กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--ไทยทีวีสีช่อง 3
นาคีตอนที่ 9 ออกอากาศ วันจันทร์ที่ 28 พย. หลังข่าภาคค่ำทางช่อง 3
สุภัทรให้ทศพลกลับบ้าน แต่ทศพลไม่ยอม ออกตามหาศพคำแก้ว ไม่เชื่อว่าคำแก้วตายแล้ว พิมพ์พรบอก คำแก้วโดนดาบเหล็กไหลฟัน แล้วร่างก็หายไป ไม่มีทางรอด พิมพ์พรบอกบุญส่งผู้เป็นพ่อ หากทศพลไม่ยอมกลับ เธอก็จะอยู่กับทศพลด้วย พ่อโกรธมาก ที่ นครพรหมประกายโลก วัชระปราการ มาหา ท้าวศรีสุทโธนาค ให้ช่วยเจ้าแม่นาคีที่กำลังเจ็บหนัก แต่ไม่สามารถก้าวผ่านกำแพงศักดิ์สิทธิ์ไปได้ เลื่อมประภัส ฉัตรสุดา เฝ้าดูอาการเจ้าแม่อย่างเป็นห่วง แล้วเจ้าแม่นาคี ก็ค่อย ๆ หมดลมไป สุดท้ายเจ้าปู่ ท้าวศรีสุทโธนาค ก็มาช่วยเจ้าแม่ให้ฟื้นขึ้นมาในที่สุด เจ้าปู่ขอให้นาคี ถือศีลอยู่ที่วังบาดาล แต่เจ้าแม่ขอกลับไปใช้ชีวิตคู่กับไชยสิงห์ ท่านปู่บอกจะสาปให้เป็นหิน เจ้าแม่นาคีขอเพียงได้อยู่กับไชยสิงห์ จะเป็นเช่นไรก็ยอม ท่านปู่จึงบอกแล้วแต่เวรกรรมเถิด
ทศพลชวนคำปองไปอยู่กรุงเทพฯด้วยกัน แต่คำปองขอเกิดและตายที่ดอนไม้ป่า ทศพล พ่อ และเพื่อน ๆ กำลังจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ แล้วทศพลก็เห็นคำแก้วกลับมาในที่สุด ทศพลดีใจมากที่คำแก้วยังไม่ตาย คำแก้วบอกว่า ชีวิตของคำแก้วจะเกิดเคราะห์กรรมครั้งใหญ่ถึงสามครั้งสุริยคราส ครั้งแรกคำแก้วเกิดมาพ่อก็ตาย ครั้งที่สองก็เกิดเหตุวุ่นวายตอนบวงสรวงเจ้าแม่นาคี รอจนพ้นสุริยคราสที่จะมาถึงนี้ไปได้เมื่อไหร่ ชีวิตคำแก้วก็จะหมดเคราะห์กรรม ทศพลจึงตัดสินใจอยู่กับคำแก้วต่อไป
คำแก้วมาลาคำปอง บอกจะไปถือศีล แล้วเธอก็มาหาท่านปู่ให้ช่วย ท่านปู่เห็นแก่ความรักของเจ้าแม่กับทศพล จึงให้อยู่ถือศีล และบอกกับคำแก้วว่า จงรักษาศีลไว้อย่าให้ขาด ขอเพียงพ้นวันสุริยคลาสครานี้ไปได้เมื่อไหร่ เจ้าก็จักสมหวัง เจ้าแม่นาคีบำเพ็ญภาวนาอย่างตั้งมั่น ในร่างของคำแก้ว จะต้องผ่านอุปสรรคทุกอย่างไปให้ได้
ทศพลบอกพ่อว่าจะอยู่ต่อ เพื่อสืบเรื่องราวในอดีต เพื่อน ๆ ทศพลเห็นคำแก้ว คิดว่าเป็นผี พิมพ์พร รีบมาดูที่บ้าน พวกของกำนันแย้ม หมออ่วม กอ ก็มาด้วย ส่วนเมืองอินทร์ ก็เสกพังพอนธนู ไปตามหาและกำจัดคำแก้ว คำแก้วหนีมาจนถึงเทวาลัย วัชระปราการ ต่อสู้กับพังพอนธนู จนพังพอนธนู พ่ายแพ้ หายวับไป
