กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
ผู้ถือหุ้น บมจ.กรุ๊ปลีส หรือ GL ผู้นำธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ในอาเซียน ไฟเขียวอนุมัติแผนลงทุนซื้อหุ้น 22.27% ใน Commercial Credit and Finance PLC (CCF) บริษัทไมโครไฟแนนซ์ชั้นนำที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ศรีลังกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าซื้อหุ้นใน CCF รวม 29.99% โดยส่วนที่เหลืออีก 7.72% จะเข้าซื้อจากผู้ถือหุ้นอีก 2 รายซึ่งไม่ต้องขออนุมัติผู้ถือหุ้นเนื่องจากไม่มีความเกี่ยวโยงกัน คาดช่วยหนุนผลการดำเนินงานพุ่ง หลังเตรียมบันทึกส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน CCF ทันทีในไตรมาส 4 นี้ ประมาณ 7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ผู้ถือหุ้นยังอนุมัติเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ BG Microfinance Myanmar Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทไมโครไฟแนนซ์ในเมียนมาร์ เพื่อรุกธุรกิจรองรับตลาดที่มีความต้องการสินเชื่อจำนวนมาก ส่วนแผนออกหุ้นให้พันธมิตรเพื่อใช้เป็นเงินทุนขยายธุรกิจผ่านฉลุย
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ผู้นำธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ในอาเซียน เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2559 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2559 นั้น ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้ GL ขยายการลงทุนธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ในภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย เพื่อผลักดันการเติบโต โดยอนุมัติให้ Group Lease Holdings PTE. Ltd (GLH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GL ที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ เข้าซื้อหุ้น 22.27% ในบริษัท Commercial Credit and Finance PLC (CCF) จาก Creation Investments Sri Lanka LLC (Creation SL) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจไฟแนนซ์ชั้นนำที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ศรีลังกาที่มีฐานลูกค้าประมาณ 1 ล้านราย เพื่อรุกขยายธุรกิจของ GL จากในภูมิภาคอาเซียนออกไปสู่ประเทศศรีลังกาที่ตั้งอยู่ในแถบเอเชียใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัว
ทั้งนี้ การเข้าซื้อหุ้น 22.27% ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าซื้อหุ้นรวม 29.99% ใน CCF ซึ่งในส่วนที่เหลืออีก 7.72% นั้น GLH ได้เข้าซื้อจากผู้ถือหุ้นอีก 2 ราย ได้แก่ BG Investments (PVT) Ltd. และนาย Stephen L Lafrance Jr. ซึ่งเป็นรายการที่ไม่ต้องได้รับการอนุมัติเพิ่มเติมจากผู้ถือหุ้นเนื่องจากไม่ได้เป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกัน โดยจะใช้เงินทุนทั้งหมดใน CCF ประมาณ 2,514 ล้านบาท (ประมาณ 10,588.35 ล้านรูปีศรีลังกา)
สำหรับการเข้าลงทุนใน CCF ครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของ GL ตั้งแต่ไตรมาส 4/59 เป็นต้นไป โดยจะสามารถบันทึกส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน CCF ประมาณ 7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 244.6 ล้านบาท จาก คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2559 ของ CCF อยู่ที่ 22 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2560 นอกจากนี้ GL จะได้รับประโยชน์จากเข้าถึงโนว์ฮาวธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ เพื่อนำไปใช้ต่อยอดขยายธุรกิจในประเทศกัมพูชา สปป.ลาว อินโดนีเซียและไทยต่อไป
ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GL กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติให้ GL และ/หรือ GLH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ เข้าซื้อหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดจำนวน 1,387,680 หุ้นของบริษัท BG Microfinance Myanmar Co., Ltd. (BGMM) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการไมโครไฟแนนซ์ในประเทศเมียนมาร์ ในราคาหุ้นละประมาณ 5.77 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 199.79 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 277.24 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเข้าซื้อหุ้น BGMM จะส่งผลดีต่อ GL ที่สามารถรุกขยายธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในเมียนมาร์ ซึ่งเป็นตลาดที่มีประชากรจำนวนกว่า 60 ล้านคนและมีความต้องการสินเชื่อเป็นจำนวนมากได้ในทันที ซึ่งปัจจุบันในการได้รับใบอนุญาตใหม่เพื่อประกอบกิจการสินเชื่อรายย่อยจากธนาคารกลางของเมียนมาร์นั้นเป็นไปได้ยาก โดย BGMM ดำเนินธุรกิจมากว่า 2 ปี มีฐานลูกค้าเกือบ 10,000 ราย และมีพอร์ตสินเชื่อกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 41.9 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติการออกหุ้นกู้แปลงสภาพแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่ผู้ลงทุนในต่างประเทศ มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 70 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งเป็นการออกหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่ J Trust Asia (JTA) ซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจและเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ของ GL และการออกหุ้นกู้แปลงสภาพอีก 20 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับพันธมิตรอีกรายหนึ่งในศรีลังกาคือบริษัท Creation SL เพื่อเตรียมเงินทุนก้อนใหม่สำหรับการรุกขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นกู้แปลงสภาพรุ่นใหม่นี้มีอายุ 3 ปีและได้กำหนดราคาแปลงสภาพที่ 70 บาทต่อ 1 หุ้น
"หลังจากผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนลงทุนจะส่งผลดีต่อการรุกขยายธุรกิจของ GL ในภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมทั้งตั้งเป้าจะผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตตามเป้าหมาย และก้าวไปสู่การเป็นบริษัทดิจิทัลไฟแนนซ์ระดับโลก" นายมิทซึจิ กล่าว