กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์
เอออน ฮิววิท บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารงานบุคคล ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการค้นหาสุดยอดนายจ้างดีเด่นครั้งที่ 9 ประจำปี 2560 ( Best Employers –Thailand 2017) ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 โดยมีคุณกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ผู้คร่ำหวอดในแวดวงบริหารมานานกว่าทศวรรษ และและคุณนันทศักดิ์ จุลตระกูล ผู้อำนวยการด้านทรัพยากรสำนักงานใหญ่ ธุรกิจวัสดุทดแทนไม้และธุรกิจต่างประเทศ กลุ่มบริษัทมิตรผล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การบริหารองค์กรให้ก้าวสู่การเป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่น
ศาสตราจารย์ ดีพัค ซี เจน ผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ฯ ได้แถลงถึงความร่วมมือระหว่างศศินทร์และเอออน ฮิววิทในโครงการค้นหาสุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นความร่วมมือที่ต่อเนื่องยาวนานกว่า 17 ปี พร้อมทั้งให้มุมมองที่น่าสนใจว่า "เราอยู่ในยุคที่คนให้ความสำคัญกับทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งความต้องการและการรักษาคนเก่งในองค์กรถือกุญแจหลักในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จ กว่า 16ปี ที่ศศินทร์ร่วมกับ เอออน ฮิววิท ในการจัดทำโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นที่ไม่เพียงแต่มอบรางวัลให้แก่องค์กรที่เป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่นเท่านั้น แต่ยังร่วมแบ่งปันแนวทางวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศในการบริการจัดการทัพยากรมนุษย์ในองค์กรให้กับผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน ซึ่งถือเป็นการประสานกันที่ดีระหว่างข้อมูลเชิงลึก และการนำข้อมูลไปใช้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด"
รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข ผู้อำนวยการหลักสูตรการบริหารงานบุคคล สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ ได้แบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มโลกยุคใหม่ปี 2025 อันมี 6 ประเด็นหลัก คือ โลกาภิวัฒน์ 2.0 (การขับเคลื่อนอำนาจและการเติบโตจากตะวันตกสู่เอเชีย) การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีแบบทบต้น การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของความสัมพันธ์และโครงสร้างของสังคมและองค์กร ความเชื่อมโยงกันของโลกและตลาดแรงงานคนเก่ง และวิกฤติการณ์ทางสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจทำให้เกิดความต้องการโมเดลใหม่ในการบริหารธุรกิจและกลยุทธ์การบริหารบุคคล
เป็นเวลากว่าทศวรรษที่ เอออน ฮิววิทและศศินทร์ร่วมกันศึกษาและพัฒนาทฤษฎี แนวทางปฏิบัติ และงานวิจัย จากข้อมูลที่ได้จากกลุ่มบริษัทผู้เข้าร่วมโครงการ กรณีศึกษาและแนวโน้มธุรกิจทั่วโลก รวมไปถึงจากผู้ตัดสินซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการบริหารจากทุกแผนกงาน แล้วนำมาบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้มั่นใจว่าเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและประเทศไทยครอบคลุมความท้าทายทางธุรกิจและการบริหารบุคคลทุกมิติ กลุ่มบริษัทผู้ได้รับรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นประเทศไทย เช่น กลุ่มไมเนอร์ฟู้ด โรงแรมแมริออท แมคโดนัลด์ (ประเทศไทย) เอไอเอสและกลุ่มมิตรผล เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืนจากความแข็งแกร่งในการบริหารบุคคล โดยเฉพาะการที่มีองค์กรสนใจเข้าร่วมการสำรวจทุกครั้งนับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา เช่น กลุ่มไมเนอร์ฟู้ด โรงแรมแมริออท แมคโดนัลด์ (ประเทศไทย) และองค์กรอื่นๆ อีกมากมายย่อมเป็นพิสูจน์ที่ดีถึงมาตรฐานของโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่น