สุภัทรบอกบุญส่ง ว่าถ้าอยากปราบงูผีก็ทำไป อย่าทำร้ายทศพล เพราะไม่ชอบใจที่ชาวบ้านรวมหัวกันไปเผาบ้านทศพล สุภัทรมาเยี่ยมทศพลที่บ้านคำแก้ว ขอให้คำแก้วกับคำปอง ไปอยู่กรุงเทพฯด้วยกัน เพื่อพ้นจากดอนไม้ป่า แต่คำแก้วบอกไปไม่ได้ ทศพลเสียใจ
ตั้งแต่หมออ่วมเสียมีด เหล็กไหลไป ก็เอาแต่เก็บตัว เพราะกลัวเจ้าแม่นาคีมาฆ่า กำนันแย้ม กับบุญส่งคิดหาทางอื่น จึงไปตามเมืองอินทร์มาปราบ เมืองอินทร์ ต้องทำพิธี จึงให้บุญส่งและกำนันแย้ม พาไปที่แม่น้ำ เพื่อนำเทวรูปเจ้าแม่นาคี ที่จมอยู่กลับคืนมาทำพิธี เมืองอินทร์ เมืองอินทร์หลับตาพนมมือร่ายคาถา แล้วโยนเชือกนาคบาศคล้องเอาไว้ทันที เทวรูปสิ้นฤทธิ์
ในอดีต เจ้าแม่นาคีท้อง ส่วนเจ้าปู่ไป บำเพ็ญเพียรที่นครพรหมประกายโลก จึงยังไม่รู้เรื่อง เจ้าแม่ให้เลื่อมประภัส ฉัตรสุดา ปิดเป็นความลับ เมื่อใกล้ถึงเวลาจะสำรอกไข่ออกมาตามกำหนด นาคีสำรอกไข่ออกมาทางปาก นาคีมองไข่เปลือกสีขาวนวลที่วางอยู่บนพื้นหญ้าริมลำธารด้วยแววตารักใคร่หวงแหน เปลือกไข่สีขาวนวลค่อยๆ ปริร้าว ก่อนแตกออกเกิดลำแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วบริเวณ ปรากฏทารกเพศชาย ผิวขาวใส ใบหน้าเปื้อนยิ้ม หน้าตาน่ารักอยู่ภายในเปลือกไข่ นาคีอุ้มทารกน้อยขึ้นมาแนบอก น้ำตาแห่งความปลื้มปีติไหลอาบแก้ม เพราะหากบุตรของนาคี อยู่ในร่างนาคท่านท้าวก็ย่อมต้องรู้ แต่หากอยู่ในร่างมนุษย์ ก็จักพากลับเมืองบาดาลไม่ได้ นาคีเศร้าจนน้ำตาซึม ครุ่นคิดหาทางออก ก่อนจะค่อยๆ บรรจงจูบหน้าผากทารกน้อยอย่างอาลัย เป็นจูบแรกและจูบลาในคราวเดียวกัน นาคีร่ายมนต์เสกให้ทารกน้อยกลายเป็นปลาไหลเผือก เพื่ออำพรางเจ้าปู่ศรีสุทโธนาค และให้ลูก จงอยู่ในร่างปลาไหลเผือกนี้จวบจนอายุครบ 15 ขวบปี แล้วเจ้า จักกลายร่างเป็นมนุษย์อีกครั้ง ขอให้ลูกแม่แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยเถิด
เมื่อท่านปู่กลับมา ก็รู้เรื่อง สั่งให้เอานาคีไปขัง และพร้อมกันนั้น ที่เมืองมรุกขนคร ก็เกิดความแห้งแล้ง ดินแตกระแหง วัวควายล้มตาย ผู้คนอดอยากแย่งหัวมันกันกิน
พระเจ้านิรุทธราช แม่ทัพมรุกขนคร (เลื่อง) ขุนวัง มหาอำมาตย์ พราหมณ์เฒ่า เจ้าอินทร์ ขุนนางและนางกำนัลเข้าเฝ้า นิรุทธราชโกรธที่พญานาคไม่ให้น้ำ จึงสั่งทำลาย รูปบูชาพญานาคทั่วทั้งมรุกขนครเสียให้สิ้น อย่าให้หลงเหลือแม้แต่ตัวเดียว ! ขุนวัง จึงนำทหารไปทำลายเทวรูปที่ถ้ำเทวาลัย พวกทหารต่างทุบทำลายเทวรูปท้าวศรีสุทโธนาคที่เป็นพญานาค 9 เศียรจนกระทั่งพังครืนลงมา เจ้าอินทร์หลับตาจับยามสามตาแล้วบอกกับนิรุทธราชว่า การเป็นเช่นนี้เป็นเพราะมีปลาไหลเผือกตัวใหญ่อาศัยอยู่ ณ แม่น้ำด้านบูรพาทิศ เพียงพระบาทเจ้ามีรับสั่งให้จับปลาไหลเผือกขึ้นมาจากน้ำ อีกมิเกินสามราตรี ฝนฟ้าก็จักตกต้องตามฤดูกาล
