงบังคับให้ไชยสิงห์แต่งกับกรรเจียก ไม่เช่นนั้นจะฆ่าเสนาทั้งสี่เสีย พระธิดาพิมพาวดีก็แอบเสียใจ เพราะหลงรักไชยสิงห์เช่นกัน ด้านนาคีก็ออกจากถ้ำ ไม่ฟังคำท้าวศรีสุทโธนาค ไปหาไชยสิงห์ แต่เมื่อไชยสิงห์รู้ว่านาคีเป็นพญานาคก็ตกใจ ทำให้นาคีเสียใจมาก บอกลาแล้วหนีไปทันที ท้าวศรีสุทโธนาค จึง บอกแก่นาคีว่า โทษฐานที่นาคี ทำผิดกฎบาดาล จึงสาปให้นาคี ไม่มีวันกลายร่างเป็นมนุษย์ได้อีก ตราบกระทั่งนาคีจะบำเพ็ญเพียรภาวนาจนสามารถลบล้างความผิดที่เคยก่อเอาไว้ วัชระปราการแค้นใจ ที่ไชยสิงห์ ทำให้นาคีต้องกลายเป็นอย่างนี้
พิมพ์พรมั่นใจว่าทศพลถูกเสน่ห์ลำเจียก จึงบุกไปที่บ้านลำเจียกพร้อมกับเจิดนภา พบตุ๊กตาฝังรูปฝังรอย พิมพ์พรจึงรีบทำลายทันที ทศพลคลายมนต์สะกด สลบไป ส่วนลำเจียกก็ถูกคุณไสย์ย้อนเข้าตัว จนเมืองอินทร์ต้องมาช่วยลำเจียก เพื่อน ๆ พาทศพลกลับบ้าน คำแก้ว เอาน้ำล้างเท้าสุภัทรให้ทศพลดื่ม ทศพลจึงกลับมาเป็นดังเดิม จำคำแก้วได้อีกครั้ง
นาคีตอนที่ 8 ออกอากาศ วันอังคารที่ 22 พย. หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3
คำแก้วบอกทศพล ว่าที่รอดชีวิตมาได้ เพราะสุภัทรผู้เป็นพ่อ ทศพลไปกราบขอขมาพ่อ ทำให้ทั้งสองปรับความเข้าใจกันได้ และสุภัทรก็รับคำแก้ว เป็นสะใภ้อย่างเต็มตัว ทศพลดีใจมาก
ลำเจียกพากอ มาทวงทศพลคืน ทศพลไม่ยอมรับ พิมพ์พรเป็นพยานเรื่องที่ลำเจียกทำเสน่ห์ใส่ทศพล จนกออายมาก พาลำเจียกกลับไป กอเครียด แหวนพิรอด ลำเจียกก็ทำหาย ไม่มีอะไรคุ้มภัยลำเจียกได้อีก
อดีต พิมพาวดีเครียดที่ไชยสิงห์จะแต่งงาน ไชยสิงห์เองก็เป็นห่วงเมืองปัตตนคร จะต้องเดือดร้อนเพราะตน หากไม่ยอมแต่งงาน สุดท้ายพิมพาวดี พาไชยสิงห์และเสนาทั้งสี่หนีการแต่งงานไปได้ แต่มีข้อแม้ต้องพาพิมพาวดีหนีไปด้วยกัน นิรุทธราชโกรธจัด เร่งระดมพลไปตีเมืองปัตตนคร กรรเจียกเสียใจหนัก ใช้ปิ่นปักผมฆ่าตัวตาย สาบานว่า หากชาติหน้ามีจริง จะแย่งไชยสิงห์มาจากพิมพาวดีให้ได้
บุญส่ง / เมืองอินทร์ / กำนันแย้ม / หมออ่วม / กอ / สมุนกำนันแย้ม 2 คน มาที่ป่าช้า เอาตะปูตอกโลงศพผีตายทั้งกลม ไปทำวิธีปลุกเสกดาบ เจอกับเมืองอินทร์ เลื่อมประภัส เข้าสิงร่างลำเจียก ไปหาเมืองอินทร์ แต่เมืองอินทร์จับได้เสียก่อน ใช้คาถาไล่เลื่อมประภัสไป กลับกลายเป็นลำเจียกดังเดิม แต่เมืองอินทร์กลับหลงเสน่ห์ของลำเจียกเข้า จนสมาธิแตกกระเจิง นาคีถูกเมืองอินทร์ปาใบขนครุฑใส่ จนทำเจ็บหนัก คำแก้ว จึงขอให้ทศพลพาไปที่เทวาลัย แล้วคำแก้วก็กลายร่างเป็นนาคี เอาใบขนครุฑออกจากหน้าอก รักษาตัวได้ทัน ส่วนทศพลก็สลบไป
