กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--กปน.
กปน. เตรียมพร้อมปรับปรุงคันคลองประปากันน้ำท่วม ชี้ปีนี้ฝนตกมาก น้ำในเขื่อนใหญ่อยู่ในระดับสูง ด้านคุณภาพน้ำดิบแม้จะมีความขุ่นสูงขึ้น แต่ระบบผลิตสามารถรองรับได้แน่นอน
ร.ท.หญิง ชัชชฎา ญาณอุบล ผู้อำนวยการสำนักงานการประชาสัมพันธ์ การประปา นครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดอุทกภัยทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เนื่องมาจากปีนี้ฝนตกเร็วกว่ากำหนด ส่งผลให้น้ำต้นทุนในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ที่กักเก็บอยู่ ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2543 มีปริมาณรวมถึง 9,021 ล้านลูกบาศก์เมตร สูงสุดในรอบ 10 ปี โดยมีปริมาณมากกว่าระยะเดียวกันของปี พ.ศ. 2538 ถึง 1,762 ล้านลูกบาศก์เมตร หากยังคงมีฝนตกต่อเนื่องไปอีก 3 เดือนข้างหน้า ปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนจะใกล้เคียงกับปี พ.ศ. 2538 ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ราบภาคกลาง และกรุงเทพฯ มีระดับน้ำสูงสุดที่ 3.09 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้กระแสน้ำหลากบางส่วนทะลักเข้าคลองประปาบริเวณโรงสูบน้ำสำแล และช่วงคลองบางหลวงมาถึงคลองรังสิต
ร.ท.หญิง ชัชชฎา กล่าวต่อไปว่า ในปี 2543 นี้ กปน. มิได้นิ่งนอนใจ ได้เตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมคลองประปาแล้ว โดยได้ทำการปรับปรุงคันคลองประปาด้านตะวันออกเหนือไซฟอนคลองบางหลวง คันคลองประปาด้านตะวันออกใต้คลองบางหลวงถึงสะพานไม้ข้ามคลอง ระยะทางประมาณ 160 เมตร ได้ก่อสร้างคันเขื่อนคอนกรีตอัดดินเหนียวแบบถาวรป้องกันไว้โดยตลอดแล้ว หากเกิดน้ำท่วมระดับเดียวกับปี 2538 เขื่อนคอนกรีตสามารถป้องกันน้ำท่วมได้สูงกว่าเดิม 10-20 ซ.ม. คาดว่าจะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมเข้าคลองประปาแน่นอน
ผอ.สำนักงานการประชาสัมพันธ์ กปน. กล่าวถึงปัญหาที่มากับฝนคือคุณภาพน้ำดิบจะมีความขุ่น สูงขึ้นจากการกัดเซาะของน้ำฝนและน้ำหลาก ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ ทำให้สิ้นเปลืองสารตกตะกอนในการผลิตเพิ่มขึ้น แต่จากการตรวจสอบเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ ยังไม่พบการปนเปื้อนจากภาคเกษตรกรรมแต่อย่างใด ขอประชาชนมั่นใจได้ว่าระบบการผลิตน้ำของ กปน. ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9002 สามารถรองรับได้--จบ--
-อน-