ริมแม่น้ำโขง วันใหม่
เจ้าอินทร์พนมมือถือบ่วงนาคบาศร่ายคาถาอยู่หน้าปะรำพิธีริมแม่น้ำ เบื้องหน้ามีบายศรีและเครื่องเซ่นสังเวยบูชาพญานาค จำพวกผลไม้ วางเรียงรายประกอบพิธีจับปลาไหลเผือก พระเจ้านิรุทธราชประทับเป็นประธาน เจ้าอินทร์พนมมือร่ายคาถาแน่วแน่ ปลาไหลเผือกที่ว่ายน้ำอยู่ในลำน้ำโขง โดนมนต์ของเจ้าอินทร์ก็ร้อนรนทุรนทุรายจนทนไม่ไหวต้องว่ายน้ำมาที่หน้าปะรำพิธี เจ้าอินทร์ลืมตาขึ้น แล้วใช้บ่วงนาคบาศก์โยนลงไปคล้องปลาไหลเผือกได้อย่างง่ายดายพระเจ้านิรุทธราชมองอย่างพอใจ ทันทีที่ปลาไหลเผือกขึ้นมาบนฝั่งก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายร้อยเท่า เจ้าอินทร์บอก เนื้อปลาไหลเผือกเป็นยาอายุวัฒนะ ใครได้กิน จักมิรู้แก่ มิรู้เฒ่า
อายุยืนยาว ไร้โรคาพยาธิ (พะ-ยา-ทิ) เบียดเบียน นิรุทธราชคว้าดาบแล้วตรงเข้าไปฟันฉับเข้าที่ท่อนหางของปลาไหลเผือก ดิ้นพราดๆ เลือดแดงฉาน
(หมายเหตุ : ผลกรรมที่นิรุทธราชใช้มีดฟันหางปลาไหลเผือก ทำให้ชาตินี้ต้องกลายเป็นชายพิการขาเป๋)
นิรุทธราชตัดชิ้นเนื้อปลาไหลเผือก แล้วแล่เนื้อปลาไหลเผือก แจกจ่ายให้ชาวมรุกขนครได้กินกันทั้งเมือง แม่ทัพมรุกขนครหยิบชามปลาไหลเผือกโยนลงตรงหน้าแม่ทัพไชยสิงห์ ขณะที่ไชยสิงห์และเพื่อน ๆ ถูกจับขังคุกอยู่ ไชยสิงห์ไม่ยอมกิน นิรุทธราช หาว่าโง่ ปัตตนครพินาศย่อยยับก็เพราะมีแม่ทัพโง่เง่าอย่างไชยสิงห์ แล้วนิรุทธราช ก็สั่งประหารไชยสิงห์กับเพื่อน ๆ ไชยสิงห์ตั้งจิตอธิษฐานก่อนตาย ข้าแจ้งแก่ใจตัวเองแล้ว ไม่ว่าเจ้าจักเป็นมนุษย์ เป็นนาค หรือเป็นอันใดก็ตาม ข้าก็รักเจ้า รักเจ้าเพียงผู้เดียว เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้ข้าได้ครองคู่กับเจ้าทุกภพทุกชาติ… สิ้นคำอธิษฐาน เพชฌฆาตก็ลงดาบตัดหัวไชยสิงห์เลือดพุ่งกระฉูดแดงฉานทั่วทั้งลานประหาร เหล่าเสนาทั้งสี่ถูกฟันคอขาดสะบั้นตามแม่ทัพไชยสิงห์
นาคีตอนที่ 10 ออกอากาศ วันอังคารที่ 29 พย. หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3
ปัจจุบัน
