กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
กำหนดฉาย 26 มกราคม 2560
แนวภาพยนตร์ แอคชั่นอิงประวัติศาสตร์
บริษัทผู้สร้าง สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ บิณฑ์ บูม บิสซิเนส
บริษัทจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ, บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ควบคุมการสร้าง ธนิตย์ จิตนุกูล
กำกับภาพยนตร์ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ทีมนักแสดง บัวขาว บัญชาเมฆ, ศรศิลป์ มณีวรรณ์, นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์, ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล,
กชกร นิมากรณ์, รพีภัทร เอกพันธ์กุล, จรัญ งามดี, นิรุติ สาวสุดชาติ, วรรณภูมิ ทรงสุภาพ,
ชุติรดา จันทิตย์, แผงฤทธิ์ แสงชา, มานพ อัศวเทพ, นัยนา ชีวานันท์, ธนา สินประสาธน์,
สหัสชัย ชุมรุม, ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง, คำรณ ลาภาวิวัตร์, ครรชิต ขวัญประชา
ทุก "ความยิ่งใหญ่" ต้องมี "การฝึกฝน"
ทุก "วีรบุรุษ" ย่อมมี "ทหารเอก" อยู่เคียงข้าง
และนี่คือเรื่องราวที่โลกต้องจดจำ
ก่อนที่ชายเลือดนักสู้จะได้เป็น "พระยาพิชัยดาบหัก"
"ทองดีฟันขาว" ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดในแนวแอคชันอิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปีของผู้กำกับมากฝีมือ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" จะเล่าเรื่องราวการเดินทางผจญชีวิตครั้งสำคัญของ "จ้อย" หรือ "ทองดี" (รับบทโดย "บัวขาว บัญชาเมฆ" ซูเปอร์สตาร์นักมวยไทยชื่อก้องโลกกับการแสดงในบทนำเต็มตัวเรื่องแรก) นักสู้หัวใจแกร่งผู้มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ, รักษาคำมั่นสัญญา, กล้าหาญจงรักภักดี, มีความสามารถและฝีไม้ลายมือทางหมัดมวยและดาบอย่างหาตัวจับยาก เขาไม่ชอบกินหมาก จึงเป็นที่มาของฉายา "ทองดีฟันขาว"
ชีวิตของเขาต้องระหกระเหินจากครอบครัวตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย และต้องออกเดินทางหาเงินเลี้ยงตัวจากการชกมวยและร่ำเรียนวิชามวยเพิ่มเติมจากบรรดาครูมวยตามเมืองต่างๆ นั่นทำให้เขาจำเป็นต้องต่อสู้จนสร้างความเจ็บแค้นให้แก่ศัตรูคู่อาหลานอย่าง "พันฤทธิ์" และ "ไอ้เชิด" แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ได้พบพานกับมิตรแท้อย่าง "บุญเกิด", "หมวยเล็ก" และ "ถึก" รวมถึงสาวคนรักอย่าง "รำยง" ด้วย
สุดท้ายแล้วโชคชะตาและวีรกรรมอันเลื่องชื่อของเขาก็นำพาให้เขาได้เป็นทหารเอกคู่ใจแห่งพระเจ้าตากสินมหาราช และพลีชีพต่อสู้ปกป้องบ้านเมืองจนกลายเป็นวีรบุรุษของชาวไทยที่รู้จักกันในนาม "พระยาพิชัยดาบหัก"
บันทึกผู้กำกับ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์"
หลายปีที่ผ่านมา ยังไม่มีใครทำประวัติ "นายทองดีฟันขาว" หรือ "พระยาพิชัยดาบหัก" อย่างจริงจังเลย แต่จริงๆ แล้วท่านเป็นคนสำคัญคนหนึ่งที่สามารถกอบกู้อิสรภาพของไทยโดยการต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพระเจ้าตากสิน และท่านเองก็มีความเสียสละแม้แต่ครอบครัวเพื่อที่จะมาปกป้องประเทศ เพราะฉะนั้นผมจึงอยากจะสร้างหนังให้รู้ว่า เราสมควรที่จะยกย่องและเทิดทูนท่านว่าเป็นวีรบุรุษของประเทศชาติอย่างมากอีกท่านหนึ่ง
