กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร
ส่งเสริม สนับสนุน และผลักดัน มาตรการต่างๆ ของภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ของมวลสมาชิกและประชาชนทั่วไป
- เร่งรัดแก้ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ตาม พ.ร.บ.จัดสรรฉบับ 2543 เนื่องจากเวลาล่วงเลยมา 10 เดือน แต่ปัญหาอุปสรรคยังมีอีกมาก อาทิเช่น มาตรการจดจำนอง 2 ใน 3 ของราคาประเมิน การค้ำประกัน สาธารณูปโภคเต็มโครงการ ฯลฯ
- เร่งรัดให้รัฐบาลประกาศมาตรการแก้วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ให้มีผลบังคับโดยเร็ว
- ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ
ผลักดันให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อการจัดระบบฐานข้อมูลแห่งชาติของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เจริญเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและมีหลักเกณฑ์เพื่อเป็นหน่วยเศรษฐกิจที่มีคุณภาพต่อไป
- เร่งแก้ไขอุปสรรคเกี่ยวกับกฎกระทรวงฉบับที่ 55 (2543) ออกตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ซึ่งเป็นการสร้างปัญหาให้กับการผลิตสินค้าทาวน์เฮ้าส์ 6 เมตร และทำให้สินค้าดีของประชาชนขาดหายไปจากตลาด
- นโยบายสินเชื่อของสถาบันการเงิน
- Project Finance
- Post Finance
เสนอแนะและผลักดันให้มีมาตรการในการให้สินเชื่อโครงการโดยจัดเป็นสินเชื่อ SME อย่างหนึ่งและธนาคาของรัฐเป็นหัวหอกในการอำนวยสิเนชื่อ อาจรวมถึงโครงการที่มีลูกค้าค้างคา และมีการ้องเรียนยัง ศคบ. โดยผู้ประกอบการที่ดี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อลูกค้ารายย่อย สำหรับอัตราดอกเบี้ยคงที่ในระยะยาว เพื่อการผ่อนชำระที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนโดยทั่วไป
- นโยบาย TAMC เมื่อมีการซื้อ NPL จากธนาคารของรัฐ และของเอกชนแล้ว รัฐบาลการควบคุมและทะยอยให้ supply อสังหาริมทรัพย์อย่างระมัดระวัง(ควรทะยอย 10 ปี) เพราะเป็นการเพิ่ม supply ในตลาด อาจทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เกิดวิกฤติ รอล 2 ได้ อีกทั้งกระทบไปยังหลักประกันของธนาคารลดมูลค่าลง และเกิดปัญหาเงินทุนไม่เพียงพอกลายเป็นวิกฤตสถาบันการเงินได้
- กฎหมายต่างๆ มีส่วนร่วมในการผลักดันและให้ข้อมูล เพื่อให้กฎหมายต่างๆ ที่ออกมาเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็สามารถปฏิบัติได้
- กฎหมายผังเมืองรวม
- พ.ร.บ.จัดสรร, มติต่างๆ ของคณะกรรมการจัดสรรกลาง
- สัญญามาตรฐาน
- กฎหมายคุ้มครอบผู้บริโภค
- การบริหารชุมชน (นิติบุคคลบ้านจัดสรร)
- การแก้ไขมติพิเศษต่างๆ ที่ซ้ำซ้อน
- การค้ำประกันเงินดาวน์ (Escrow Account)
- ราคาประเมินและวิธีการประเมินของภาครัฐและภาคเอกชน ผลักดันให้รัฐบาลออกกฎหมายเพื่อให้การประเมินมีมาตรฐานและวิชาการรองรับ เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขหนี้และการอำนวยสินเชื่อใหม่
- ราคาวัสดุก่อสร้าง
ผลักดันให้เกิดความเป็นธรรมในการกำหนดราคาขายของวัสดุก่อสร้างบางประเภท เพื่อให้ผู้บริโภคและประชาชนโดยทั่วไป ได้ซื้อสินค้าในราคายุติธรรมสอดคล้องกับต้นทุนการผลิต
- ศูนย์กลางการให้บริการในการขออนุญาตจัดสรรที่ดิน (One stop service) เพื่อการขอนุญาตจัดสรรเป็นไปโดยเร็ว ซึ่งทำให้ต้นทุนต่ำเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค และหากเป็นไปได้ในระยะยาวควรพัฒนาเป็น Uroan and Housing Development Bureau เพื่อรองรับงาน้ดานผังเมืองระบบจราจร ระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ, ศูนย์ข้อมูลให้สอดคล้องเป็นระบบและแผนระยะยาว
- ผลักดันให้เกิดคณะกรรมการที่อยู่อาศัยแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนราชการ เอกชน วิชาการ เพื่อสร้างองค์กรให้ถาวรไม่เกี่ยวกับการเมือง เพื่อพิจารณาสร้างโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจที่อยู่อาศัยให้สมบูรณ์และมีผลดีในระยะยาวต่อเศรษฐกิจและประชาชน--จบ--
-สส-