เมืองอินทร์บอกว่า เทวรูปเจ้าแม่นาคี ไม่ใช่เทวรูปธรรมดา แต่เป็นร่างในอดีตชาติของมันนางพญานาคีถล่มบ้านเมืองพังพินาศ ฟ้าดินเลยสาปแช่งให้มันกลายเป็นหิน เมืองอินทร์จะทำพิธีกองกูณฐ์อัคคี เพื่อปราบนาคี พิธีบูชาไฟของพวกโยคีตั้งแต่สมัยพุทธกาล สืบทอดมาจากสำนักท่านอุรุเวลกัสสปะมหาฤาษี ในรามเกียรติ์เรียกพิธีนี้ว่าพิธีกองกูณฐ์กลาบูชาไฟ
เมื่อเมืองอินทร์เริ่มทำพิธี คำแก้ว ที่กำลังนอนอยู่ในกระท่อม ก็เริ่มกลายร่างเป็นงู คำแก้วรีบวิ่งไปที่เทวาลัย คำแก้วดิ้นทุรนทุราย ฉัตรสุดา อาสาจะไปกำจัดเมืองอินทร์ด้วยตนเอง ฉัตรสุดาใจเด็ด พลีชีพ พุ่งเข้ากองไฟเพื่อทำลายพิธี เสียงระเบิดบึ้มดังกึกก้องกัมปนาท ลูกไฟปะทุแตกกระจายทั่วบริเวณ เครื่องเซ่นไหว้ระเนระนาด ร่างของนาคฉัตรสุดาถูกเผาด้วยไฟอาคมจนมอดไหม้ร่างกระจัดกระจายเป็นส่วนๆ ฉัตรสุดาเสียชีวิต เลื่อมประภัสเสียใจมาก
เมืองอินทร์ยังไม่ยอมแพ้ บอกกกับกำนันแย้ม หมออ่วม และชาวบ้าน ว่าจะทำพิธีอีกครั้ง กำนันบอกจะฆ่านาคีให้ได้ ทันใดนั้น ทัศนัยกลับมา บอกว่านาคีไม่ได้โหดเหี้ยมอย่างที่ทุกคนคิด ทัศนัยเล่าว่า ตัวเขานั้น เข้าไปในถ้ำ แล้วพบเข้ากับงูวัชระปราการ แต่งูเผือกช่วยไว้ จนรอดขีวิต ข้างในถ้ำ มีแต่ภาชนะเครื่องเคลือบดินเผา และพวกโลหะสำริด สมัยเมืองมรุกขนครรุ่งเรือง อยู่เต็มไปหมด แล้วสุภัทรก็ตามเข้าไปในถ้ำ ได้พบกับทัศนัย พร้อมทั้ง โครงกระดูกของขุนวังที่กอดจารึกมนต์อาลัมพายน์ในอดีตชาติเอาไว้แน่น ทัศนัยยังไม่ยอมกลับมาพร้อมกับสุภัทร เพราะต้องการศิลาจารึกที่เหลือให้ครบเสียก่อน โดยสุภัทร คอยมาส่งข้าว ส่งน้ำให้เสมอ แล้วทัศนัย ก็นำศิลาจารึก ทั้งสามส่วนประกอบกัน จนสมบูรณ์ ทศพลบอกคำแก้ว ว่าทัศนัย ได้ศิลาจารึกกลับมาแล้ว คำแก้วบอกให้เก็บไว้ให้ดี อย่าตกไปในมือคนชั่ว เพราะรู้ดีว่าภัยจะมาถึงตัว
เมืองอินทร์ทำพิธี เผาเทวรูปอีก คำแก้วตัวร้อนเป็นไฟ เกล็ดงูเริ่มขึ้น ทศพลตกใจ จะพาไปหาหมอ คำแก้ววิ่งหนีไป คำปองมาเห็นเวทนาลูก ปลอบใจ ว่าต้องมีวิธีแก้อาถรรพ์ เลื่อมประภัส ปลอมตัวเป็นหญิงชรา เอาว่านดอกทองมาขายให้ลำเจียก แล้วรีบให้ลำเจียกสูดกลิ่น จนทำให้ลำเจียกต้องรีบไปหาเมืองอินทร์ทันที พวกกำนันแย้มขัดขวาง แต่ลำเจียกไม่ฟัง เดินข้ามสายสิญจน์ของเมืองอินทร์ จนพิธีเสื่อม แล้วตรงเข้าไปปลุกปล้ำเมืองอินทร์ เพื่อน ๆ ทศพล เห็นเหตุการณ์กำลังชุลมุน จึงรีบเข้าไปขโมยเทวรูปหนีไป พวกกำนันแย้มกับกอ วิ่งตามไปจะเอาเทวรูปคืน แต่เจอเข้ากับงูเลื่อมประภัส ที่ไล่ฉก เลยทำให้ต้องหนีไป รุ่งเช้า พวกกำนัน กอ มาที่ป่าช้า ให้เมืองอินทร์รับผิดชอบ เป็นผัวลำเจียกในที่สุด
