เตือนฝนตกหนักในภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพฯ

ข่าวทั่วไป Thursday October 6, 2005 12:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--ปภ.
กรมป้องกันฯ เตือนประชาชนในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน และ
กรุงเทพฯ ระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก จากอิทธิพลของร่องฝน และแนวลมพัดสอบ ในช่วงสัปดาห์นี้
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ ร่องฝนกำลังแรง เคลื่อนตัวพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพฯ ทำให้มีฝนฟ้าคะนอง และตกหนัก ในบางพื้นที่ ช่วงวันที่ 5 — 6 ตุลาคม 2548 นี้ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ จะมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ยาวนานเกือบ 2 สัปดาห์ ในช่วงเย็นถึงค่ำของทุกวัน ซึ่งฝนที่ตกลงมานี้ ไม่ได้เกิดจากพายุ แต่เกิดจากลมทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ กับทิศตะวันตก เฉียงใต้ พัดเข้าหากัน หรือ ที่เรียกว่า ลมพัดสอบ ในการนี้ กรมป้องกันฯ จึงได้ประสาน กทม. ให้เตรียมเฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด และจัดเตรียมกระสอบทรายมาจัดทำเป็นพนังกั้นน้ำ โดยเฉพาะในจุดอ่อนที่เป็น พื้นที่เสี่ยงและมีน้ำล้นตลิ่งเป็นประจำทุกปี เนื่องจากในช่วงเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่น้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้น ประกอบกับเริ่มมี น้ำเหนือเริ่มไหลหลากลงมาสมทบ พร้อมกันนี้ ขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ระวังอันตรายจากน้ำล้นตลิ่ง รวมถึงประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มใกล้ทางน้ำไหล ที่ลาดเชิงเขาของพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ให้เตรียมการป้องกันอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้ด้วย
นายอนุชา กล่าวต่อไปถึงการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมว่า กรมป้องกันฯ ได้ประสานให้จังหวัดในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ตลอดจนศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 3 ปราจีนบุรี เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี แจ้งให้อำเภอ กิ่งอำเภอ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ และจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรกล ให้พร้อมปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีที่เกิดเหตุ ตลอดจนประกาศแจ้งเตือนประชาชน ให้เพิ่มความระมัดระวัง ติดตามพยากรณ์อากาศ และเตรียมขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของไว้บนที่สูง หากพื้นที่ใดต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ทางสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือโดยเร่งด่วนต่อไป--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