กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--NBTC Rights
กทค. ส่อเบี้ยวนโยบายสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เตรียมเปลี่ยนมติบังคับค่ายมือถือคิดค่าโทรตามจริงเป็นวินาทีตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ หมอลี่ขู่ฟ้องศาลปกครอง หากแก้ไขมติไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ความคืบหน้า (หรือถอยหลัง!?) เรื่องการคิดค่าโทรเป็นวินาที หรือคิดแบบไม่ปัดเศษ อันเป็นประเด็นที่สังคมไทยทั้งในระดับรัฐและผู้บริโภคทั่วไปเรียกร้องมานานข้ามปี โดยที่ผ่านมา กสทช. ก็เคยขานรับมาโดยตลอดว่าได้ดำเนินการกำหนดเป็นเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ 4G แล้ว ซึ่งทำให้เสียงเรียกร้องสงบไป และแม้ 4G จะเริ่มเปิดให้บริการกันมาพักใหญ่ โดยระบบการปัดเศษค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงเดิม แต่ผู้บริโภคไทยก็ยังคงรอคอยต่อไปด้วยความหวัง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2559 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ครั้งที่ 29/2559 ได้พิจารณาเรื่องแนวทางบังคับผู้ให้บริการคิดค่าบริการเสียงตามการใช้งานจริงในหน่วยวินาที โดยเรื่องนี้สืบเนื่องจากที่ประชุม กทค. ครั้งที่ 10/2559 เมื่อ 17 พ.ค. 2559 ได้เคยมีมติให้ผู้รับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz (คลื่น 4G) จะต้องคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีทุกรายการส่งเสริมการขาย ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตการให้ใช้คลื่นความถี่ที่กำหนดให้ "ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีบริการที่เป็นธรรม ซึ่งรวมถึงการกำหนดอัตราค่าบริการที่สมเหตุสมผล ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค มีความชัดเจน และการให้บริการที่มีคุณภาพตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด" โดยมีการกำหนดเงื่อนไขไว้ด้วยว่าต้องคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริง
อย่างไรก็ดี ภายหลังจาก กทค. มีมติดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้รับในอนุญาตดำเนินการตามมติโดยเคร่งครัดหลายครั้ง แต่ได้รับการโต้แย้งจากผู้ให้บริการบางรายว่า ในขณะที่เข้าร่วมประมูล ผู้ให้บริการทุกรายคิดค่าบริการตามการใช้งานเป็นหน่วยนาที และได้ใช้อัตราดังกล่าวมาเป็นฐานในการคิดคำนวณแผนการลงทุนและกำหนดจำนวนเงินประมูลคลื่นความถี่ออกมา มตินี้จึงเป็นคำสั่งที่ก่อให้เกิดภาระเกินสมควร หากจะบังคับใช้มติก็จะต้องบรรเทาความเสียหายหรือชดเชยให้กับบริษัทฯ
ด้วยเหตุนี้ สำนักงาน กสทช. จึงยังไม่สามารถบังคับให้ผู้ให้บริการปฏิบัติตามมติ กทค. ได้ และที่เสนอเรื่องให้ที่ประชุม กทค. พิจารณาทบทวนมติในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ ข้อเสนอก็คือจะมีการกำกับดูแลให้แต่ละบริษัทฯ มีรายการส่งเสริมการขายที่คิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งเท่านั้น มิใช่คิดในอัตราวินาทีทั้งระบบ
ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา (หมอลี่) กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพประชาชน เปิดเผยว่า ในที่ประชุมถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างเข้มข้น แต่ยังไม่สามารถมีมติในเรื่องนี้ได้ โดยตนเองนั้นไม่เห็นด้วยกับการทบทวนมติ กทค. ครั้งที่ 10/2559 เนื่องจากมติดังกล่าวออกโดยชอบด้วยกฎหมายตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตการให้ใช้คลื่นความถี่ ซึ่งโดยหลักกฎหมาย หากจะมีการทบทวนมติ กรรมการต้องพิจารณาว่ามีข้อเท็จจริงใหม่หรือไม่ และข้อเท็จจริงนั้นเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักเพียงพอที่ทำให้ต้องมีการทบทวนมติหรือไม่ ซึ่งสำนักงาน กสทช. ก็ยืนยันในที่ประชุมว่า เหตุผลที่บริษัทโต้แย้งยังไม่มีหลักฐานชัดเจนและไม่มีความสมบูรณ์ตามที่กล่าวอ้างเพียงพอ
"เรื่องนี้ชัดเจนว่ามติและคำสั่งมีผลบังคับใช้แล้ว เพียงแต่บริษัทฯ ยังไม่ยอมปฏิบัติตาม ดังนั้นหากจะให้บังคับรายการส่งเสริมการขายแค่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ก็เท่ากับเป็นการเปลี่ยนแปลงมติ ดังนั้นต้องดำเนินการตามข้อบังคับการประชุมให้ถูกต้องด้วย แต่เนื่องจากปัจจุบันมีกรรมการท่านหนึ่งลาออกไป ทำให้การทบทวนมติต้องใช้เสียงของ กทค. ทั้งหมด ซึ่งผมยืนยันไม่ทบทวน เพราะในเมื่อมีกติกาแล้วก็ต้องบังคับใช้กติกา ไม่ใช่มาไล่แก้กติกาตามความพอใจ ที่สำคัญกติกานี้เป็นกติกาที่คุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งก็คือผู้บริโภค และเป็นเรื่องที่รัฐบาลได้เคยมอบนโยบายชัดเจนว่าให้มีการปรับการคิดค่าบริการโทรศัพท์ตามจริงเป็นวินาที แทนการปัดเศษวินาทีขึ้นเป็นนาที เพราะฉะนั้นหากยืนยันที่จะมีการทบทวนมติ ผมก็จะขอใช้สิทธิฟ้องศาลปกครองเพื่อชี้ขาดต่อไป"
อนึ่ง เรื่องนี้ก่อนที่ กทค. จะมีมติเมื่อครั้งที่ 10/2559 ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz จะต้องคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีทุกรายการส่งเสริมการขายนั้น คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้มีเคยหนังสือลงวันที่ 20 เมษายน 2559 ถึงเลขาธิการ กสทช. เพื่อทวงถามว่า "การเรียกเก็บค่าบริการเป็นวินาทีเป็นวิธีการคำนวณค่าบริการที่เป็นธรรมและสามารถทำได้จริง ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามความประสงค์ของนายกรัฐมนตรีที่ได้แถลงต่อประชาชนในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ และเป็นการคืนความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคที่จะได้ใช้บริการโทรศัพท์โดยมีการคิดค่าบริการตามจริงเป็นวินาที อีกทั้งสำนักงาน กสทช. ยังได้นำเสนอข่าวต่อสื่อมวลชนว่าอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G บนคลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz จะต้องคิดค่าบริการตามจริงเป็นวินาทีอีกด้วย ในการนี้ คณะกรรมาธิการฯ จึงขอทราบความคืบหน้าของการดำเนินการ และขอได้โปรดเร่งรัดให้มีการคิดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามจริงเป็นวินาทีทั้งระบบโดยเร็ว"
หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า จากการทวงถามความคืบหน้าอย่างเป็นทางการของ สปท. นี้เอง คือเหตุผลที่ทำให้ กทค. ขานรับจนมีมติครั้งดังกล่าว แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร เนื่องจากความดึงดันของผู้ให้บริการ จนกระทั่งมีการเสนอขอแก้ไขมติดังกล่าวในที่สุด ซึ่งมีแนวโน้มที่ กทค. ส่วนใหญ่จะคล้อยตามเสียด้วย