เพื่อนของทศพล นำเทวรูปมาให้ทศพล กำนันแย้มไม่ยอม พาสมุนมาจับทศพลกับเพื่อนไว้ พร้อมกับสุภัทร ทัศนัย ขับไล่ให้ออกจากหมู่บ้านไป สุภัทรยอม แต่ขอเทวรูปและศิลาจารึกกลับไปด้วย เมืองอินทร์ เห็นมนต์อาลัมพายน์ นึกดีใจ ที่จะหาทางปราบเจ้าแม่นาคีได้อีกครั้ง
สุภัทร บอกพวกเด็ก ๆ ให้เก็บของกลับ เมืองอินทร์จะใช้มนต์อาลัมพายน์ปราบนาคี เขาบอกกับกำนันแย้ม และบุญส่ง ว่า มนต์อาลัมพายน์เป็นมนต์ที่พญาครุฑมอบให้แก่ฤาษีโกสิยโคตรตั้งแต่สมัยพระพุทธองค์เสวยชาติเป็นพระภูริทัต มนตราบทนี้มีอำนาจเหนือพญานาคราชและอสรพิษทั้งปวง เมื่อได้ยินมนต์บทนี้จะทุรนทุรายประดุจเหล็กร้อนยอนเข้าไปในหู
ในอดีต นิรุทธราช สั่งให้ทุบ ทำลายเทวรูปพญานาค ทันใดนั้นฝุ่นที่เกิดจากการทุบหินทรายก็ลอยคลุ้งเป็นรูปพญานาค 9 เศียร ร้องคำรามอย่างกราดเกรี้ยว พุ่งชนพวกทหารที่ทุบทำลายจนกระอักเลือด ปางตาย เจ้าอินทร์ใช้ลิ่มจารึกมนต์อาลัมพายน์บนแผ่นศิลาทีละตัวอักษร ข้าจักจารึกมนต์อาลัมพายน์ลงในแผ่นศิลาตั้งไว้ในหอคำหลวง มนต์บทนี้ใช้ปราบพญานาคน้อยใหญ่ได้ทุกตระกูล ตราบใดที่แผ่นศิลาจารึกมนตรานี้ยังอยู่ จักไม่มีพญานาคตัวใดกล้ากล้ำกรายอาณาเขตของหอคำหลวงได้
คำแก้วเป็นห่วงทศพล กลัวจะถูกทำร้าย หรือมีอันตราย หากอยู่กับเธอ จึงขอให้ทศพลกลับกรุงเทพไป ทศพลไม่เข้าใจ เสียใจคิดว่าคำแก้วไม่รัก แต่สุดท้าย ทศพลก็ตัดใจไม่ได้ อยู่กับคำแก้วต่อไป คำแก้วบอกรักทศพล กำนันแย้มไม่ยอมให้ศิลาจารึกกับสุภัทร ทัศนัย แถมยังจับตัวทั้งสอง พร้อมกับลูกศิษย์ ไว้อีกด้วย
นาคี เสนอเป็นตอนจบ นาคี ออกอากาศ ตอนที่ 11 เสนอเป็นตอนจบ
วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 3
เมืองอินทร์ทำพิธี เริ่มอ่านมนต์อาลัมพายน์ คำแก้วทุรนทุราย เลื่อมประภัส วัชระปราการ รีบไปช่วยจ้าแม่ ทศพลวิ่งตามคำแก้ว จนถึงลานพิธี หน้าบ้านกำนันแย้ม คำแก้ว เลือดออกทางจมูก ปาก จนสลบไป ทศพล จะเข้าไปทำลายพิธี งูเลื่อมประภัสเข้าช่วย จึงถูกยิงและจบชีวิตลง หมออ่วม กับกอ แย่งศิลากันจนตกแตก เทวรูปเจ้าแม่นาคี ระเบิด กระจาย วัชระปราการ พาเจ้าแม่นาคีในร่าง คำแก้วหนีไป พิธีแตกไปในทันที เมืองอินทร์แค้นใจ ยังปราบนาคีไม่ได้ แต่แล้วก็ เห็นหงอนศิลาแตกหักกระเด็นอยู่ที่พื้น เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในคือ มีอัญมณีสีชมพูใสทรงหยดน้ำเป็นประกายซ่อนอยู่ภายใน มันคือ เพชรพญานาค