แล้วหมออ่วมก็ตีดาบเหล็กไหลจนสำเร็จ แล้วกอก็ไปขโมยดาบมา หมออ่วมแค้นใจ จะหาหัวขโมยให้ได้ สุภัทรให้ทศพลดูมนต์อาลัมพายน์ ซึ่งใช้สะกดพญานาค ที่พบอยู่กับโครงกระดูกของทัศนัย ทศพลไม่เข้าใจหากมรุกขนครบูชาพญานาค แต่ทำไมถึงต้องมีมนต์สะกดพญานาค
สุภัทรบอกถึงมนต์อาลัมพายน์ให้ทศพลและเพื่อน ๆ ฟังว่า เป็นมนต์ที่ใช้สะกดพญานาค มีเนื้อหาสาธยายเดชของพญาครุฑว่ามีฤทธานุภาพสูงส่ง เมื่อพญานาคได้ยินมนต์บทนี้จะหวาดกลัวจนไม่อาจทนอยู่ได้ อักษรปัลลวะถูกใช้ในดินแดนที่รับอารยธรรมจากอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นมอญ จาม เขมร หรือมัชปาหิต ผ่านทางพวกพราหมณ์ที่มาเผยแผ่ศาสนา
สุภัทรเริ่มอ่านมนต์อาลัมพายน์ คำแก้วได้ยิน มื้อไม้อ่อน หมดเรี่ยวแรง ขอร้องไม่ให้สุภัทรอ่านอีก สุภัทรและทศพลไม่ติดใจสงสัยในท่าทีหวาดกลัวของคำแก้ว แต่วันชนะสงสัย จึงไปถามเชษฐ์เรื่องการกลายร่างของพญานาค เชษฐ์จึงบอกว่า พญานาคจะกลับคืนร่างเดิมเมือ่มีเหตุ 5 ประการ ได้แก่ เกิด ตาย เสพสังวาส ออกหากิน แล้วก็นอนหลับด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์ถึงได้มีพุทธบัญญัติห้ามพญานาคเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา. วันชนะ ประกิต สมมตร เชษฐ์ ก็แอบไปดูทศพลกับคำแก้วตอนนอนหลับ จึงเห็นทศพลนอนกอดอยู่กับงูเผือก มีหงอนตัวใหญ่ เพื่อน ๆ ไม่กล้าบอกทศพล เพราะกลัวถูกคำแก้วฆ่าตาย
กอสารภาพผิดเรื่องที่ขโมยดาบของหมออ่วมในที่สุด เพราะกลัวตาย ตามที่หมออ่วมขู่ แต่คำแก้วให้คำปองไปโขมยดาบเสียก่อน ลำเจียกมาเจอเข้า จึงโวยวาย พอดีกำนันแย้ม หมออ่วม กอ มาเจอเข้า จึงเอาดาบคืน แล้วมัดคำปองไว้ใต้ถุนบ้าน พิมพ์พรกับเจิดนภา ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด นึกสงสารคำปอง แต่ก็อยากให้คำแก้วตาย พิมพ์พรมาบอกคำแก้วเรื่องแม่ถูกจับตัวไว้ คำแก้วเป็นห่วงแม่มาก
คำแก้วยอมสละชีวิตไปช่วยแม่ หมออ่วมเอาดาบฟันคำแก้ว แล้วร่างเธอก็หายลับไป แต่คำแก้วไม่ตาย เพราะเลื่อมประภัส ฉัตรสุดาช่วยไว้ แล้วนำกลับมารักษาตัวที่เทวาลัย เพื่อน ๆ บอกกับทศพลว่าคำแก้วตายแล้ว แต่เขาไม่เชื่อ ไปอาละวาดที่บ้านหมออ่วม ทศพลร้องไห้กับสุภัทร ไม่เชื่อว่าคำแก้วจะตาย
