กรุงเทพ--15 ก.พ.--ตลาดหลักทรัพย์ใหม่
ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ ประกาศจุดยืนพร้อมเป็นตลาดรองที่มีประสิทธิภาพในการสนับสนุนการระดมทุนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและมุ่งส่งเสริมการพัฒนามาตรฐานการดำเนินธุรกิจของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สู่มาตรฐานสากล ตลอดจนการดูแลพิทักษ์ผลประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
นายยุทธ วรฉัตรธาร ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ แถลงวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินงานในปี 2543 ในงานสัมมนาสื่อมวลชนประจำปี 2543 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2543 ว่า การเกิดขึ้นของตลาดหลักทรัพย์ใหม่ถือได้ว่าเป็นการพัฒนาตลาดทุนของประเทศอีกระดับหนึ่ง และถือเป็นการช่วยสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้กับธุรกิจที่กำลังเติบโต และมีอนาคตดี ซึ่งมีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ให้ขยายปริมาณธุรกิจออกไปได้ และเปิดโอกาสให้กิจการเหล่านี้สามารถนำหุ้นเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ โดยแนวทางในการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ใหม่จะมุ่งการพัฒนาตลาดให้มีสีสัน มีสินค้าที่เป็นที่รู้จัก และมีความหลากหลายทั้งในแง่ของขนาด ประเภทอุตสาหกรรม และประเภทธุรกิจ โดยจะพัฒนาให้เป็นตลาดที่มีความทันสมัยและมีความพร้อมในการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ยังจะช่วยสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ โดยการแปลงสภาพจากหนี้เป็นทุนระหว่างสถาบันการเงิน หรือ ผู้ร่วมลงทุนรายใหม่กับลูกหนี้โดยจะช่วยให้เกิดสภาพคล่องในหุ้นที่สถาบันการเงินได้เข้าไปถือครองทำให้การปรับโครงสร้างหนี้ในลักษณะดังกล่าวเป็นไปได้มากขึ้น และยังช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) เกิดแรงจูงใจที่จะเข้ามาลงทุนมากขึ้นในธุรกิจที่อาจมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่มีศักยภาพในการเติบโต รวมถึงเป็นการเพิ่มสินค้าใหม่ให้เป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนในสินค้าที่มีความแตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดอุปสงค์ต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์โดยรวม และเป็นการเพิ่มอุปทานของบริษัทจดทะเบียนและหลักทรัพย์จดทะเบียน รวมทั้งภาวะธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น จะช่วยก่อให้เกิดรายได้และเกิดประโยชน์ในเชิงของประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนของผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนโดยรวมอีกด้วย
สำหรับหลักในการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ใหม่ที่สำคัญก็คือ จะเน้นแนวทางในการสร้างและพัฒนาบริษัททั้งก่อนและหลังการเข้าจดทะเบียน ให้มีความพร้อมและมีศักยภาพในการแข่งขันโดยการมุ่งสนับสนุนการพัฒนาของบริษัทอย่างต่อเนื่อง และเน้นแนวทางการรับหลักทรัพย์โดยการใช้วิธีการเปิดเผยข้อมูล (Disclosure-Based) ที่ถูกต้องชัดเจน เพียงพอ ตลอดจนการกำหนดมาตรฐานในการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนให้เทียบเท่ากับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลัก นอกจากนี้ ยังเน้นการบริหารงานที่มีความคล่องตัวในการจัดการ และการประสานงานร่วมกับฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการเตรียมตัวของบริษัทในการเข้าสู่ตลาดทุน
