กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--กบข.
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. เปิดเผยถึงนโยบายและกรอบการลงทุนของ กบข. ว่า กบข. มีหลักเกณฑ์การลงทุนที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า จะต้องนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ได้แก่เงินฝากธนาคาร พันธบัตรรัฐบาล ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของเงินกองทุน โดยส่วนใหญ่ได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย และอีกไม่เกินร้อยละ 40 ให้ลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เช่นหุ้นสามัญและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะได้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผล และค่าเช่า ทั้งนี้ การลงทุนจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ กบข. เพื่อให้แน่ใจได้ว่าความเสี่ยงนั้นอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และที่สำคัญคือต้องรักษาความปลอดภัยของเงินต้นของสมาชิกข้าราชการทั่วประเทศไว้ และมีผลตอบแทนมากกว่าที่สมาชิกออมเอง
สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น คณะกรรมการ กบข. มีมติให้ลงทุนในอาคารสำนักงาน โดยเฉพาะในเขตธุรกิจหลักของกรุงเทพฯ ส่วนกลางซึ่งไม่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่นโรงแรมหรือห้างสรรพสินค้า และทำให้กองทุนได้รายได้จากค่าเช่าพื้นที่ในระดับสูง นอกจากนี้ ในอนาคตยังมีโอกาสได้ผลกำไรจากมูลค่าอาคารและที่ดินที่ปรับสูงขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของ กบข. ลงทุนผ่านกองทุนรวมสินทรัพย์ไทย 1 ทั้งหมด 100% เพื่อสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเฉพาะ ได้แก่ การลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอน การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งปัจจุบัน กบข. มีการลงทุนในอาคารอับดุลราฮิม หรือชั้นที่ 16 อาคารซีทีไอ ทาวเวอร์ และล่าสุด อาคารบางกอกซิตี้ ทาวเวอร์ อนึ่ง สำหรับผลการดำเนินงาน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2544 มีผลตอบแทนสุทธิสำหรับสมาชิกสะสมย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 7.76 %--จบ--
-อน-