อดีต หลังจากที่พิมพาวดี ช่วยไชยสิงห์ออกมาได้ ก็ขอให้เขาอยู่กับเธอ แต่ไชยสิงห์ไม่ยอม แล้วปัตตนครก็ถูกเผาจนราบคาบ ไชยสิงห์ให้พระเจ้าปัตตนครหนีไป แต่เขาไม่ยอม บอกว่า หน้าที่ของกษัตริย์ต้องค้ำจุนบ้านเมือง ในเมื่อข้ารักษานครไว้ไม่ได้ ยังจักแบกหน้าไปที่ใดได้อีก ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจักเกิดเวียนว่ายเป็นมดเป็นปลวก ดูแลซากเมืองของข้าอยู่ตรงนี้ ด้วยแรงแห่งคำอธิษฐานก่อนตายของพระเจ้ามรุกขนครในอดีตชาติ ทำให้ชาตินี้จึงกลับมาเกิดเป็นสุภัทร นักโบราณคดีที่ขุดค้นซากปรักหักพัง ดูแลรักษาสมบัติของชาติ แล้วพระเจ้าปัตตนคร ก็ถูกฆ่าตาย
นาคีตอนที่ 9 ออกอากาศ วันจันทร์ที่ 28 พย. หลังข่าภาคค่ำทางช่อง 3
สุภัทรให้ทศพลกลับบ้าน แต่ทศพลไม่ยอม ออกตามหาศพคำแก้ว ไม่เชื่อว่าคำแก้วตายแล้ว พิมพ์พรบอก คำแก้วโดนดาบเหล็กไหลฟัน แล้วร่างก็หายไป ไม่มีทางรอด พิมพ์พรบอกบุญส่งผู้เป็นพ่อ หากทศพลไม่ยอมกลับ เธอก็จะอยู่กับทศพลด้วย พ่อโกรธมาก
ที่ นครพรหมประกายโลก วัชระปราการ มาหา ท้าวศรีสุทโธนาค ให้ช่วยเจ้าแม่นาคีที่กำลังเจ็บหนัก แต่ไม่สามารถก้าวผ่านกำแพงศักดิ์สิทธิ์ไปได้ เลื่อมประภัส ฉัตรสุดา เฝ้าดูอาการเจ้าแม่อย่างเป็นห่วง แล้วเจ้าแม่นาคี ก็ค่อย ๆ หมดลมไป สุดท้ายเจ้าปู่ ท้าวศรีสุทโธนาค ก็มาช่วยเจ้าแม่ให้ฟื้นขึ้นมาในที่สุด เจ้าปู่ขอให้นาคี ถือศีลอยู่ที่วังบาดาล แต่เจ้าแม่ขอกลับไปใช้ชีวิตคู่กับไชยสิงห์ ท่านปู่บอกจะสาปให้เป็นหิน เจ้าแม่นาคีขอเพียงได้อยู่กับไชยสิงห์ จะเป็นเช่นไรก็ยอม ท่านปู่จึงบอกแล้วแต่เวรกรรมเถิด
ทศพลชวนคำปองไปอยู่กรุงเทพฯด้วยกัน แต่คำปองขอเกิดและตายที่ดอนไม้ป่า ทศพล พ่อ และเพื่อน ๆ กำลังจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ แล้วทศพลก็เห็นคำแก้วกลับมาในที่สุด ทศพลดีใจมากที่คำแก้วยังไม่ตาย คำแก้วบอกว่า ชีวิตของคำแก้วจะเกิดเคราะห์กรรมครั้งใหญ่ถึงสามครั้งสุริยคราส ครั้งแรกคำแก้วเกิดมาพ่อก็ตาย ครั้งที่สองก็เกิดเหตุวุ่นวายตอนบวงสรวงเจ้าแม่นาคี รอจนพ้นสุริยคราสที่จะมาถึงนี้ไปได้เมื่อไหร่ ชีวิตคำแก้วก็จะหมดเคราะห์กรรม ทศพลจึงตัดสินใจอยู่กับคำแก้วต่อไป