วัชระปราการ พาเจ้าแม่ไปซ่อนตัวที่ถ้ำเทวาลัย เขาเป็นห่วงเจ้าแม่สุดชีวิต เพราะตอนนี้ ดูอ่อนแรงมาก เมื่อเจ้าแม่ฟื้นมาจึงรู้ว่า เลื่อมประภัสเสียชีวิตแล้ว ยิ่งเสียใจที่ต้องมีคนมาตายเพราะตนอีก คำปองกับทศพล ไปตามหาคำแก้วที่เทวาลัย แต่กลับถูกชาวบ้านใส่ร้าย แถมจับตัวเอาไว้ หาว่าทั้งคู่คิดคบชู้กัน ตามแผนของบุญส่ง และกำนันที่ต้องการจับตัวคนทั้งสองไว้ เพื่อล่อให้คำแก้วออกมา ลำเจียกมาช่วยทศพล ให้พ้นข้อกล่าวหา โดยบุญส่ง ยุให้ทศพล เอาเพชรพญานาค ติดที่หน้าผากของคำแก้ว เพื่อพิสูจน์ว่าคำแก้ว เป็นงูผีจริงหรือไม่ ตามตำนานที่เมืองอินทร์ บอกกับบุญส่งว่า พญานาคใต้บาดาลจะมีแก้วมณีประจำตัวเรียกว่าเพชรพญานาค เมื่อพญานาคตัวใดใกล้ละสังขาร ก็จะอธิษฐานฝากแก้วมณีประจำตัวของตนไว้ก่อนที่ร่างจะกลายเป็นหิน
คำปองกับทศพล ตามหาคำแก้วจนเจอ และพากลับไปอยู่ที่บ้าน ด้วยความรัก คำแก้วจึงกลับไปกับแม่และทศพล ไม่ฟังคำของวัชระปราการที่ว่า เจ้าแม่ต้องอยู่ในถ้ำนี้จนกว่าคำสาปของท้าวศรีสุทโธนาคจักเสื่อมลง เมื่อครบหนึ่งพันปีจักเกิดสุริยคราสบนท้องฟ้า เจ้าแม่ก็จักได้เป็นมนุษย์ดังประสงค์
พอคำแก้วหลับ ทศพล จึงเอาเพชรพญานาค ติดที่หน้าผาก คำแก้วร้องทุรนทุราย ร่างกายเริ่มเป็นเกล็ด เธอร้องโหยหวนด้วยความทรมาน ทศพลตกใจ ถอยหนี ยิ่งทำให้คำแก้วเสียใจ ตัดพ้อที่ทศพลไม่รักตนจริง แล้ววิ่งออกจากเรือนไป ทศพลเองก็เสียใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ถูก
พวกกำนันแย้ม กอ อ่วม บุญส่ง แอบซุ่มดูอยู่ เมื่อเห็นเหตุการณ์ ก็แน่ใจ จะตามไปฆ่านาคี กำนันให้กอจับคำปองเอาไว้ ส่วนเมืองอินทร์ ใช้บ่วงนาคบาศ คล้องูวัชระปราการจนสิ้นฤทธิ์ แล้วก็ระดมยิงจนวัชระปราการเสียชีวิต เขาปกป้องเจ้าแม่จนนาทีสุดท้าย นาคีเสียใจที่ทุกคนต้องจบชี่วิตลงเพราะตน นึกถึงคำพูดของ ท้าวศรีสุทโธนาคในอดีต บอกว่า ความโกรธมีโทษทุกระดับ สถานเบาคือเผาใจให้เป็นทุกข์ สถานกลางอาจผลักดันให้สังหารผู้อื่น สถานหนักก็ถึงขั้นฆ่าได้ไม่เว้นแม้กระทั่งตนเอง เมื่อรู้ว่าความโกรธเป็นของร้อน เหตุใดจึงไม่ดับระงับเสีย ที่สุดของการล้างแค้นคือการรบกับความมืดในใจตน ความมืดดำ อันเกิดจากความเกลียดจักทำให้เจ้าพร้อมสร้างศัตรูใหม่ขึ้นมาได้ตลอดเวลา อารมณ์ร้ายเปรียบดั่งอสรพิษที่จักติดตามรังควานเจ้าไม่ให้เป็นสุข การจองเวรที่ยืดเยื้อ เริ่มต้นจากเวรที่อภัยได้แต่ไม่อภัย บุญบาปล้วนทำหน้าที่อยู่แล้ว จงปล่อยเขาไปตามทางที่เขาสร้างเอง และเสวยผลเองนั้นดีที่สุด หากเจ้าผูกใจเจ็บก็เท่ากับพลอยกระโจนไปร่วมรับบาปบนเส้นทางของเขาด้วย
