กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--กระทรวงการคลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้จัดงาน "ตลาดนัดความดี กระทรวงการคลัง : ทำดีเพื่อพ่อ" เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี และน้อมนำพระราชดำรัสขององค์พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในเรื่องความซื่อตรงและการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงเพื่อจุดประกายความคิดตามแนวทาง "โครงการกระทรวงการคลังคุณธรรม" ให้เห็นเป็นรูปธรรม
"ที่ผ่านมา กระทรงวงการคลังได้น้อมนำเอาพระราชดำรัสขององค์พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาใช้เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติงานมาโดยตลอด เนื่องจากงานของทางราชการนั้นเป็นงานที่สามารถให้คุณให้โทษแก่ผู้เกี่ยวข้องได้ ทำให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องตระหนักเป็นอย่างมากในการทำหน้าที่ของตน กิจกรรมในตลาดนัดความดีในครั้งนี้จึงมุ่งเน้นในการสร้างความคิดในเชิงบวก มุ่งหวังให้เป็นการจุดประกายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงการคลังทุกคนทำความดี รวมถึงมีโอกาสในการแสดงออกถึงแง่มุมความดีที่ตนยึดถือปฏิบัติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและแสดงความจงรักภักดีแด่องค์พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย นอกจากนั้นยังถือเป็นการต่อยอด "โครงการกระทรวงการคลังคุณธรรม" ตามดำริของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ต้องการสร้างความโปร่งใสอย่างเป็นรูปธรรมขึ้นในการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังอีกด้วย
การจัดงานในครั้งนี้มีแนวคิดในการดำเนินงานตามคุณธรรมอัตลักษณ์ของสำนักงานปลัดกระทรวงการคลังและสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง 3 ประการคือ ร.ส.ส. ได้แก่
ร (รับผิดชอบ) คือ บุคลากรรู้หน้าที่ ทำงานอย่างรับผิดชอบ ตรวจสอบงานให้ถูกต้องและส่งงานตรงเวลา รับฟังปัญหาของผู้มาติดต่ออย่างสุภาพและใส่ใจ
ส (เสียสละ) คือ บุคลากรใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ใช้เวลาราชการให้เกิดประโยชน์เสมอ ทำงานโดยยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
ส (สามัคคี) คือ บุคลากรยิ้มแย้มแจ่มใสกับเพื่อนร่วมงาน รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เห็นความสำคัญของกิจกรรมกลุ่ม และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน"
นางญาใจ พัฒนสุขวสันต์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการคลัง รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่างาน "ตลาดนัดความดี กระทรวงการคลัง : ทำดีเพื่อพ่อ" มีกำหนดจัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2559 ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าเสาธงกระทรวงการคลัง โดยมีกิจกรรมต่างๆ มากมายที่จะเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรของกระทรวงการคลังและผู้เข้าร่วมงาน แต่ที่เป็น Highlight ของงาน ได้แก่
• การรวมพลังเพื่อร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ในช่วงพิธีเปิด วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 เวลา 09.00 น. ณ เวทีกลางบริเวณสนามหญ้าหน้าเสาธงกระทรวงการคลัง
• นิทรรศการ "คำพ่อสอน" ซึ่งรวบรวมพระราชดำรัสขององค์พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ-พลอดุลยเดชในเรื่องราวต่างๆ ที่ได้เคยทรงพระราชทานไว้ให้พสกนิกรชาวไทยได้ใช้ประโยชน์ตลอดระยะเวลาการครองราชย์ 70 ปี
• บอร์ด "1 คน 1 ความดี ถวายพ่อหลวง" ซึ่งจะเปิดโอกาสให้บุคลากรของกระทรวงการคลังแสดงพลังและปณิธานในการทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและแสดงความจงรักภักดีแด่องค์พ่อหลวง
• การเสวนาเรื่อง "พอเพียงตามรอยพ่อหลวง" โดย ดร.ชิต เหล่าวัฒนา นักวิชาการผู้น้อมนำเอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับด้านเทคโนโลยี และอาจารย์ปัญญา ปุลิเวคินทร์ หัวหน้าศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ ปราชญ์ชาวบ้านผู้เดินตามรอยเท้าพ่อ โดยมีคุณฐาณิญา พงษ์ศิริ จากสถานีข่าว TNN24 เป็นผู้ดำเนินการเสวนา ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 เวลา 09.30 น. ณ เวทีกลางบริเวณสนามหญ้าหน้าเสาธงกระทรวงการคลัง
• การแสดงดนตรีเพื่อเทิดพระเกียรติองค์พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 เวลา 12.00-15.00 น. โดยอาจารย์สุรณัฐยศ พิชญาภรณ์ และคณะ เวลา 15.00-17.00 น. โดย GHB Band จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ และในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 เวลา 10.30-14.00 น. โดย Customs Band จากกรมศุลกากร โดยทั้งหมดจะทำการแสดง ณ เวทีกลางบริเวณสนามหญ้าหน้าเสาธงกระทรวงการคลัง
• การออกร้านของบุคลากรในสังกัดกระทรวงการคลัง ที่จะนำสินค้าดีมาแจกจ่าย หรือจำหน่ายให้แก่ผู้ร่วมงาน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยมี zone พิเศษที่ใครใช้ภาษาอังกฤษในการต่อรองซื้อขายก็จะได้ราคาที่ถูกเป็นพิเศษ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทักษะด้านภาษาต่างประเทศของบุคลากรไปด้วยในตัว
• กิจกรรม Workshop "รูปที่มีทุกบ้าน" โดย อาจารย์อดิศักดิ์ สร้อยสุริยา จิตกรผู้มีชื่อเสียง โดยน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ด้วยการวาดภาพองค์พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยตนเอง
• กิจกรรม Workshop "มะกรูดหอมใบเตย" โดย อาจารย์สุวารี กาละพุฒ วิทยากรจิตอาสา ซึ่งผู้ร่วมงานจะได้เรียนรู้การนำพืชสมุนไพรมาสร้างมูลค่าเพิ่มตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
"การจัดกิจกรรมในงาน "ตลาดนัดความดี กระทรวงการคลัง : ทำดีเพื่อพ่อ" ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำกระทรวงการคลังไปสู่องค์กรคุณธรรมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการที่จะทำให้สำเร็จได้จะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมและสามัคคีจากบุคลากรทุกฝ่าย บุคลากรต้องเห็นคุณค่า และเปิดใจรับสิ่งที่ไม่เคยทำ นำสิ่งที่ดีขึ้นเข้ามา ช่วยกันมีจิตสำนึกสาธารณะ มองเรื่องประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักมากขึ้น และสร้างความรู้สึกของการอาสาทำดี เพื่อให้เกิดความเสียสละ แบ่งปันซึ่งกันและกัน" ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวในตอนท้าย