คำแก้วมาลาคำปอง บอกจะไปถือศีล แล้วเธอก็มาหาท่านปู่ให้ช่วย ท่านปู่เห็นแก่ความรักของเจ้าแม่กับทศพล จึงให้อยู่ถือศีล และบอกกับคำแก้วว่า จงรักษาศีลไว้อย่าให้ขาด ขอเพียงพ้นวันสุริยคลาสครานี้ไปได้เมื่อไหร่ เจ้าก็จักสมหวัง เจ้าแม่นาคีบำเพ็ญภาวนาอย่างตั้งมั่น ในร่างของคำแก้ว จะต้องผ่านอุปสรรคทุกอย่างไปให้ได้
ทศพลบอกพ่อว่าจะอยู่ต่อ เพื่อสืบเรื่องราวในอดีต เพื่อน ๆ ทศพลเห็นคำแก้ว คิดว่าเป็นผี พิมพ์พร รีบมาดูที่บ้าน พวกของกำนันแย้ม หมออ่วม กอ ก็มาด้วย ส่วนเมืองอินทร์ ก็เสกพังพอนธนู ไปตามหาและกำจัดคำแก้ว คำแก้วหนีมาจนถึงเทวาลัย วัชระปราการ ต่อสู้กับพังพอนธนู จนพังพอนธนู พ่ายแพ้ หายวับไป
สุภัทรบอกบุญส่ง ว่าถ้าอยากปราบงูผีก็ทำไป อย่าทำร้ายทศพล เพราะไม่ชอบใจที่ชาวบ้านรวมหัวกันไปเผาบ้านทศพล สุภัทรมาเยี่ยมทศพลที่บ้านคำแก้ว ขอให้คำแก้วกับคำปอง ไปอยู่กรุงเทพฯด้วยกัน เพื่อพ้นจากดอนไม้ป่า แต่คำแก้วบอกไปไม่ได้ ทศพลเสียใจ
ตั้งแต่หมออ่วมเสียมีด เหล็กไหลไป ก็เอาแต่เก็บตัว เพราะกลัวเจ้าแม่นาคีมาฆ่า กำนันแย้ม กับบุญส่งคิดหาทางอื่น จึงไปตามเมืองอินทร์มาปราบ เมืองอินทร์ ต้องทำพิธี จึงให้บุญส่งและกำนันแย้ม พาไปที่แม่น้ำ เพื่อนำเทวรูปเจ้าแม่นาคี ที่จมอยู่กลับคืนมาทำพิธี เมืองอินทร์ เมืองอินทร์หลับตาพนมมือร่ายคาถา แล้วโยนเชือกนาคบาศคล้องเอาไว้ทันที เทวรูปสิ้นฤทธิ์
ในอดีต เจ้าแม่นาคีท้อง ส่วนเจ้าปู่ไป บำเพ็ญเพียรที่นครพรหมประกายโลก จึงยังไม่รู้เรื่อง เจ้าแม่ให้เลื่อมประภัส ฉัตรสุดา ปิดเป็นความลับ เมื่อใกล้ถึงเวลาจะสำรอกไข่ออกมาตามกำหนด นาคีสำรอกไข่ออกมาทางปาก นาคีมองไข่เปลือกสีขาวนวลที่วางอยู่บนพื้นหญ้าริมลำธารด้วยแววตารักใคร่หวงแหน เปลือกไข่สีขาวนวลค่อยๆ ปริร้าว ก่อนแตกออกเกิดลำแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วบริเวณ ปรากฏทารกเพศชาย ผิวขาวใส ใบหน้าเปื้อนยิ้ม หน้าตาน่ารักอยู่ภายในเปลือกไข่ นาคีอุ้มทารกน้อยขึ้นมาแนบอก น้ำตาแห่งความปลื้มปีติไหลอาบแก้ม เพราะหากบุตรของนาคี อยู่ในร่างนาคท่านท้าวก็ย่อมต้องรู้ แต่หากอยู่ในร่างมนุษย์ ก็จักพากลับเมืองบาดาลไม่ได้ นาคีเศร้าจนน้ำตาซึม ครุ่นคิดหาทางออก ก่อนจะค่อยๆ บรรจงจูบหน้าผากทารกน้อยอย่างอาลัย เป็นจูบแรกและจูบลาในคราวเดียวกัน นาคีร่ายมนต์เสกให้ทารกน้อยกลายเป็นปลาไหลเผือก เพื่ออำพรางเจ้าปู่ศรีสุทโธนาค และให้ลูก จงอยู่ในร่างปลาไหลเผือกนี้จวบจนอายุครบ 15 ขวบปี แล้วเจ้า จักกลายร่างเป็นมนุษย์อีกครั้ง ขอให้ลูกแม่แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยเถิด
เมื่อท่านปู่กลับมา ก็รู้เรื่อง สั่งให้เอานาคีไปขัง และพร้อมกันนั้น ที่เมืองมรุกขนคร ก็เกิดความแห้งแล้ง ดินแตกระแหง วัวควายล้มตาย ผู้คนอดอยากแย่งหัวมันกันกิน
พระเจ้านิรุทธราช แม่ทัพมรุกขนคร (เลื่อง) ขุนวัง มหาอำมาตย์ พราหมณ์เฒ่า เจ้าอินทร์ ขุนนางและนางกำนัลเข้าเฝ้า นิรุทธราชโกรธที่พญานาคไม่ให้น้ำ จึงสั่งทำลาย รูปบูชาพญานาคทั่วทั้งมรุกขนครเสียให้สิ้น อย่าให้หลงเหลือแม้แต่ตัวเดียว ! ขุนวัง จึงนำทหารไปทำลายเทวรูปที่ถ้ำเทวาลัย
พวกทหารต่างทุบทำลายเทวรูปท้าวศรีสุทโธนาคที่เป็นพญานาค 9 เศียรจนกระทั่งพังครืนลงมา เจ้าอินทร์หลับตาจับยามสามตาแล้วบอกกับนิรุทธราชว่า การเป็นเช่นนี้เป็นเพราะมีปลาไหลเผือกตัวใหญ่อาศัยอยู่ ณ แม่น้ำด้านบูรพาทิศ เพียงพระบาทเจ้ามีรับสั่งให้จับปลาไหลเผือกขึ้นมาจากน้ำ อีกมิเกินสามราตรี ฝนฟ้าก็จักตกต้องตามฤดูกาล
ริมแม่น้ำโขง วันใหม่
เจ้าอินทร์พนมมือถือบ่วงนาคบาศร่ายคาถาอยู่หน้าปะรำพิธีริมแม่น้ำ เบื้องหน้ามีบายศรีและเครื่องเซ่นสังเวยบูชาพญานาค จำพวกผลไม้ วางเรียงรายประกอบพิธีจับปลาไหลเผือก พระเจ้านิรุทธราชประทับเป็นประธาน เจ้าอินทร์พนมมือร่ายคาถาแน่วแน่ ปลาไหลเผือกที่ว่ายน้ำอยู่ในลำน้ำโขง โดนมนต์ของเจ้าอินทร์ก็ร้อนรนทุรนทุรายจนทนไม่ไหวต้องว่ายน้ำมาที่หน้าปะรำพิธี เจ้าอินทร์ลืมตาขึ้น แล้วใช้บ่วงนาคบาศก์โยนลงไปคล้องปลาไหลเผือกได้อย่างง่ายดายพระเจ้านิรุทธราชมองอย่างพอใจ ทันทีที่ปลาไหลเผือกขึ้นมาบนฝั่งก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายร้อยเท่า เจ้าอินทร์บอก เนื้อปลาไหลเผือกเป็นยาอายุวัฒนะ ใครได้กิน จักมิรู้แก่ มิรู้เฒ่า
อายุยืนยาว ไร้โรคาพยาธิ (พะ-ยา-ทิ) เบียดเบียน นิรุทธราชคว้าดาบแล้วตรงเข้าไปฟันฉับเข้าที่ท่อนหางของปลาไหลเผือก ดิ้นพราดๆ เลือดแดงฉาน
(หมายเหตุ : ผลกรรมที่นิรุทธราชใช้มีดฟันหางปลาไหลเผือก ทำให้ชาตินี้ต้องกลายเป็นชายพิการขาเป๋)
นิรุทธราชตัดชิ้นเนื้อปลาไหลเผือก แล้วแล่เนื้อปลาไหลเผือก แจกจ่ายให้ชาวมรุกขนครได้กินกันทั้งเมือง