ทั้งนี้ รศ.ดร.ศิริยุพา กล่าวเสริมว่า "บริษัทที่เป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่นคือ บริษัทที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำหนดกลยุทธ์และวางระบบของการบริหารงานบุคคลซึ่งส่งผลต่อความผูกพันของพนักงานและเครื่องมือประเมินผลของโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นจะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกสู่ความสำเร็จ
ดร.อดิศักดิ์ จันทรประภาเลิศ ในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท เอออน ฮิววิท ประเทศไทย ได้กล่าวว่า โลกธุรกิจยุคใหม่เป็นโลกของการเปลี่ยนแปลง Volatile, Uncertain, Complex, and Ambiguous (VUCA) ซึ่งสภาพแวดล้อมเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อองค์กร องค์กรต้องขับเคลื่อนให้รวดเร็วกว่าที่เคย หากกล่าวถึงผลกระทบการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย ปัจจุบันได้เปลี่ยนจากความท้าทายในเชิงระบบ เป็นความท้าทายที่ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจมากขึ้น (Thailand 4.0) ทั้งในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์เดิมให้มีนวัตกรรมใหม่ๆ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในเรื่องของการคิดค้นผลิตภัณฑ์ การเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจและมุ่งเน้นไปที่การบริการมากขึ้น ดร.อดิศักดิ์ได้เผยถึงผลการศึกษาของโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นปีที่ผ่านมาว่า หากองค์กรมีเป้าหมายในการเป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่น ควรที่จะให้ความสำคัญใน 3 เรื่อง คือ 1. การปรับประสบการณ์ของพนักงานในองค์กร ให้พนักงานมีประสบการณ์ในการทำงานที่ดี โดยการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการเชื่อมโยงคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่เข้าด้วยกัน และออกแบบองค์กรให้รองรับอนาคต ซึ่งก็พบว่าองค์กรที่เป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่นนั้น ทำได้ดีกว่าองค์กรทั่วๆไปในทุกด้าน 2. การนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ องค์กรสุดยอดนายจ้างดีเด่นสามารถที่จะใช้ข้อมูลต่างๆในการช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานและใช้ข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงระหว่างพนักงานกับผลการทำงานขององค์กร 3. การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมขององค์กรเพื่อให้สอดรับกับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยองค์กรสุดยอดนายจ้างดีเด่นมีการปรับเปลี่ยนมิติของคนในส่วนต่างๆให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรในภาพใหญ่ อีกทั้งพิจารณาถึงทิศทางที่องค์กรมุ่งหน้าจะไปในการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมอีกด้วย
คุณกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ซึ่งได้รับรางวัลที่สุดของสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2559 เชื่อว่าในโลกยุคดิจิตอลมีความจำเป็นที่องค์กรจะต้องเข้าใจพนักงานอย่างลึกซึ้ง เพื่อที่จะสามารถออกแบบกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลที่สอดรับกับยุคปัจจุบันได้ นอกจากนี้คุณกานติมายังเผยว่าในช่วงระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์จำเป็นที่จะต้องก้าวไปข้างหน้า พร้อมๆกับสร้างความผูกพันของพนักงานให้เกิดขึ้นกับองค์กร ทั้งนี้การจะทำให้พนักงานผูกพันกับองค์กรเป็นสิ่งที่จะต้องเริ่มต้นจากผู้บริหารระดับบน โดยในวันนี้บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ยังได้ทิ้งท้ายถึงจุดเด่นและเส้นทางที่ทำให้เอไอเอสก้าวมาเป็นที่สุดของสุดยอดนายจ้างดีเด่น
