กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--กรมสุขภาพจิต
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตได้จัดสัมมนาวิชาการกลุ่มศูนย์สุขภาพจิต 13 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 21-23พฤศจิกายน 2559 ณ โรงแรมเวโรน่า บูทีค โฮเทล อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เพื่อให้บุคลากรของศูนย์สุขภาพจิต รับรู้และเข้าใจการขับเคลื่อนงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การพัฒนาองค์ความรู้ใหม่และการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร ให้พร้อมบริการสุขภาพจิตแก่เครือข่ายและประชาชน โดยการสัมมนาฯ ครั้งนี้ มีศูนย์สุขภาพจิตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย ศูนย์สุขภาพจิตที่ 7 ขอนแก่น ศูนย์สุขภาพจิตที่ 8 อุดรธานี ศูนย์สุขภาพจิตที่ 9 นครราชสีมา และศูนย์สุขภาพจิตที่ 10 อุบลราชธานี ร่วม เป็นเจ้าภาพ ผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้แก่ คณะผู้บริหารกรมสุขภาพจิต บุคลากรศูนย์สุขภาพจิตที่ 1-13 วิทยากรและคณะทำงาน รวม 230 คน นำเสนอผลงานเด่นพร้อมจัดแสดงนิทรรศการ ตลอดจนการแปลอักษรถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งกิจกรรม Walk Rally ปลูกป่าถวายเป็นพระราชกุศล
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ศูนย์สุขภาพจิตมีโครงสร้างและบทบาทที่ชัดเจนอยู่แล้วในการพัฒนากลไกการดำเนินงานสุขภาพจิตเพื่อชี้นำและร่วมกำหนดทิศทางงานสุขภาพจิตระดับเขตสุขภาพ ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมของเครือข่ายเพื่อให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพจิตของตนเองได้ จึงเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตเชิงรุกให้เข้าถึงทุกครัวเรือน ให้ประชาชนและชุมชนเห็นถึงความสำคัญของการมีสุขภาพจิตที่ดี มีภูมิคุ้มกัน สัมผัสได้ถึงการได้รับการดูแลด้านสุขภาพจิตอย่างเป็นรูปธรรมภายใต้บริบท สภาพปัญหา และความต้องการของชุมชน ซึ่งการที่ประชาชนในชุมชนได้รับการดูแล ส่งเสริม และป้องกันปัญหาสุขภาพจิต ได้ตรงกับสภาพปัญหาและความต้องการอย่างแท้จริง ย่อมสามารถตอบโจทย์สำคัญของการมีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุข ที่เกิดจากรากฐานของชุมชน นำไปสู่การลดจำนวนผู้ป่วยและเพิ่มความแข็งแรงให้กับประชาชนทั่วทุกคนในประเทศได้เป็นอย่างดี และในวันนี้ ได้เห็นถึงการดำเนินงานเชิงรุกของศูนย์สุขภาพจิตที่น่าชื่นชม อาทิ โมเดลการสร้างสุขในชุมชนโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน โมเดลแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายโดยชุมชนมีส่วนร่วม การสร้างพื้นที่การเรียนรู้ของพ่อแม่/ผู้ปกครองในการดูแลลูกวัยรุ่น ค่ายครอบครัวสุขภาพจิตดี สำหรับกลุ่มออทิสติก และการ บูรณาการการซ้อมแผนเผชิญเหตุรุนแรง จากสถานการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนใต้ เป็นต้น
"การส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจิต ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญมาก ปีนี้ จึงมุ่งหวังให้ศูนย์สุขภาพจิตทั่วประเทศขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับอำเภอจัดการสุขภาพให้เป็นรูปธรรมชัดเจนมากขึ้น ช่วยทำให้ชุมชนมีระบบหรือมีแนวทางดูแลสุขภาพจิต ที่ประชาชนสามารถจับต้องได้ มีมาตรฐานในการส่งเสริมและป้องกัน เกิดระบบเฝ้าระวัง มีแผนป้องกันปัญหาสุขภาพจิตโดยอยู่บนพื้นฐานของสุขภาพจิตในชุมชน หากเฝ้าระวังได้ดี ย่อมป้องกันปัญหาสุขภาพจิต ป้องกันเสี่ยงซึมเศร้า และปัญหาการฆ่าตัวตายลงได้ จึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน มีฐานข้อมูลสุขภาพจิตชุมชนที่ดีและเป็นระบบ ตลอดจน มีมาตรฐานการทำงานเช่นเดียวกับโรงพยาบาล เพื่อเป็นหลักประกันให้กับหน่วยงานในการดูแลสุขภาพจิตประชาชนต่อไป" อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว