กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--ดับเบิ้ล ดี มีเดีย
"ได้ความรู้เรื่องการเคารพกฎจราจร การใช้วงเวียนทำยังไง เราต้องชะลอให้รถทางขวาไปก่อน และที่สำคัญต้องสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ หนูไปโรงเรียนด้วยมอเตอร์ไซค์ทุกวันโดยยายจะเป็นคนขับไปส่ง กลับไปบ้านหนูจะบอกให้ยายใส่หมวกกันน็อคทุกครั้งที่ขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งหนูที่โรงเรียนค่ะ" ด.ญ.รุจิษยา ใจงาม นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดในกลาง ต.บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี กล่าวในการอบรมเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยทางท้องถนนของชุมชน เพื่อสุขภาวะเด็ก เยาวชน และประชาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของ ภาคประชาคมตำบลบ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มูลนิธิเพื่อถนนที่ปลอดภัยกว่า (Safer Roads Foundation) โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ทั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยของคนในชุมชนและบูรณาการการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจราจรร่วมกันระหว่างบ้าน (ชุมชน) เทศบาล วัดและโรงเรียน โดยในการอบรมครั้งนี้ นอกจากให้ความรู้เรื่องการใช้ถนนอย่างปลอดภัยแล้ว เยาวชนและชุมชนบ้านแหลมยังได้รับมอบหมวกกันน็อคและเสื้อเพื่อรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยเคารพกฎวินัยจราจรจากมูลนิธิเมาไม่ขับและ สสส. ด้วย
นายทัตณัชพงษ์ เติมวรรธนภัทร์ รองนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบ้านแหลม กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพโครงสร้างพื้นฐานของตำบลบ้านแหลมเปลี่ยนแปลงไปมากช่องทางจราจรขยายเพิ่มมากขึ้น ยวดยานพาหนะใช้ความเร็วมากกว่าเดิม อุบัติเหตุก็ตามมา โดยเฉพาะบริเวณทางแยกตลาดกิ่งแก้ว มีอุบัติเหตุครั้งที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตสร้างความเศร้าโศกเสียใจกับญาติพี่น้อง จุดนี้ชุมชนบ้านแหลมได้ตระหนักถึงการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยสรุปเบื้องต้นให้สร้างวงเวียนตรงบริเวณทางแยกตลาดกิ่งแก้วเพื่อชะลอความเร็วของรถ พร้อมทั้งรณรงค์ลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้วงเวียน ให้กับชาวบ้านในชุมชน พร้อมทั้งปลูกจิตสำนึกให้กับเยาวชนที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้าได้ตระหนักถึงการเคารพกฎวินัยจราจรซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะลดการเกิดอุบัติเหตุลงได้ โดยทางเราหวังว่าเด็กๆจะเป็นตัวเชื่อมไปสู่ผู้ปกครองที่ต้องตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกหลานและตนเอง อย่างน้อยก็ต้องสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งเมื่อขับชี่มอเตอร์ไซค์ และหลังจากสร้างวงเวียนแล้วเสร็จเห็นได้ชัดว่าจำนวนการเกิดอุบัติเหตุในชุมชนของเราน้อยลงจนเกือบจะเป็นศูนย์แล้ว ที่ยังมีบ้างเป็นเพียงอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆ อันเกิดจากการยังไม่เข้าใจเรื่องการใช้วงเวียนในบางคนเท่านั้น ซึ่งก็จะได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เข้าใจมากขึ้นว่า เมื่อผู้ขับขี่รถมาถึงวงเวียนต้องให้สิทธิแก่ผู้ขับขับขี่ที่อยู่ในวงเวียนทางด้านขวาของคนขับผ่านไปก่อน ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่แล้ว ยังเป็นการช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในวงเวียนอีกด้วย
นางสาวทัศนีย์ ศิลปะบุตร รองประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สสส. และ ผู้แทน Safer Roads Foundation ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ชุมชนบ้านแหลมเป็นตัวอย่างของชุมชนที่เข้มแข็งในการร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน โดยปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้คนในชุมชนต้องสูญเสียอย่างมากทั้งชีวิตและทรัพย์สิน คือ การเกิดอุบัติเหตุจากการจราจร ทาง SRF เห็นถึงความตระหนักและตั้งใจในการแก้ไขปัญหาร่วมกันของคนในชุมชนนี้จึงสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการสร้างวงเวียนตรงทางแยกตามที่ชุมชนเสนอมา และเป็นเรื่องที่น่ายินดีเมื่อทราบว่าภายหลังการสร้างวงเวียนแล้วเสร็จ อุบัติเหตุในบริเวณแยกดังกล่าวลดลงอย่างเห็นได้ชัด อุบัติเหตุเป็นภัยใกล้ตัวที่เราสามารถป้องกันได้โดยเริ่มที่ตัวเรา ใส่ใจในความปลอดภัยของตัวเอง ใส่หมวกกันน็อคทุกครั้งที่ขับขี่จักรยานยนต์ และเคารพกฎระเบียบวินัยจราจร ชุมชนบ้านแหลมเป็นแบบอย่างของชุมชนเข้มแข็งที่อยากเห็นชุมชนอื่นๆ นำไปเป็นต้นแบบโดยเฉพาะการรณรงค์ลดอุบติเหตุซึ่งได้ผลจริง
แม้ว่า ข้อมูลรายงาน Global Status Report on Road Safety ซึ่งองค์การอนามัยโลกประเมินว่าประเทศไทยมีจำนวนผู้เสียชีวิตลดลง จาก ๒๖,๓๑๒ คน ในปี พ.ศ.๒๕๕๓ เหลือ ๒๔,๒๓๗ คนในปี พ.ศ.๒๕๕๕ แต่ประเทศไทยก็ยังถูกจัดอยู่ในอันดับ 2 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน โดยมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งโลกถึง 2 เท่า โดยอัตราเฉลี่ยตายทั้งโลกจะอยู่ที่ 17 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน ในขณะที่ไทยสูงถึง 36.2 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน จึงทำให้อุบัติเหตุจราจรไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องที่ป้องกันได้ ดังจะเห็นจากตัวอย่างของชุมชนบ้านแหลมที่รวมพลังกันแก้ไขปัญหาจนสามารถลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของคนในชุมชนลงได้ จะดีแค่ไหนหากเราร่วมกันลดอุบัติเหตุตั้งแต่วันนี้ก่อนที่การสูญเสียนั้นจะเกิดขึ้นกับเราหรือคนใกล้ตัว