กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--การประปาส่วนภูมิภาค
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เร่งผลักดันโครงการขยายเขตจำหน่ายน้ำประปาขานรับนโยบายรัฐบาลในปี 2560 พร้อมบูรณาการองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำประปาร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสร้างความร่วมมือกับประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของแหล่งน้ำสร้างเครือข่ายการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามกลไกประชารัฐ มุ่งสู่ความเจริญอย่างเท่าเทียมกัน
นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า กปภ. ตระหนักถึงหน้าที่สำคัญในการรับผิดชอบการจัดหา การผลิต และการให้บริการน้ำสะอาดสำหรับการอุปโภคบริโภคแก่ประชาชน โดยตลอดระยะเวลา 37 ปี ที่ กปภ. ดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย กปภ. สามารถพัฒนาระบบประปาที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้บริการประชาชนผ่านการดำเนินงานของ กปภ. 234 สาขา ในพื้นที่ 74 จังหวัด และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนต่าง ๆ รวมกว่า 4 ล้านราย หรือประมาณ 22% ของประเทศ สำหรับปี 2560 กปภ. มีแผนเร่งรัดโครงการขยายเขตการให้บริการน้ำประปาเพิ่มเติมในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในเชิงนโยบายเพื่อรองรับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกฯลฯ ตามแผนงานของรัฐบาล รวมถึงการพัฒนาระบบประปาเชิงสังคม ทั้งนี้ จากข้อมูลกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น พบว่ายังมีหมู่บ้านที่ไม่มีน้ำประปาใช้ประมาณ 1,900 หมู่บ้าน ซึ่ง กปภ. ได้เร่งตอบสนองการบริการในพื้นที่เหล่านั้นโดยได้ขยายเขตไปยังหมู่บ้านแล้วจำนวน 40 หมู่บ้าน และอยู่ระหว่างการเตรียมแผน การขยายเขตเพิ่มเติมอีก 450 หมู่บ้าน นอกจากนี้ ยังมีประชาชนที่ใช้บริการน้ำประปาจากหน่วยงานท้องถิ่น เช่น เทศบาล อบต. ประปาหมู่บ้าน ฯลฯ ซึ่งมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ บุคลากร และความเชี่ยวชาญ โดย กปภ. จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ เทคโนโลยี รวมถึงการร่วมลงทุนด้านการวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำในเขต อปท. เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงน้ำสะอาดให้รวดเร็วมากขึ้น ทั้งนี้ ต้องผ่านความเห็นชอบตามมติของประชาคม ที่อนุญาตให้ กปภ. เข้าไปให้บริการและบริหารจัดการแหล่งน้ำ ถือเป็นการบูรณาการความร่วมมือตามกลไกประชารัฐ เพื่อพัฒนาความเจริญโดยทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องได้รับประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรร่วมกัน
ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กปภ. มีความพร้อมที่จะดำเนินงานภายใต้นโยบายของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรของ กปภ. มาผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคด้านน้ำประปา ขับเคลื่อนประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิต สุขอนามัย และความเจริญอย่างเท่าเทียมกัน