กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ ไทยแลนด์
เครก โทมัส แกลเลอรี่ ยินดีนำเสนอ มาย สตอรี่(My Story) นิทรรศการแสดงผลงานเดี่ยวจิตรกรรมสีอะคริลิค โดยศิลปินชาวฮานอย เหงียน ตวน สึ่ง งานเปิดนิทรรศการ มาย สตอรี่ นี้ จะจัดขึ้นที่ เครก โทมัส แกลเลอรี ถนน จัน หยัด หย่วด เริ่มวันแรกในวันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2559 เวลา 18.00-21.00 น.
เหงียน ตวน สึ่ง (เกิดในปี 2533) ศิลปินทัศนศิลป์รุ่นเยาว์มากพรสวรรค์ พำนักและทำงานเป็นหลักที่ฮานอย งานแสดงผลงานเดี่ยวครั้งแรกของเขาจะถูกจัดขึ้นที่ เครก โทมัส แกลเลอรี ใน ไซง่อน ในช่วงของการเตรียมงานที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ เราได้สัมภาษณ์ สึ่ง เกี่ยวกับการแสดงผลงาน มาย สตอรี่ เกี่ยวกับแรงบันดาลใจของการสร้างสรรค์ และความคิดสร้างสรรค์ที่ส่งอิทธิพลในผลงานชุดนี้
คุณช่วยเล่าถึงครอบครัวและการเลี้ยงดูที่หล่อหลอมจนเป็นคุณในทุกวันนี้?
"ผมเกิดในจังหวัดทัญฮว้า ที่ภาคเหนือตอนกลางของเวียดนาม พื้นฐานครอบครัวทำกสิกรรมเป็นหลัก และแม้ว่าจะมีอุปสรรคบ้าง ครอบครัวก็ยังสนับสนุนให้ผมได้สานฝันด้านศิลปะของผม ด้วยหลังจากจบภาคมัธยม ก็ส่งให้เรียนในด้านศิลปกรรมต่อในมหาวิทยาลัยศิลปะแห่งฮานอย (Hanoi Industrial Fine Arts University) ความทรงจำสมัยเด็กส่งผลอย่างมากในผลงานของผม"
สงสัยว่าทำไมจึงมีภาพวาดของจักรยานปรากฏอยู่ในผลงานของคุณอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังเรียกมันว่า"เพื่อน" อีกด้วย?
"ในคอลเลคชั่น มาย สตอรี่ นี้ ถูกเติมเต็มด้วยภาพที่คุ้นตาในหมู่คนทั่วไป ที่จริงส่วนตัวผมแล้ว จักรยาน นั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างผูกกับความทรงจำในหลายๆ ช่วงของผมมาก อย่างเช่น จักรยาน โฟนิกซ์ สำหรับผู้ชาย ก็เป็นพาหนะที่พ่อและแม่ของผมใช้สมัยออกเดทกัน และมันยังเป็นสิง่ที่ผมใช้เดินทางไปรับงานพิเศษอีกตั้งมากมายหลายงาน"
"ทั้งโดยทั่วไปในวิถีของชาวเวียดนาม จักรยาน ก็เสมือนวิถีการเดินทางที่คุ้นชินด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานใช้แรงงานที่มีฐานะยากจนที่มักใช้จักรยานเสมือนหนึ่งเพื่อนคู่ใจ ในการทำสัมมาอาชีพ ผมเลือกที่จะวาดจักรยานเพราะมันมีการถ่ายทอดความรู้สึกที่พิเศษส่งผ่านมา ผมรู้ว่ามันถูกแทนที่ด้วยยานพาหนะทางเลือกอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วและวันหนึ่งมันอาจอันตรธานหายไปในท้ายที่สุด คงเหลืออยู่แค่ในความความคิด และความทรงจำเท่านั้น"
ทำไมคุณเลือกมาเป็นศิลปิน?
"ผมแค่รู้สึกเพลิดเพลินจริงๆ เมื่อใช้เวลานานๆ อยู่กับการวาดภาพในช่วงเวลาขณะนั้น เหมือนที่เด็กรุ่นใหมทุกวันนี้ชอบพูดกัน "ผมทำมันเพราะผมชอบมัน" ผมยังคิดว่าผมยังต้องใส่ความพยายามที่หนักหน่วง ลงไปในชิ้นงาน ก่อนที่ผมจะเหมาะสมที่จะใช้คำนำหน้าชื่อว่า 'ศิลปิน' " ผมเลือกที่จะวาดภาพมาตลอด เป็นสิ่งที่ผมจะทำต่อไปเรื่อยๆ ผมถือว่าเป็นอาชีพและมีนคือสิ่งที่ผมรักได้ตลอดทั้งชีวิต"
ภาพคอลลาจดูเป็นวัสดุที่ยากสำหรับการทำงาน ทำไมคุณเลือกที่จะทำงานกับสิ่งนี้มากกว่าผืนผ้าใบ?
