การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์- อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับชาวไทยและต่างชาติ

ข่าวทั่วไป Monday July 30, 2001 13:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ (ประเทศไทย)
เมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำลงและตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง คุณควรจะนำเงินของคุณไปลงทุนที่ไหน? การลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกทางหนึ่ง เพราะการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมสามารถก่อให้เกิดผลตอบแทนอย่างงดงาม อีกทั้งมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์จะมีการผันผวนน้อยกว่าราคาหุ้น คนไทยนั้นคุ้นเคยกับการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2541 โดยนักลงทุนผู้มีประสบการณ์และเข้าใจวงจรของตลาดอย่างแท้จริงจะลงทุนเมื่ออสังหาริมทรัพย์มีราคาต่ำและจะนำออกจำหน่ายในช่วงอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นที่ต้องการของตลาด
นายอภิสิทธิ์ ลิ้มล้อมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "นักลงทุนที่ซื้อทรัพย์สินอย่างชาญฉลาดไปแล้วในช่วงราคาต่ำสุดของตลาดอาจจะได้เป็นผลกำไรไปบ้างแล้ว ในปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวและมูลค่าของทรัพย์สินก็กำลังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เพราะฉะนั้นในระยะนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการลงทุนไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะจำหน่ายทรัพย์สิน ยกเว้นต้นทุนในการถือครองทรัพย์สินจะสูงมากหรือมีผู้เสนอราคาซื้อที่ดี"
ควรจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทไหน
ตัวอย่างของการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ดึงดูดใจในตลาดปัจจุบัน คือ คอนโดมิเนียม และสิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดินในใจกลางกรุงเทพฯ ที่ซึ่งมูลค่าของทรัพย์สินต่ำกว่าในยุคตลาดเฟื่องฟูถึง 30%-50% อสังหาริมทรัพย์เหล่านี้สามารถก่อให้เกิดผลตอบแทนจากค่าเช่าในอัตรา 7% หรือมากกว่า 10% ต่อปี และหากนักลงทุนตัดสินใจจำหน่ายทรัพย์สินเหล่านั้นไปในระยะเวลาและราคาที่เหมาะสมก็อาจจะได้รับผลตอบแทนรวมมากกว่า 20% ต่อปี ซึ่งผลตอบแทนนี้น่าสนใจมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการฝากเงินในอัตราดอกเบี้ยประมาณ 3 % ต่อปีในปัจจุบัน
มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้
การลดลงของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาทำให้โครงการก่อสร้างใหม่ๆในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพหยุดชะงักลง และส่งผลให้อุปทานใหม่ของภาคอสังหาริมทรัพย์มีจำกัด ในที่สุดแล้วความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานจะผลักดันให้มูลค่าของทรัพย์สินปรับตัวขึ้นถึงในระดับที่การพัฒนาโครงการใหม่มีความคุ้มค่าในการลงทุนอีกครั้ง ช่วงระยะเวลาในการฟื้นตัวของอสังหาริมทรัพย์แต่ละประเภทนั้นจะแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานส่วนเกินในตลาด ตัวอย่างเช่น อพาร์ทเมนต์ในใจกลางเมืองและคอนโดมิเนียมซึ่งมีอุปทานส่วนเกินน้อยกว่าจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าอาคารสำนักงานเกรดเอ
ทางเลือกของสถานที่ในการลงทุน
การลงทุนในทำเลที่มีการเติบโตสูงก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีนอกจากกรุงเทพฯ ตัวอย่างของการลงทุนที่ดีก็คือเมืองหัวหินซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากกรุงเทพฯ หัวหินเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ และเนื่องจากในขณะนี้สนามบินหัวหินสามารถรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศได้ จึงมีศักยภาพธุรกิจการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่ดีในระยะยาว และจะทำให้ราคาทรัพย์สินในหัวหินเพิ่มเช่นเดียวกันกับแหล่งท่องเที่ยวหลักอื่น ๆ ของประเทศไทย ข้อมูลในอดีตช่วง 4 - 5 ปี ที่ผ่านมาแสดงถึงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราค่าเช่าห้องพักโรงแรมในหัวหิน โรงแรมระดับนานาชาติหลายแห่งเล็งเห็นศักยภาพนี้และพยายามขยายธุรกิจโรงแรมที่หัวหิน
จะเริ่มลงทุนอย่างไร
ข้อจำกัดของการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็คือสภาพคล่องที่ไม่สามารถแปลงเป็นเงินได้รวดเร็วเหมือนการลงทุนในตลาดหุ้นหรือตลาดเงิน นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ควรจะประเมินโอกาสทางธุรกิจของพวกเขาอย่างสุขุมรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน โดยมีปัจจัยหลักที่จำเป็นต้องพิจารณาได้แก่ โครงสร้างทางกายภาพ สภาพตลาด การเงิน และ ข้อกำหนดทางกฎหมายของทรัพย์สิน เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยได้พัฒนาขึ้นมาก นักลงทุนทุกระดับจึงสามารถหาคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่น่าเชื่อถือเพื่อช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการลงทุนประสบผลสำเร็จ
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ คุณอภิสิทธิ์ ลิ้มล้อมวงศ์ โทร. 02 254 5568--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