เรื่องนี้ก็ได้ "บัวขาว บัญชาเมฆ" มาถ่ายทอดการแสดง ซึ่งตำนานที่เล่าขานกันมาคือ พระยาพิชัยดาบหักหรือนายทองดีเนี่ยเป็นนักมวย ชอบต่อยมวย และเป็นมวยที่สวยงาม เพราะฉะนั้นไม่มีใครแล้วที่จะเหมาะสมและมาสู้บัวขาวได้ในตอนนี้ซึ่งลงตัวอย่างมากทั้งหน้าตา, คาแรคเตอร์ และเชิงมวยของบัวขาว และเขาก็เป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาก นี่คือสิ่งที่ผมปรารถนาให้ทุกคนรู้จักกับประวัติและวีรกรรมของวีรบุรุษไทยที่ชื่อ "ทองดีฟันขาว" และต่อมาทำไมถึงได้ชื่อว่า "พระยาพิชัยดาบหัก"
บทบาท-คาแรคเตอร์
ทองดี (แสดงโดย บัวขาว บัญชาเมฆ) - เป็นคนมีความมุ่งมั่น รักษาคำมั่นสัญญาเสมอ ความคิดไม่ค่อยเหมือนคนอื่น ไม่ชอบกินหมาก จึงเป็นที่มาของฉายา "ทองดีฟันขาว" เขาเป็นคนพูดน้อยต่อยหนักแต่ก็มีอารมณ์ขัน ชื่นชอบการต่อยมวยเป็นชีวิตจิตใจ ไม่หาเรื่องใครก่อนแต่ถ้ามีคนมาหาเรื่องก็ไม่ยอมเช่นกัน มีความเก่งกาจเรื่องมวยและดาบ ความสามารถและโชคชะตาทำให้เขาได้มาเป็นทหารเอกของพระเจ้าตากสินและสู้รบปกป้องบ้านเมืองเคียงข้างกันมา จนกลายเป็นวีรบุรุษของชาวไทยที่รู้จักกันในนาม "พระยาพิชัยดาบหัก"
รำยง (แสดงโดย ศรศิลป์ มณีวรรณ์) - สาวสวยและแข็งแกร่ง เป็นนางกำนัล-หัวหน้าคนคุ้มกัน "แม่สอน" ภรรยาของพระยาตาก เก่งกาจทั้งดาบและมวย เพราะมีน้าเป็นครูมวยคนสำคัญของพระยาตาก รำยงเป็นคนตรงไปตรงมา กล้าตัดสินใจ ไม่ค่อยกลัวใคร เรื่องความรักก็กล้าที่จะแสดงออกว่าสนใจก่อน มีความมั่นใจในตัวเองซึ่งต่างจากสาวๆ ในยุคนั้น
เชิด (แสดงโดย นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์) – ลูกชายเจ้าเมืองพิชัย เป็นคนโอ้อวด ทำอะไรตามใจตัวเอง มักจะใช้อิทธิพลของพ่อข่มขู่ทุกคน เป็นคู่อริของทองดีตั้งแต่เล็กจนโต เพราะทองดีไม่ยอมอ่อนข้อให้จึงตามราวีไม่เลิก โดยมี "พันฤทธิ์" อาของเขาคอยช่วยเหลือและเสี้ยมสอนไปในทางที่ผิด
บุญเกิด (แสดงโดย วรรณภูมิ ทรงสุภาพ) - เด็กหนุ่มกำพร้าที่ถูกชะตากับทองดี จึงอยากจะเดินทางติดตามไปไหนมาไหนด้วย เป็นเด็กที่ค่อนข้างจะพูดมากจนบางครั้งก็ทำให้ทองดีรำคาญ แต่ก็จริงใจกับเพื่อนมากเช่นกัน ทำให้ทองดีเห็นความจริงใจนั้นของเขาจนยอมรับเป็นศิษย์ในที่สุด
หมวยเล็ก (แสดงโดย ชุติรดา จันทิตย์) - อาหมวยลูกสาวเจ้าของโรงงิ้ว แต่ไม่ค่อยชอบงิ้ว ทำให้เธอตัดสินใจออกเดินทางใช้ชีวิตไปกับทองดีและบุญเกิด เก่งเรื่องมวยจีนพอตัว และเป็นคู่กัดของบุญเกิด ทั้งคู่จะมีเรื่องให้หยอกล้อและทะเลาะกันเกือบตลอดเวลา
เรือง (แสดงโดย ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) - รูปร่างสูงใหญ่ ใจกล้า มีน้ำใจเอื้ออารีย์ ท่าทางอาจหาญ เป็นคนมีฐานะ และดูมีอิทธิพลในเมืองตาก เป็นผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยชีวิตทองดีในช่วงเวลาสำคัญ จึงทำให้ทองดีรู้สึกติดหนี้บุญคุณอย่างมาก แต่แล้วเหตุการณ์ก็พลิกผันทำให้ทั้งคู่ต้องมาอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ทำให้ทองดีต้องตัดสินใจเลือกบางอย่าง