แม่ทัพมรุกขนครหยิบชามปลาไหลเผือกโยนลงตรงหน้าแม่ทัพไชยสิงห์ ขณะที่ไชยสิงห์และเพื่อน ๆ ถูกจับขังคุกอยู่ ไชยสิงห์ไม่ยอมกิน นิรุทธราช หาว่าโง่ ปัตตนครพินาศย่อยยับก็เพราะมีแม่ทัพโง่เง่าอย่างไชยสิงห์ แล้วนิรุทธราช ก็สั่งประหารไชยสิงห์กับเพื่อน ๆ ไชยสิงห์ตั้งจิตอธิษฐานก่อนตาย ข้าแจ้งแก่ใจตัวเองแล้ว ไม่ว่าเจ้าจักเป็นมนุษย์ เป็นนาค หรือเป็นอันใดก็ตาม ข้าก็รักเจ้า รักเจ้าเพียงผู้เดียว เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้ข้าได้ครองคู่กับเจ้าทุกภพทุกชาติ… สิ้นคำอธิษฐาน เพชฌฆาตก็ลงดาบตัดหัวไชยสิงห์เลือดพุ่งกระฉูดแดงฉานทั่วทั้งลานประหาร เหล่าเสนาทั้งสี่ถูกฟันคอขาดสะบั้นตามแม่ทัพไชยสิงห์
นาคีตอนที่ 10 ออกอากาศ วันอังคารที่ 29 พย. หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3
ปัจจุบัน
เมืองอินทร์บอกว่า เทวรูปเจ้าแม่นาคี ไม่ใช่เทวรูปธรรมดา แต่เป็นร่างในอดีตชาติของมันนางพญานาคีถล่มบ้านเมืองพังพินาศ ฟ้าดินเลยสาปแช่งให้มันกลายเป็นหิน เมืองอินทร์จะทำพิธีกองกูณฐ์อัคคี เพื่อปราบนาคี พิธีบูชาไฟของพวกโยคีตั้งแต่สมัยพุทธกาล สืบทอดมาจากสำนักท่านอุรุเวลกัสสปะมหาฤาษี ในรามเกียรติ์เรียกพิธีนี้ว่าพิธีกองกูณฐ์กลาบูชาไฟ
เมื่อเมืองอินทร์เริ่มทำพิธี คำแก้ว ที่กำลังนอนอยู่ในกระท่อม ก็เริ่มกลายร่างเป็นงู คำแก้วรีบวิ่งไปที่เทวาลัย คำแก้วดิ้นทุรนทุราย ฉัตรสุดา อาสาจะไปกำจัดเมืองอินทร์ด้วยตนเอง ฉัตรสุดาใจเด็ด พลีชีพ พุ่งเข้ากองไฟเพื่อทำลายพิธี เสียงระเบิดบึ้มดังกึกก้องกัมปนาท ลูกไฟปะทุแตกกระจายทั่วบริเวณ เครื่องเซ่นไหว้ระเนระนาด ร่างของนาคฉัตรสุดาถูกเผาด้วยไฟอาคมจนมอดไหม้ร่างกระจัดกระจายเป็นส่วนๆ ฉัตรสุดาเสียชีวิต เลื่อมประภัสเสียใจมาก
เมืองอินทร์ยังไม่ยอมแพ้ บอกกกับกำนันแย้ม หมออ่วม และชาวบ้าน ว่าจะทำพิธีอีกครั้ง กำนันบอกจะฆ่านาคีให้ได้ ทันใดนั้น ทัศนัยกลับมา บอกว่านาคีไม่ได้โหดเหี้ยมอย่างที่ทุกคนคิด ทัศนัยเล่าว่า ตัวเขานั้น เข้าไปในถ้ำ แล้วพบเข้ากับงูวัชระปราการ แต่งูเผือกช่วยไว้ จนรอดขีวิต ข้างในถ้ำ มีแต่ภาชนะเครื่องเคลือบดินเผา และพวกโลหะสำริด สมัยเมืองมรุกขนครรุ่งเรือง อยู่เต็มไปหมด แล้วสุภัทรก็ตามเข้าไปในถ้ำ ได้พบกับทัศนัย พร้อมทั้ง โครงกระดูกของขุนวังที่กอดจารึกมนต์อาลัมพายน์ในอดีตชาติเอาไว้แน่น ทัศนัยยังไม่ยอมกลับมาพร้อมกับสุภัทร เพราะต้องการศิลาจารึกที่เหลือให้ครบเสียก่อน โดยสุภัทร คอยมาส่งข้าว ส่งน้ำให้เสมอ แล้วทัศนัย ก็นำศิลาจารึก ทั้งสามส่วนประกอบกัน จนสมบูรณ์ ทศพลบอกคำแก้ว ว่าทัศนัย ได้ศิลาจารึกกลับมาแล้ว คำแก้วบอกให้เก็บไว้ให้ดี อย่าตกไปในมือคนชั่ว เพราะรู้ดีว่าภัยจะมาถึงตัว
