CPAC รุกหนักตลาดงานเล็กในประเทศและขยายฐานอินโดจีน

ข่าวทั่วไป Thursday November 22, 2001 11:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--เครือซีเมนต์ไทย
CPAC ชูกลยุทธ์บุกตลาดปี 45 เดินหน้ารุก ตลาดต่างจังหวัด เจาะงานขนาดกลาง ขนาดเล็ก เสริมบริการพิเศษ ชูมาตรฐาน CPAC เพิ่มมาตรฐาน การก่อสร้าง โดยใช้คอนกรีตผสมเสร็จ แทนการผสม ด้วยโม่เล็ก หรือผสมด้วยมือ ต่อเนื่องจากปี 44 หลังประสบความสำเร็จ แคมเปญงานเล็ก ดันยอดขายเพิ่ม พร้อมขยายธุรกิจ ไปยังประเทศ เพื่อนบ้าน อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวโรงงาน ซีแพคแฟรนไชส์ ที่ลาว
ในวันนี้ ได้มีพิธีลงนามใน สัญญาการจัดตั้ง โรงงานซีแพคแฟรนไชส์ เมืองปากเซ สปป.ลาว ระหว่าง นายอรรณพ เตกะจรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (ซีแพค) กับ Mr.Khamphet Siriphokha กรรมการผู้จัดการ บจก.ศิริเจริญพาณิช สปป.ลาว พร้อมทั้งแถลงข่าว แผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ของซีแพคประจำปี 2545 ที่โรงแรมเดอะแกรนด์ ถ.รัชดาภิเษก
นายอรรณพ เตกะจรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (ซีแพค) ผู้นำธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จของประเทศ ในธุรกิจซิเมนต์ เครือซิเมนต์ไทย เปิดเผยว่า จากการที่ บริษัทฯ ได้ออกแคมเปญ "งานเล็กแค่ไหนก็ใช้ซีแพคได้" ควบคู่ไปกับการเปิด โครงการซีแพคแฟรนไชส์ เพื่อเจาะตลาดงานขนาดเล็ก โดยมุ่งปรับเปลี่ยน พฤติกรรมผู้บริโภค ให้หันมาใช้ คอนกรีตผสมเสร็จ แทนวิธีผสมด้วยมือ หรือด้วยโม่เล็ก ผลปรากฏว่า ประสบความสำเร็จ อย่างดียิ่ง คาดว่าในปีนี้ บริษัทฯ จะมียอดขายประมาณ 5.4 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากปี 2543 ถึง 12% ส่วนใหญ่เป็นยอดขาย จากงานขนาดกลาง และเล็กซึ่ง เพิ่มขึ้นกว่า 30%
ในปี 2545 บริษัทฯ จะยังคงใช้กลยุทธ์ที่ต่อเนื่องจากปี 2544 คือ เจาะงานขนาดเล็ก เดินหน้าโครงการแฟรนไชส์ มุ่งแข่งขันด้าน คุณภาพของผลิตภัณฑ์ แทนการแข่งขันด้านราคา รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับงานก่อสร้าง ขนาดเล็กโดยเฉพาะ เช่น คอนกรีตสำหรับเทงานโครงสร้างต่างๆ ของงานบ้าน คอนกรีตกันซึม และคอนกรีตสำหรับเทลานในบ้าน และผลักดัน การขายคอนกรีตพิเศษ สำหรับใช้ในงาน ที่ต้องการคุณสมบัติเฉพาะ เช่น คอนกรีตสำหรับห้องเย็น คอนกรีตสำหรับ โครงสร้างชายฝั่งทะเล เป็นต้น
นายอรรณพ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในตลาดประเทศเพื่อนบ้านว่า ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศกัมพูชา และพม่า มียอดขายรวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 35% เนื่องจากสินค้าตราช้างของเครือฯ ได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างกว้างขวาง ผลิตภัณฑ์มี ความหลากหลาย ตามประเภทการใช้งาน มีคุณภาพและบริการมาตรฐานโลก ในปีหน้า บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการขยายฐานในตลาดประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับ การขยายตัวของโครงการก่อสร้างที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ล่าสุด บริษัทฯ ได้ร่วมกับ บจก. ศิริเจริญพาณิช สปป.ลาว ตั้งโรงงานซีแพคแฟรนไชส์ ที่เมืองปากเซ สปป.ลาว กำลังผลิตวันละ 440 ลบ.ม. โดยจะเริ่มเดินเครื่อง ในต้นเดือนธันวาคมนี้