เจ้าแม่นาคีนึกย้อนถึงกรรมในอดีตชาติที่ทุกคนต่างผูกพันกันมา เพราะความแค้นที่มีต่อกัน ทำให้ทุกคนต่างเวียนว่ายตายเกิด จองเวรกันข้ามภพข้ามชาติไม่รู้จบรู้สิ้น...หากข้าตั้งจิตเป็นกุศล รักษาศีล ปล่อยวางความแค้นให้เป็นอภัยทาน แรงอาฆาตพยาบาทนั้นก็อาจดับสิ้นลงได้ นาคีถอดศิราภรณ์ที่เป็นเจ้าแม่ออก แล้วเนรมิตพัสตราภรณ์เสียใหม่ นาคีในชุดนุ่งขาวห่มขาว (ยังคงมีเพชรพญานาคติดอยู่ที่หน้าผาก) ประทับบนแท่นหินที่ปูลาดด้วยผ้าขาว วันพรุ่ง เมื่อเกิดสุริยคราสเหนือฟากฟ้า คำสาปสรรของเจ้าปู่สิ้นสุด ข้าก็จักเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์เสียที เข้าสู่ช่วงแห่งการรักษาศีลเพื่อเป็นมนุษย์ในวันรุ่งขึ้น
พิมพ์พร เป็นต้นคิดให้พวกกำนันแย้ม ล่อให้เจ้าแม่ออกมาจากเทวาลัย ด้วยการจับตัวแม่ของคำแก้วไปล่อที่เทวาลัย เจิดนภารับไม่ได้ที่พิมพ์พร โหดเหี้ยมขึ้นทุกวัน จึงไปช่วย อ.ทัศนัย ดร.สุภัทร และเพื่อน ๆ ที่หลุมดักสัตว์ เพื่อกำลังให้มาช่วยทศพลกับคำปองอีกแรง สุภัทรเป็นห่วงทศพล รีบตามไปที่เทวาลัยทันที
กำนันแย้มบังคับให้คำปองเรียกคำแก้วออกมา แต่คำปองไม่ยอมให้ผู้ใด มาฆ่าลูกของตน จึงตัดสินใจปลิดชีวิตตนเองอย่างน่าอนาถ แล้วพวกกำนันก็เริ่มเผาทศพลทั้งเป็น เจ้าแม่นาคีทนไม่ไหว ที่จะมีใครต้องมาเสียชีวิตเพราะตนเอง ต่อให้ต้องเป็นสัตว์เดรัจฉานไปชั่วกัปชั่วกัลป์ เจ้าแม่ก็ยอม คำแก้วออกมาจากเทวาลัย กลายร่างเป็นเจ้าแม่นาคีต่อหน้าทุกคน เมืองอินทร์ ใช้บ่วงนาคบาศคล้องแต่ไม่สำเร็จ ซ้ำร้าย ยังถูกเจ้าแม่นาคีแสดงอิทธิฤทธิ์ จนเสียชีวิตไปตาม ๆ กัน ทั้งเมืองอินทร์ กำนันแย้ม กอ บุญส่ง หมออ่วม รวมทั้งพิมพ์พรด้วย เจ้าแม่จะฆ่าลำเจียก แต่ทศพลขอชีวิตไว้ ลำเจียกตกใจ จนเสียสติไป
ขึ้นที่บนท้องฟ้า สุริยคราสคายดวงอาทิตย์แล้ว เมฆทะมึนเคลื่อนผ่านไป แสงสว่างส่องมาอีกครั้ง งูเจ้าแม่ยอบกายลงตรงหน้าทศพล ทศพลน้ำตาไหลมองตางูเจ้าแม่ ยังคงเห็นเป็นใบหน้าคำแก้วอยู่ในดวงตาคู่นั้น ทศพลเข้าไปกอดงูเจ้าแม่ ร้องไห้ เสียใจต่อสิ่งที่กระทำลงไป ทันใดนั้น ท้าวศรีสุทโธนาคก็ปรากฏตัวขึ้นก่อนกลายร่างเป็นพญานาคทะยานขึ้นฟ้าไปอมดวงอาทิตย์ไว้ สุริยคราสเกิดขึ้นอีกครั้งด้วยฤทธิ์ของท้าวศรีสุทโธนาค ทำให้งูเจ้าแม่กลายร่างเป็นคำแก้วมาสั่งลาทศพล