เมืองอินทร์ทำพิธี เผาเทวรูปอีก คำแก้วตัวร้อนเป็นไฟ เกล็ดงูเริ่มขึ้น ทศพลตกใจ จะพาไปหาหมอ คำแก้ววิ่งหนีไป คำปองมาเห็นเวทนาลูก ปลอบใจ ว่าต้องมีวิธีแก้อาถรรพ์ เลื่อมประภัส ปลอมตัวเป็นหญิงชรา เอาว่านดอกทองมาขายให้ลำเจียก แล้วรีบให้ลำเจียกสูดกลิ่น จนทำให้ลำเจียกต้องรีบไปหาเมืองอินทร์ทันที พวกกำนันแย้มขัดขวาง แต่ลำเจียกไม่ฟัง เดินข้ามสายสิญจน์ของเมืองอินทร์ จนพิธีเสื่อม แล้วตรงเข้าไปปลุกปล้ำเมืองอินทร์ เพื่อน ๆ ทศพล เห็นเหตุการณ์กำลังชุลมุน จึงรีบเข้าไปขโมยเทวรูปหนีไป พวกกำนันแย้มกับกอ วิ่งตามไปจะเอาเทวรูปคืน แต่เจอเข้ากับงูเลื่อมประภัส ที่ไล่ฉก เลยทำให้ต้องหนีไป รุ่งเช้า พวกกำนัน กอ มาที่ป่าช้า ให้เมืองอินทร์รับผิดชอบ เป็นผัวลำเจียกในที่สุด
เพื่อนของทศพล นำเทวรูปมาให้ทศพล กำนันแย้มไม่ยอม พาสมุนมาจับทศพลกับเพื่อนไว้ พร้อมกับสุภัทร ทัศนัย ขับไล่ให้ออกจากหมู่บ้านไป สุภัทรยอม แต่ขอเทวรูปและศิลาจารึกกลับไปด้วย เมืองอินทร์ เห็นมนต์อาลัมพายน์ นึกดีใจ ที่จะหาทางปราบเจ้าแม่นาคีได้อีกครั้ง
สุภัทร บอกพวกเด็ก ๆ ให้เก็บของกลับ เมืองอินทร์จะใช้มนต์อาลัมพายน์ปราบนาคี เขาบอกกับกำนันแย้ม และบุญส่ง ว่า มนต์อาลัมพายน์เป็นมนต์ที่พญาครุฑมอบให้แก่ฤาษีโกสิยโคตรตั้งแต่สมัยพระพุทธองค์เสวยชาติเป็นพระภูริทัต มนตราบทนี้มีอำนาจเหนือพญานาคราชและอสรพิษทั้งปวง เมื่อได้ยินมนต์บทนี้จะทุรนทุรายประดุจเหล็กร้อนยอนเข้าไปในหู
ในอดีต นิรุทธราช สั่งให้ทุบ ทำลายเทวรูปพญานาค ทันใดนั้นฝุ่นที่เกิดจากการทุบหินทรายก็ลอยคลุ้งเป็นรูปพญานาค 9 เศียร ร้องคำรามอย่างกราดเกรี้ยว พุ่งชนพวกทหารที่ทุบทำลายจนกระอักเลือด ปางตาย เจ้าอินทร์ใช้ลิ่มจารึกมนต์อาลัมพายน์บนแผ่นศิลาทีละตัวอักษร ข้าจักจารึกมนต์อาลัมพายน์ลงในแผ่นศิลาตั้งไว้ในหอคำหลวง มนต์บทนี้ใช้ปราบพญานาคน้อยใหญ่ได้ทุกตระกูล ตราบใดที่แผ่นศิลาจารึกมนตรานี้ยังอยู่ จักไม่มีพญานาคตัวใดกล้ากล้ำกรายอาณาเขตของหอคำหลวงได้
คำแก้วเป็นห่วงทศพล กลัวจะถูกทำร้าย หรือมีอันตราย หากอยู่กับเธอ จึงขอให้ทศพลกลับกรุงเทพไป ทศพลไม่เข้าใจ เสียใจคิดว่าคำแก้วไม่รัก แต่สุดท้าย ทศพลก็ตัดใจไม่ได้ อยู่กับคำแก้วต่อไป คำแก้วบอกรักทศพล กำนันแย้มไม่ยอมให้ศิลาจารึกกับสุภัทร ทัศนัย แถมยังจับตัวทั้งสอง พร้อมกับลูกศิษย์ ไว้อีกด้วย