พรรคประชาธิปัตย์จัดงานเลี้ยงมื้อเดียวได้เงิน 260 ล้าน

ข่าวทั่วไป Friday October 20, 2000 10:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--พรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์จัดงานเลี้ยงโต๊ะระดมทุนเข้าพรรคมีแขก 5,000 คนเศษจากบัตรที่แจกจ่ายไป 5,500ใบ 432 โต๊ะๆ ละ 12 คน เสิร์ฟอาหารชุดและอาหารประจำภาคเช่นหอยนางรมจากใต้ ไก่ย่างส้มตำอีสาน น้ำพริกหนุ่มภาคเหนือ ไวน์ชาโตเดอเลย โดยทางพรรคลงทุนใช้จ่ายไปประมาณ 6 ล้านบาท เป็นค่าอาหารกับค่าสถานที่อย่างละครึ่ง
ในงานนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคปชป.ลงทุนแต่สูมคาดผ้ากันเปื้อนตำส้มตำ นายสุทัศน์ เงินหมื่น รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รองหัวหน้าพรรคสับไก่ย่าง นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคจัดผักแกล้มน้ำพริกกุ้งเสียบ มีส.ส.กับรัฐมนตรีของพรรคคอยต้อนรับแขก
งานนี้นายชวนเปิดประมูลภาพเขียนลายเส้นของตัวเอง 9 ภาพ นำเงินส่วนหนึ่งเข้าพรรค บรรดาลูกพรรคช่วยกันประมูล เช่นนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ ช่วยประมูลภาพป่าสนภูกระดึงคู่ นาบกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ผู้อำนวยพรรคช่วยประมูลภาพป่าสนภูกระดึงเดี่ยว นายทวี สุระบาลช่วยประมูลภาพที่เกี่ยวกับจังหวัดตรัง นายอภิสิทธินำหนังสือประวัติส่วนตัวไปขายเล่มละ1,000บาทพร้อมแจกลายเซ็น
ไทยรัฐรายงานว่าทางพรรคขายโต๊ะกินเลี้ยงไปโต๊ะละ 6 แสนบาท คาดว่าพรรคได้เงินไม่ต่ำกว่า260ล้านบาทส่วนมติชนประเมินว่า 200 ล้านบาทอย่างต่ำและสั่งลูกพรรคให้ขายให้ได้อย่างต่ำโต๊ะละ6 หมื่นบาท ต่างไปจากการให้สัมภาษณ์ของเลขาธิการพรรคที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าใครจะบริจาคให้พรรคในงานเลี้ยงเท่าไรก็ได้ 1,000-2,000บาท ซึ่งการได้เงินมาครั้งนี้ ทางพรรคให้ทั้งส.ส.และรัฐมนตรีช่วยกันกระจายบัตร แต่มีส.ส.บางคนทำได้ไม่ถึงเป้า
มีรายงานข่าวด้วยว่าทางพรรคไปบีบขายบัตรให้ตำรวจ สร้างความลำบากใจแก่ผู้รับบัตรอย่างมาก แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองหัวหน้าพรรคซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการระดมทุนเข้าพรรคปฏิเสธข่าวนี้ ว่าไม่มีมูลความจริง และนายอนันต์ อนันตกูล เลขาธิการพรรคกล่าวว่าจะสืบหาว่าใครบ้างที่เดือดร้อนจากการจัดงานครั้งนี้
เลขาธิการปชป.ระบุว่า ผู้บริจาคต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรหรือหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ห้ามพรรครับบริจาคเงินจากคนต่างด้าว การรับบริจาคเงินครั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งสามารถตรวจสอบได้เต็มที่
นายชวนขึ้นกล่าวกล่าวปราศรัยในงานว่า นโยบายเพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคจะสานต่อกับสิ่งที่ทำมาแต่เดิมในรัฐบาลนี้เพราะเชื่อว่านโยบายถูกทางแล้ว ปชป.ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจที่ตั้งแล้วไม่สำเร็จก็เปลี่ยนชื่อใหม่ เมื่อก่อนปชป.ต้องสู้กับเผด็จการ เดี๋ยวนี้ต้องสู้กับเงิน--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