ทั้งสองกอดกันร่ำไห้ คำแก้วเสียใจ ที่ไม่สามารถอยู่กับทศพลได้ ต้องเป็นนาคอยู่ใต้บาดาลไปชั่วกัปชั่วกัลป์ ทศพลบอกลา และสารภาพว่า รักคำแก้ว และคำแก้ว จะอยู่ในใจเขาตลอดไป ทศพลประทับจูบบนริมฝีปากคำแก้วสั่งลาครั้งสุดท้ายเนิ่นนาน เป็นจูบแรกและจูบสุดท้ายของกันและกัน คราสคลายจากอาทิตย์จนหมด ร่างของคำแก้วเกล็ดๆค่อยๆขึ้นตามตัว ยามต้องแสงอาทิตย์จนกระทั่งกลายร่างเป็นพญานาคสีขาวโดยสมบูรณ์ พญานาคีเหลียวกลับมามองทศพลเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเลื้อยหายเข้าไปในโพรงถ้ำใต้เทวาลัย
นางพญานาคีเลื้อยมายังนครพรหมประกายโลก ก่อนกลายร่างเป็นเจ้าแม่นาคีในชุดขาวบริสุทธิ์
ท้าวศรีสุทโธนาคประทับบนแท่นหิน สงบ และสง่า นาคีเข้าไปหมอบซบแทบพระบาทเจ้าปู่ ร่ำไห้สะอึกสะอื้น เจ้าปู่จึงปลอบว่า เจ้าตั้งสัตย์อธิฐานบำเพ็ญบารมีถึงพันปีขอเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อครองรักกับคนรักของเจ้า หลานเอ๋ย...วันนี้เจ้ายอมเสียสละที่จักได้เป็นมนุษย์ดังที่ปรารถนาเพื่อรักษาชีวิตคนรักของเจ้าไว้ ความรักของเจ้าช่างยิ่งใหญ่นัก แม้เจ้ากับเขาจักอยู่กันคนละโลก ความรักของเจ้าทั้งสองจักเป็นอมตะเล่าขานไม่รู้จบ ถึงเจ้าทั้งสองจักไม่ได้พบกัน แต่ความรักมีพลานุภาพส่งถึงกันได้เสมอ
สุภัทรสงสารลูกชายจับใจ เพื่อน ๆ ต่างก็เป็นกำลังใจให้กับทศพล ทศพลตัดสินใจ ลาบวชต่อสุภัทร ผู้เป็นบิดา ทศพลบอกกับพ่อ ว่าตัดสินใจบวชไม่สึก เพื่ออุทิศผลบุญกุศลให้กับคำแก้ว และออกธุดงค์ไปเรื่อย ๆ แสวงความสงบวิเวกในป่า เพื่อฝึกฝนขัดเกลาจิตใจให้ห่างไกลจากกิเลส ไม่ข้องแวะกับเรื่องทางโลกอีก
ผ่านเวลาไปหลายสิบไป จนพระทศพลในวัย 70 ปีเศษ นั่งปักกลดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของลำน้ำโขงแต่เพียงลำพังรูปเดียว แทนสายตาพระทศพลเห็นบั้งไฟพญานาคที่พุ่งจากน้ำขึ้นท้องฟ้า ท่ามกลางแสงของบั้งไฟพญานาคเหนือลำน้ำโขง เงาของนางพญานาคีเกล็ดสีขาวกำลังแหวกว่ายชูคออยู่ นางพญานาคีพ่นดวงไฟดวงใหญ่ให้ลอยขึ้นไปเหนือน้ำ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเป็นอนุสรณ์ความรักไปตราบชั่วนิจนิรันดร์
เงาของนางพญานาคีใต้ลำน้ำโขงปรากฏแก่สายตาเพียงชั่ววินาทีแล้วมุดหายดำดิ่งลงไปใต้บาดาล
จบภาพที่พระทศพลในวัยชรา ยิ้มจางๆบนใบหน้าอย่างมีความสุข...