ครูห้าว (แสดงโดย จรัญ งามดี) - เป็นครูมวยคู่ใจของพระยาตาก เป็นคนห้าวสมชื่อ ชกมวยเก่ง เป็นน้าของรำยง เป็นนักมวยนิรนามที่เคยล้มทองดีได้ จนทำให้ทองดีมุ่งมั่นดิ้นรนที่จะมีครู เพื่อเรียนรู้มวยและดาบเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ทองดีต้องเปรียบมวยประชันฝีมือกับครูห้าวก็มาถึงอีกครั้ง
เกร็ดภาพยนตร์ "ทองดีฟันขาว"
ภาพยนตร์แอคชั่นฟอร์มยักษ์ "ทองดีฟันขาว" เป็นผลงานกำกับเรื่องที่ 10 ของ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ผู้กำกับมากความสามารถที่กำกับภาพยนตร์มาแล้วหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น กระสือครึ่งคน (2559), กรรไกร ไข่ ผ้าไหม (2557), ปัญญาเรณู 3 ตอน รูปูรูปี (2556), ปัญญาเรณู 2 (2555), ปัญญาเรณู (2554), เดอะโกร๋น ก๊วนกวนผี (2547), ช้างเพื่อนแก้ว (2546), ตำนานกระสือ (2545), มนต์รักเพลงลูกทุ่ง (2538)
ในวาระปีที่ 21 ของการนั่งแท่นผู้กำกับ บิณฑ์จึงตั้งใจผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ออกมายิ่งใหญ่สมการรอคอย และถือเป็นการเทิดเกียรติและวีรกรรมความหาญกล้า ไม่ย่อท้อ และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวีรบุรุษของชาติไทยที่ควรได้รับการยกย่องและเอาเยี่ยงอย่าง โดยงานนี้ได้ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์มากฝีมืออย่าง "ปื๊ด-ธนิตย์ จิตนุกูล" ก้าวเข้ามาช่วยดูแลงานเบื้องหลังและควบคุมงานสร้างให้สมคุณภาพหนังฟอร์มยักษ์แห่งปี
ทุ่มเทพลังกายและใจในการแสดงภาพยนตร์ที่ได้รับบทนำเต็มตัวเรื่องแรกนี้อย่างเต็มที่ "บัวขาว บัญชาเมฆ" จึงเทคิวถ่ายทำและฝึกซ้อมบทบาทการแสดงอย่างเต็มความสามารถ พร้อมออกแอคชั่นโชว์ลีลาและชั้นเชิงมวยไทยให้สมชื่อซูเปอร์สตาร์นักมวยไทยชื่อก้องโลก และสมกับที่ผู้กำกับออกปากว่า "เรื่องต้องบัวขาวเล่นเท่านั้น" เพราะทั้งบัวขาวและทองดีมีช่วงชีวิตพื้นฐานที่คล้ายกันมาก เช่น ถูกห้ามชกมวยในวัยเด็กก่อนมุ่งมั่นฝึกฝนเรื่องหมัดมวยจนกลายเป็นวีรบุรุษของชาติได้ในที่สุด
ผู้ชมจะได้เต็มอิ่มกับไฮไลต์ฉากแอคชั่นสุดมันตระการตาตลอดทั้งเรื่อง อาทิ
ฉากค่ายมวยที่นอกจากจะสร้างฉากใหญ่ขึ้นใหม่ทั้งหมดแล้วยังลงทุนเผาจริงด้วย ส่วนบัวขาวก็เล่นจริงคลุกดินทรายจริง โดยถูกจับมัดมือโดนม้าลากในระยะทางยาวหลายร้อยเมตร
ฉากเปรียบมวยครั้งใหญ่ฉลองแด่พระยาตากคนใหม่ ที่ต้องเซ็ตฉากลานประลองฝีมืออันมหึมาขึ้นที่แก่งเสี้ยน จ.กาญจนบุรี ถ่ายทำกันแบบเช้ายันเย็นท่ามกลางพื้นทราย โดยมีตัวประกอบเข้าร่วมฉากกว่า 400-500 ชีวิตเลยทีเดียว
ฉากขี่ม้าลุยน้ำที่ยากต่อการทรงตัวแล้ว บัวขาวยังต้องแอคชั่นต่อสู้กับคู่อริบนหลังม้า ซึ่งแน่นอนว่าความยากย่อมเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
ฉากประลองฝีมือชกมวยตามสถานที่ต่างๆ เช่น ในคอกหมู, กลางสายฝน, ริมแม่น้ำ, ลานประลองข้างวัด ซึ่งจะเน้นลีลาที่หนักแน่นและสวยงามตามแบบฉบับมวยไทย
ระดมทีมนักแสดงมากความสามารถทั้งรุ่นใหม่อย่าง "มะนาว-ศรศิลป์ มณีวรรณ์ (นางเอกฝีมือดีช่อง 7), นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์ (แอคชั่นสตาร์ดาวรุ่งของไทย), วรรณภูมิ ทรงสุภาพ, ชุติรดา จันทิตย์" และรุ่นเก๋าอย่าง "ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล, จรัญ งามดี, กชกร นิมากรณ์, รพีภัทร เอกพันธ์กุล, มานพ อัศวเทพ, ธนา สินประสาธน์, สหัสชัย ชุมรุม" และอีกมากมายมาประชันบทบาทกันอย่างเข้มข้นล้นจอ
