กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--การยางแห่งประเทศไทย
จากกระแสข่าวควบคุมพื้นที่ปลูกยาง ให้โค่นยางในพื้นที่ไม่เหมาะสมทิ้ง สร้างความเข้าใจผิดให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศ กยท. ขอประกาศย้ำชัดเจนว่ากระทรวงเกษตรฯ ไม่มีคำสั่งให้เกษตรกรผู้ปลูกยางในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมดำเนินการโค่นยางทิ้งอย่างแน่นอน แต่ย้ำให้เดินหน้าส่งเสริม สร้างความเข้าใจแก่เกษตรกรในการปลูกยางและพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ให้เหมาะสมตามแผนที่เกษตร (Agri-map) หวังให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าต่อเกษตรกร
ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การส่งเสริมปลูกยางพารา การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กำหนดการปฏิบัติตามระเบียบอย่างชัดเจนให้กับเกษตรกรที่จะมาขอโค่นยางเก่าแล้วยื่นขอทำการเกษตรต่อไป ซึ่งอาจปลูกยางหรือพืชเศรษฐกิจอื่นใดก็ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ โดยจะมีพนักงานของ กยท. ทำหน้าที่ให้ข้อมูล และสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกรผู้ปลูกแทนทุกราย ดังนั้น นโยบายในการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning by Agri-Map) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นนโยบายสำคัญที่จะขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนกิจกรรมการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสมตามแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-map) และเพื่อพัฒนาระบบการเกษตรของประเทศให้มีความยั่งยืน ทั้งนี้ หากพื้นที่ดังกล่าวตามแผนที่เกษตร ระบุว่าไม่เหมาะสมกับการปลูกยาง พนักงาน กยท.จะติดตามให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกรอย่างใกล้ชิด ในการปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจแทนยางพารา ขณะเดียวกัน กยท.มีการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรชาวสวนยางที่มีต้นยางทรุดโทรมเสียหาย ต้นยางให้ผลน้อย และตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมต่อการปลูกยาง ได้มายื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกแทน โดยปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ สำหรับเกษตรกรที่อยู่ระหว่างรับการปลูกแทน และดำเนินการปลูกแทนด้วยยาง แต่กลับพบว่า พื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมต่อการปลูกยางพารา จะใช้วิธีการพูดคุยสร้างความเข้าใจเพื่อเปลี่ยนแปลงการปลูกแทน ไปปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นที่เหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้อย่างคุ้มค่า
"กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ไม่ได้มีหนังสือสั่งการ หรือนโยบายให้ กยท. ดำเนินการบังคับเกษตรกรชาวสวนยางที่ปลูกยางในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม (Non-suitable : N) ที่มีอยู่ประมาณร้อยละ 9 ของพื้นที่ปลูกยางทั้งหมด ซึ่งเป็นข้อมูลจากกรมพัฒนาที่ดิน โค่นต้นยางทิ้งแต่อย่างใด แต่ กษ. มีนโยบายให้ กยท. ส่งเสริมให้ความรู้ทางวิชาการ ประชาสัมพันธ์ และให้คำแนะนำแก่เกษตรกรที่ปลูกยางพาราในเขตพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม ปลูกทดแทนยางพาราด้วยไม้ยืนต้นชนิดอื่นที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยใช้ข้อมูลจากแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) และโดยข้อเท็จจริง การขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทน เกษตรกรยังคงเลือกปลูกยางพารา หรือไม้ยืนต้นชนิดอื่นที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ที่ กยท. กำหนด ได้โดยความสมัครใจ" ผู้ว่าการ กยท. กล่าวทิ้งท้าย