ในช่วงแรกของการดำเนินงาน ตลาดหลักทรัพย์ใหม่จะให้ความสำคัญกับเป้าหมายการนำสินค้าเข้ามาจดทะเบียนและการสร้างสภาพคล่องในตลาด โดยกลยุทธ์ดำเนินการด้านการนำสินค้าเข้ามาจดทะเบียนนั้นจะเน้นการดำเนินงานด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ในเชิงรุก เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศได้รู้จักและเข้าใจถึงหลักเกณฑ์ในการนำบริษัทเข้ามาระดมทุน และติดตามผลักดันให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเข้ามาจดทะเบียนโดยการสนับสนุน และลดข้อจำกัดของบริษัทในการเข้ามาระดมทุน รวมทั้งการพัฒนามาตรฐานในการดำเนินงานและการจัดการของบริษัททั้งก่อนและหลังการจดทะเบียน ส่วนกลยุทธ์ด้านการสร้างสภาพคล่องในตลาดนั้น จะเน้นการให้ความรู้และประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ลงทุนอย่างทั่วถึงและกว้างขวาง ตลอดจนการศึกษาถึงระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ที่อาจนำมาใช้ทดแทนหรือเสริมระบบเดิม เพื่อสร้างสภาพคล่องของหลักทรัพย์ในตลาด
"ในปีนี้เราได้กำหนดเป้าหมายที่จะมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนประมาณ 6-10 บริษัท ซึ่งอยู่ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ อุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรี่ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติก อุตสาหกรรมผักและผลไม้กระป๋อง อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยาง เป็นต้น และคาดว่าบริษัทกลุ่มแรกจะเริ่มเข้าทำการซื้อขายได้ในประมาณไตรมาสที่ 3 ของปีนี้" ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ใหม่กล่าว
แผนงานธุรกิจ ประจำปี 2543 ตลาดหลักทรัพย์ใหม่
เป้าหมายที่ 1 มีหลักทรัพย์เข้ามาทำการซื้อขายประมาณ 6 - 10 หลักทรัพย์ ภายในปี 2543
กลยุทธ์ที่ 1 เน้นการดำเนินงานด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์
* เข้าพบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือในกลุ่มที่กำหนดไว้โดยตรง
* ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เป็นศูนย์รวมของผู้ประกอบการ เพื่อเข้าไปพบปะและแนะนำตลาดหลักทรัพย์ใหม่แก่สมาชิกหรือลูกค้า
* ดำเนินงานตามแผนประชาสัมพันธ์ที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์ที่ 2 ติดตามและผลักดันให้บริษัทเป้าหมายเข้าจดทะเบียน
* ร่วมมือกับที่ปรึกษาทางการเงินเฉพาะกิจในการทำตลาดร่วมกันอย่างใกล้ชิด
* จัดอบรม/สัมมนากลุ่มย่อยในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวของบริษัท
* ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงาน ก.ล.ต. และบริษัทเป้าหมาย
* ศึกษาและวางรูปแบบกระบวนการระดมทุนให้เป็นไปอย่างมีระบบ สะดวก และชัดเจน
* หารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไข/ บรรเทาปัญหาข้อติดขัดต่าง ๆ ของบริษัทในการระดมทุน
กลยุทธ์ที่ 3 พัฒนามาตรฐานการดำเนินงานและการจัดการของบริษัททั้งก่อนและหลังการจดทะเบียน
* พัฒนาบริษัทให้มีมาตรฐานด้านการดำเนินงานและการจัดการ โดยการจัดอบรมให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ แก่บริษัทอย่างต่อเนื่องทั้งก่อนและหลังการจดทะเบียนโดยร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ สมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ตรวจสอบภายในแห่งประเทศไทย เป็นต้น
เป้าหมายที่ 2 สร้างสภาพคล่องให้กับหลักทรัพย์ที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ใหม่
กลยุทธ์ที่ 1 เน้นการดำเนินงานด้านการให้ความรู้และประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ลงทุน
* เผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนไปยังสื่อต่าง ๆ อย่างกว้างขวางและทั่วถึง
* สนับสนุนให้มีการจัด Presentation และ/หรือบทวิเคราะห์เกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียน
* ดำเนินการหรือประสานงานในการจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
* ดำเนินงานตามแผนประชาสัมพันธ์ที่กำหนดไว้ไปยังผู้ลงทุนทุกกลุ่ม
กลยุทธ์ที่ 2 ศึกษาถึงระบบการซื้อขายหลักทรัพย์อื่นที่อาจนำมาใช้ทดแทนหรือเสริมระบบเดิม
* ศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการนำระบบการซื้อขายหลักทรัพย์อื่น ที่อาจนำมาใช้ทดแทนหรือเสริมระบบเดิมที่มีอยู่ เพื่อให้เหมาะกับขนาดของหลักทรัพย์ที่เข้ามาทำการซื้อขาย โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2543
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ โทร. 229-2025 (รุ่งทิพย์) โทรสาร 654-5596--จบ--