คุณนันทศักดิ์ จุลตระกูล ผู้อำนวยการด้านทรัพยากรสำนักงานใหญ่ ธุรกิจวัสดุทดแทนไม้และธุรกิจต่างประเทศ กลุ่มบริษัทมิตรผล กล่าวว่า ปรัชญาการดำเนินธุรกิจที่สำคัญของกลุ่มมิตรผลตั้งแต่เริ่มก่อตั้งคือคำว่า "ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ" ซึ่งปรัชญานี้ไม่เพียงใช้แต่กับกลุ่มพนักงานของมิตรผลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มผู้ถือผลประโยชน์ร่วมทุกภาคส่วนของมิตรผล ไม่ว่าจะเป็น ชุมชน ลูกค้า หรือผู้จัดส่งวัตถุดิบ เป็นต้น ในปี 2559 มิตรผลเข้าร่วมโครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่น โดยมีเป้าหมายในการนำองค์กรไปสู่ระดับโลก และเพื่อที่จะประเมินว่าการดำเนินงานด้านบริหารงานบุคคลของกลุ่มมิตรผลมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าทางมิตรผลได้รับรางวัลถึง 2 รางวัลคือ รางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นประจำปี 2559 และรางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นสำหรับกลุ่มคนเจนเนอร์เรชั่น วาย ซึ่งรางวัลที่ได้ทำให้มิตรผลมั่นใจได้ว่าปรัชญาในการดำเนินงานของมิตรผลนั้นมีประสิทธิภาพและช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ปพิชญา วะนะสุข ผู้จัดการโครงการนายจ้างดีเด่นประจำปี 2560 ยังเสริมเพิ่มเติมจากทางดร.อดิศักดิ์ว่า จากการที่สภาพแวดล้อมของธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ความต้องการของธุรกิจ (Business Needs) เปลี่ยนแปลงควบคู่ไปกับ แนวโน้มคนเก่ง (Talent Trends) ที่เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ซึ่งปัจจัยหลักทั้ง 2 ปัจจัยที่กล่าวมานี้ ส่งผลให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องกลับมาทบทวนถึงรูปแบบการทำงานใหม่ คือ ต้องมีความเข้าใจถึงบริบทของธุรกิจ เข้าใจว่าองค์กรต้องเติบโตไปในทิศทางไหน และมีการเตรียมความพร้อมในการจัดการและพัฒนากำลังคนเพื่อให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น คำถามที่เกิดขึ้นคือ ทำอย่างไรให้เข้าใจถึงบริบทขององค์กร และสามารถเตรียมความพร้อมในเรื่องของการจัดการกำลังคนได้อย่างมีประสิทธิผล? โครงการสุดยอดนายจ้างดีเด่นของเอออน ฮิววิทนั้นเป็นเครื่องมือที่ช่วยสะท้อนให้ฝ่ายทรัพยาบุคคลเข้าใจภาพองค์กรในปัจจุบันครบทุกมิติ ทั้งจากในของทิศทางธุรกิจจากผู้บริหารระดับสูง นโยบายและความพร้อมของการบริหารทรัพยากรบุคคล และ ความพึงพอใจและการรับรู้จากพนักงาน โดยจะวิเคราะห์เทียบออกมาเป็น 4 มิติ เทียบกับองค์กรที่เป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่น มี 4 มิติ นั้นคือ ความผูกพันของพนักงานในองค์กรสูง ผู้นำองค์กรมีประสิทธิภาพสูง ภาพลักษณ์ขององค์กรที่โดนเด่น และวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมประสิทธิภาพ
คุณปพิชญายังกล่าวทิ้งท้ายว่า "องค์กรหลายแห่งกลัวที่จะเข้าร่วมโครงการลักษณะนี้เพราะคิดว่าเป็นการประกวดแข่งขันและรู้สึกว่าจะเข้าร่วมต่อเมื่อพร้อมแล้วเท่านั้น ซึ่งคำว่า 'พร้อม' เป็นคำที่วัดผลได้ยากมาก แต่อยากให้มองว่าการเข้าโครงการนี้เป็นเพื่อเข้าใจตนเองมากยิ่งขึ้น และการที่องค์กรทราบว่าปัจจุบันของตนเองอยู่ ณ จุดไหน และต้องปรับปรุงพัฒนาเรื่องอะไร นั่นคือหนทางสู่ความสำเร็จของการเป็นสุดยอดนายจ้างดีเด่นสำหรับพนักงานแล้ว"
ช่องทางติดต่อ เอออน ฮิววิท:
ปพิชญา วะนะสุข, ผู้จัดการโครงการ
ชนิสรา สมมติวงศ์, ผู้ประสานงานโครงการ
อันทิกา ชวดชุม, ผู้ประสานงานโครงการ
โทร. 02.305.4700
Sign up for News Alerts: http://aon.mediaroom.com/index.php?s=58
Follow Aon Hewitt on Twitter @AonHewittAsia