กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้แรงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปีและการเร่งเปิดประมูลเมกะโปรเจกต์ ประเมินดัชนีผันผวนในกรอบ 1,485-1,530 จุด กลุ่มพลังงาน PTT TOP เด่นจากอานิสงส์ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น และกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรมรับผลดีจากมาตรการช้อปช่วยชาติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ด้านราคาทองคำได้อานิสงส์ค่าเงินดอลลาร์อ่อน หนุนราคาทองคำปรับตัวช่วงสั้น ให้แนวรับ 1,150-1,140 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,200-1,210 เหรียญต่อทรอยออนซ์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปีและการเร่งเปิดประมูลเมกะโปรเจกต์ รวมถึงโพลล์คาดการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในรอบนี้จะขยายเวลาการใช้ QE 8 หมื่นล้านยูโร/เดือนออกไปอีก 3-6 เดือนจากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 60 และแรงซื้อกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี
ทั้งนี้ยังคงมีความกังวลจากผลการทำประชามติในอิตาลีที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำให้นักลงทุนวิตกกังวลถึงเสถียรภาพการเมืองของอิตาลีและเสถียรภาพของกลุ่มประเทศยูโรโซน ประกอบกับการคาดการณ์ว่า FED มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 13 – 14 ธ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดีกว่าคาดและอัตราการว่างงานที่ลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 4.6% จาก 4.9% และForeign เป็น Net Sell ตั้งแต่เดือนพ.ย. เกือบ 4 หมื่นลบ.
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 7 ธ.ค. สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 8 ธ.ค. การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และในวันที่ 13 – 14 ธ.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเม็ดเงินจาก LTF RMFในช่วงปลายปี ประกอบกับการดีดตัวของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ความกังวล FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13 – 14 ธ.ค.ซึ่งจะมีผลกระทบต่อ fund flow ยังคงกดดันทิศทางดัชนี
ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนอยู่ในกรอบ 1,485-1,530 จุด ทั้งนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ได้แก่ กลุ่มพลังงาน PTT TOP เด่นจากอานิสงส์ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม อานิสงส์จากมาตรการช้อปช่วยชาติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 7 เหรียญต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.59% ปิดที่ระดับ 1,176 เหรียญต่อทรอยออนซ์ จากแรงกดดันตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งจากรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 ปี ประกอบกับรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. และรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. ซึ่งได้เพิ่มความเป็นไปได้มากขึ้นที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วงวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้
ขณะที่นาย เจอโรม พาวเวลล์ ผู้ว่าการเฟดเตรียมประสานเสียงร่วมกับกรรมการเฟดคนอื่นๆในการสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตามค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจากแรงขายทำกำไรได้สร้างแรงหนุนช่วงสั้นๆต่อราคาทองคำ ส่งผลให้ราคาปรับลงในกรอบที่แคบขึ้น
สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาแกว่งตัวออกข้างตามแรงกดดันแนวต้านเส้น 5 และ10 วัน ขณะที่แนวโน้มลงยังกดดันอยู่ อย่างไรก็ตามค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เริ่มฟื้นตัวจะช่วยลดแรงถ่วงให้ราคาปรับลงไม่มาก โดยมีแนวรับ 1,150-1,140เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,200-1,210 เหรียญต่อทรอยออนซ์