สปป.ลาว เป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง มีคู่แข่งขันน้อย ผู้ร่วมทุนมีความชำนาญ ในการทำตลาด และรู้ความต้องการ ของผู้บริโภค ซึ่งจะมีส่วนช่วยเสริมสร้าง ความแข็งแกร่งใน การดำเนินธุรกิจ ในประเทศลาว ได้อย่างดียิ่ง ถือเป็นโครงการซีแพคแฟรนไชส์ ในตลาดต่างประเทศ โครงการแรก ของบริษัทฯ
"ปัจจุบัน บริษัทผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด มีโรงงานทั่วประเทศรวม 218 แห่ง โดยเป็นโรงงานของซีแพค 189 แห่ง และโรงงานซีแพคแฟรนไชส์ 29 แห่ง คาดว่า ในปีหน้าจะมีผู้ร่วมโครงการซีแพคแฟรนไชส์รวมทั้งสิ้น 68 ราย สำหรับในต่างประเทศปัจจุบันมี 4 โรงงาน คือ ประเทศกัมพูชา ที่พนมเปญ 2 โรงงาน และเสียมราฐ 1 โรงงาน ประเทศพม่าที่เมืองย่างกุ้ง 1 โรงงาน ในปีหน้านอกจากที่ปากเซ สปป.ลาว แล้ว บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดโรงงานเพิ่มอีก 4 แห่ง คือ เวียงจันทน์ สปป.ลาว ย่างกุ้ง ประเทศพม่า กัมปงโสม และเกาะกง ประเทศกัมพูชา" นายอรรณพ กล่าวในตอนท้าย
แผนการดำเนินงานในประเทศสถานการณ์ตลาดในประเทศปี 2544 และคาดการณ์ปี 2545
สถานการณ์การแข่งขัน ของตลาดคอนกรีตผสมเสร็จ ในปี 2544 ค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน และงานก่อสร้างสาธารณูปโภค ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องสำหรับในปี 2545 ในส่วนของภาคเอกชน โดยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรร โรงงานอุตสาหกรรม Discount Store จะขยายตัวเล็กน้อย เช่นเดียวกับโครงการภาครัฐ ซึ่งคาดได้ว่าในปีหน้า ผู้ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ ส่วนใหญ่จะหันมาใช้ กลยุทธ์การแข่งขันด้านราคาเป็นสำคัญ
ผลการดำเนินงานปี 2544
ในปี 2544 คาดว่าบริษัทฯ จะมียอดขาย 5.4 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากปี 2543 12% เป็นผลจาก งานขนาดเล็ก และขนาดกลางมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 30% เนื่องจากปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มุ่งเน้น การใช้กลยุทธ์การเจาะตลาด งานขนาดเล็ก-กลาง สำหรับงานขนาดใหญ่ จะเป็นงานต่อเนื่อง จากปีก่อนหน้า
แผนการดำเนินธุรกิจปี 2545
เนื่องจากปริมาณงานขนาดใหญ่ลดลง ทำให้มีการแข่งขันทางด้านราคาค่อนข้างมาก กลยุทธ์หลัก ในการดำเนินธุรกิจ ของ CPAC ในปี 2545 ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ต่อเนื่องจากปี 2544 คือ
เจาะตลาดงานขนาดกลาง-เล็กในต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยเสริมบริการพิเศษ เน้นมาตรฐาน ของซีแพค เพื่อเพิ่มมาตรฐาน ของงานก่อสร้าง ในงานขนาดเล็ก ให้ผู้บริโภคได้ใช้ คอนกรีตที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานแทน การผสมด้วยโม่เล็ก หรือด้วยมือ มุ่งแข่งขันด้านคุณภาพ CPAC มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการให้บริการเป็นหลัก แทนการแข่งขันด้านราคา ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค และเพื่อยกระดับ อุตสาหกรรมก่อสร้าง ให้ดียิ่งขึ้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยพัฒนาสินค้า คอนกรีตสำหรับงานบ้าน โดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกใช้ให้เหมาะสม กับความต้องการ ได้แก่ คอนกรีตสำหรับเทโครงสร้าง