"ทองดีฟันขาว" พร้อมประกาศศักดาความยิ่งใหญ่อลังการแห่งแอคชั่นภาพยนตร์ไทย 26 มกราคมนี้ในโรงภาพยนตร์
ประวัติและผลงาน "บัวขาว บัญชาเมฆ" รับบทนำครั้งแรกใน "ทองดีฟันขาว"
ชื่อจริง: สิบตรี สมบัติ บัญชาเมฆ
อายุ: 34 ปี
สถานที่เกิด: จังหวัดสุรินทร์
สูง: 174 เซนติเมตร หนัก: 70 กิโลกรัม
การศึกษา: คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
ตำแหน่ง: รองผู้บังคับหมู่ หมวดบริการ กองร้อยบริการ กองบริการ โรงเรียนการกำลังสำรอง ศูนย์การกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (รอง ผบ.หมู่ มว.บร.ร้อย.บร.กบร.รร.กสร.ศสร.นรด.) โรงเรียนกำลังสำรอง ค่ายธนะรัชต์ ศูนย์การทหารราบ ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์
สถิติ: ชกทั้งหมด 316 ครั้ง ชนะ 262 ครั้ง (ชนะน็อกเอาต์ 68 ครั้ง) แพ้ 42 ครั้ง เสมอ 12 ครั้ง
เกียรติประวัติสำคัญ:
- แชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวต ปี 2544
- แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวต สนามมวยลุมพินี ปี 2544
- แชมป์ไหว้ครูมวยไทยสวยงาม สนามมวยลุมพินี ปี 2545
- แชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นไลต์เวต ปี 2545
- แชมป์มวยไทยมาราธอน โตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ สนามมวยลุมพินี ปี 2545
- แชมป์ K-1 World MAX Champion 2004 ปี 2547
- แชมป์ K-1 World MAX Champion 2006 ปี 2549
- แชมป์ Shoot Boxing S-Cup World Champion ปี 2553
- แชมป์สภามวยไทยโลกในพระบรมราชูปถัมภ์ WMC World Champion ปี 2549, 2552, 2554, 2557
- แชมป์มวยไทยไฟต์ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปี 2554, 2555
- รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปี 2555
- รางวัลสุดยอดนักกีฬาขวัญใจมหาชน (ป๊อปปูลาร์โหวต) สยามกีฬา อวอร์ดส ครั้งที่ 7 ปี 2556
- รับพระราชทานปริญญาบัตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาโท) สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 2556
- แชมป์มอนติคาโล ไฟต์ติง มาสเตอร์ ถ้วยพระราชทานกษัตริย์อัลแบรต์ที่ 2 แห่งโมนาโก ปี 2557
- แชมป์สภามวยโลก WBC Muay Thai Diamond World Championship ปี 2557
- รับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอก) สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ปี 2557
- อาจารย์พิเศษ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
- แสดงศิลปะไม้ไม้มวยไทย หน้าพระที่นั่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี งาน เวิลด์ เอ็กซ์โปร มิลาน 2015 ประเทศอิตาลี ปี 2558
- แชมป์สภามวยไทยโลก WMC World Championship รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท (70 กก.) ปี 2558
- แชมป์ WLF Wu Lin Feng World Championship (รุ่น 70 กก.) ปี 2558
ผลงานด้านบันเทิง:
ละคร คาดเชือก ช่อง 7 (2558 - รับเชิญ)
ภาพยนตร์ ซามูไรอโยธยา (2553)
คุณนายโฮ (2555 - รับเชิญ)
ทองดีฟันขาว (2560 - บทนำเต็มตัวเรื่องแรก)