"ผมเลือกใช้หนังสือพิมพ์เป็นพื้นหลังของภาพวาดของผม เพราะพบว่ามันเป็นพื้นผิวที่มีอะไรที่น่าสนใจหลายอย่าง หลังจากการทดลองกับวัสดุต่างๆ ที่แตกต่างกัน ผมพบว่าการวาดและระบายสีภาพ โดยใช้หนังสือพิมพ์นั้นเหมาะสมมากที่สุดสำหรับการทำซ้ำๆ ในการผลิตของผมนี้ แม้ว่าความจริงแล้วมันอาจเป็นวัสดุที่มีท้าทายสำหรับการสร้างงาน นอกจากนี้ผมยังคงทดลองกับวัสดุอื่นๆ ด้วย เช่น น้ำมันและผ้าไหมเพื่อเพิ่มความหลากหลายในการสร้างสรรค์ของผม"
พาดหัวข่าวและเนื้อหาบนหนังสือพิมพ์ที่เลือกมาทำงานนั้น มีความสำคัญมากแค่ไหน คุณเลือกแบบสุ่มเลือกมาใช้หรือเลือกแบบดูความหมายที่ลึกซึ้งด้วย?
"บ่อยครั้ง ที่ผมเลือกแบบสุ่มๆ มาจากหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้ว แต่เป็นความบังเอิญที่มีความสุข พาดหัวข่าวที่เลือกมาได้มักจะมีความเกี่ยวเนื่องกันกับชิ้นงานที่ผมกำลังทำ อย่างไรก็ตามเวลาส่วนใหญ่ ผมใช้กับการเลือกหาเนื้อหาและรูปภาพของคอลลาจหนังสือพิมพ์ที่สามารถสื่อสารจินตนาการในหัวของผมออกมาให้ได้มากที่สุด ประการแรก เนื้อหาและรูปภาพที่เลือกจะดูเตะตาและดูแปลกเมื่อผสมผสานกับภาษาศิลปินของผม นอกเหนือจากพาดหัวข่าวแล้วเนื้อหาของข่าวที่เป็นข่าวสำคัญๆ และเรื่องราวประยุกต์ต่างๆ ผมก็ต้องการนำมาใช้ในงานเพื่อให้งานดูน่าสนใจและเข้าใจกระจ่างสำหรับผู้ชม"
ผลงานศิลปะของคุณได้รับแรงบันดาลใจมาจากไหน?
"แรงบันดาลใจและไอเดียของงานผมนั้นมักได้มาแบบไม่ตั้งใจ แต่มักให้ผลลัพธ์ที่ดีงามเมื่อจับมันมาคิด ไตร่ตรองดีๆ อย่างที่บอกแรงงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในงานผมได้มาจากชีวิตในวัยเด็ก ครอบครัว และสิ่งของทั่วไปในชีวิตประจำวันที่คุ้นเคยอย่างดี ด้วยสิ่งเหล่านั้น ผมต้องการที่จะเชื่อมต่อเรื่องราวส่วนตัวของผมเข้ากับสังคมใหญ่เหล่านั้น เชื่อมต่อชีวิตในวัยเด็กเข้ากับเรื่องราวในปัจจุบันและเรื่องราวในอนาคต"
"ยกตัวอย่างเช่น ภาพวาดจักรยานผมมักจะแสดงภาพอื่นๆ ลงไปด้วย เช่น หมวกรูปกรวยเวียดนามเก่าๆ กระเช้าหรือล่าสุดเป็นบอลลูนกำลังลอย ภาพของจักรยานมาจากเรื่องราวส่วนตัวของผม แต่ผมต้องการให้สิ่งเหล่านั้นสร้างความคุ้นเคยให้กับผู้ชมด้วยว่ามันมาจากเรื่องราวของตัวพวกเขาเอง ศิลปินหลายคนได้วาดภาพจักรยาน อย่างไรก็ตาม ผมต้องการให้ภาพแสดงออกแบบแปลกตาแต่ก็ให้ความคุ้นเคยด้วยบางอย่างในภาพวาดของผม ที่จะสะท้อนมากอย่างแข็งแรงมากกว่าเดิมให้กับผู้ชมชาวเวียดนาม
"ผมมักได้รับแรงบันดาลในจากข่าวประจำวัน "ข่าวที่กำลังเป็นประเด็นสำคัญ" ที่เห็นได้จากโทรทัศน์ อ่านจากหนังสือพิมพ์และนี่เป็นสิ่งที่ความคิดของในหัวของผมให้ความสนใจเพื่อหาสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกัน ผมว่าศิลปินส่วนใหญ่ต้องการก้าวทันกับเวลาและต้องการที่จะแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ในปัจจุบันออกมา นี่ช่วยให้เขาสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ในภาษาศิลปินในแบบของเขาออกสู่สังคม"
คุณต้องการจะบอกอะไรเป็นพิเศษ รวมถึงความรู้สึกใดๆ ถึงผู้ชมผลงานของคุณไหม?
"ตั้งแต่ผมเริ่มทำงานด้วยความคลั่งไคล้อันแรงกล้าในสิ่งที่ผมทำ และผมรู้สึกว่าการวาดภาพเป็นวิธีที่จะถ่ายทอดความเป็นผมและความรู้สึกทั้งหมดได้อย่างแข็งแรง ผมหวังว่าผู้ชมงานจะสามารถขยายความจากสิ่งที่ผมอยากจะสื่อผ่านภาพวาดได้เอง นี่อาจเป็นความรู้สึกของความสุขหรืออาจเป็นความยินดีของการเห็นความเหมือนที่ต้องกันระหว่างผมในฐานะผู้สร้างสรรค์งานและพวกเขาฐานะผู้ชมงาน หรือผมก็หวังว่ามันอาจจะทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจในการใคร่ครวญ ที่ขึ้นและลง รวมถึงการต่อสู้ของศิลปินด้วย"