คอนกรีตกันซึม และคอนกรีตสำหรับ เทลานจอดรถ ผลักดันการขายสินค้าพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าสามารถ เลือกใช้สินค้าได้ตรงตามประเภท ของการใช้งาน เช่น คอนกรีตงานห้องเย็นซีแพค (CPAC Freezing Room Concrete) ซึ่งมีความทนทานสูง ภายใต้อุณหภูมิต่ำกว่า จุดเยือกแข็ง เช่น ในห้องเย็น ห้องแช่แข็ง คอนกรีตชายฝั่งทะเลซีแพค (CPAC Marine Concrete) ซึ่งมีความทนทานสูงต่อทั้งสารคลอไรด์ และซัลเฟตในน้ำทะเล ซึ่งเหมาะสำหรับโครงสร้างในพื้นที่ชายฝั่งทะเล และคอนกรีตไหล เข้าแบบง่ายซีแพค (CPAC Self-Compacting Concrete) ซึ่งมีคุณสมบัติ ไหลเข้าแบบได้ ด้วยตนเองโดยไม่ต้องจี้เขย่า เป็นต้น แผนการดำเนินงานในต่างประเทศสถานการณ์ตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน
สภาวะเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้าน มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศเวียดนามเติบโตสูงสุด รองลงมาได้แก่ กัมพูชา ลาว และพม่า เนื่องจากแต่ละประเทศมีโครงการก่อสร้างที่พักอาศัย เขตอุตสาหกรรม และงานสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ถนน ท่าเรือ และเขื่อน เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อดึงดูด เงินลงทุนจากต่างประเทศ
ผลดำเนินงานในต่างประเทศปี 2544 และ แผนปี 2545
ปัจจุบัน CPAC มีโรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน 4 โรงงาน ได้แก่
ประเทศกัมพูชา ที่เมืองพนมเปญ 2 โรงงาน และเมืองเสียมราฐ 1 โรงงาน ประเทศพม่า ที่เมืองย่างกุ้ง 1 โรงงาน ในปี 2545 บริษัทมีแผนที่จะเปิดโรงงานเพิ่มอีก 5 โรงงาน คือ
ประเทศกัมพูชา เมืองกำปงโสมอีก 1 โรงงาน ที่เกาะกง (Franchise) 1 โรงงาน ประเทศพม่า เมืองย่างกุ้ง อีก 1 โรงงาน ประเทศลาว เมืองปากเซ (Franchise) 1 โรงงาน และเมืองเวียงจันทร์ อีก 1 โรงงาน การดำเนินงานที่ผ่านมา นับว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกัมพูชา และพม่า มียอดขายรวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 35%
โครงการ CPAC Franchise
บริษัทฯ ได้เริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2543 เพื่อขยายฐานการผลิต คอนกรีตผสมเสร็จ ให้ครอบคลุม ทั่วประเทศ และกระตุ้นให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดท้องถิ่น หันมาใช้คอนกรีตผสมเสร็จ แทนการผสม ด้วยโม่เล็ก หรือผสมด้วยมือ เนื่องจากมีคุณภาพที่ได้มาตรฐานกว่า และช่วยให้ งานก่อสร้างเสร็จ เร็วยิ่งขึ้น ดังเช่นประเทศในแถบยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งมีการใช้ คอนกรีตผสมเสร็จ อย่างแพร่หลาย และกว้างขวางสูงกว่า 50% ในขณะที่ประเทศไทย ใช้ปูนซีเมนต์ในรูป ของคอนกรีต ผสมเสร็จเพียง 20% เท่านั้น
ปัจจุบัน โครงการ CPAC Franchise มีผู้ร่วมเข้าโครงการแล้วทั้งหมด 49 ราย เปิดดำเนินการไปแล้ว 29 โรงงาน มียอดขายทั้งสิ้น 300,000 ลบ.ม. คิดเป็น 6% ของยอดขายรวม คาดว่าภายในปีหน้าจะมีผู้ร่วมโครงการเพิ่มเป็น 68 ราย นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายโครงการ CPAC Franchise ไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย เช่น CPAC Franchise ที่เมืองปากเซ สปป.ลาว เมืองเวียงจันทน์ สปป.ลาว และที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