กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--อาร์เอส
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า องค์กรธุรกิจยุคปัจจุบันจะยั่งยืนมั่นคงและเติบโตต่อไปได้หรือไม่ให้ดูได้จากวิสัยทัศน์ขององค์กรและความสามารถในการปรับตัวให้สอดคล้องกับโลก ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่อาร์เอสดำเนินธุรกิจมา เราคือองค์กรหนึ่งที่ไม่เคยหยุดนิ่ง แม้จะมีธุรกิจหลายด้าน แต่เรายังคงมองเพลงเป็นธุรกิจหลักที่บริษัทฯให้ความสำคัญ ดังนั้จึงต้องมีการปรับตัวให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดกับสถานการณ์ปัจจุบัน แม้วันนี้ธุรกิจเพลงในโมเดลใหม่คือสิ่งใหม่ที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เข้าใจหรือเข้าใจยาก แต่ขอให้ติดตามจับตามองให้ดีๆ เนื่องจากตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปธุรกิจเพลงเชื่อมั่นว่าจะกลับมาเติบโตและแข็งแกร่ง มีผลงานของศิลปินคุณภาพออกมามากมายต่อเนื่องและมีผลประกอบการที่ดีก้าวกระโดด
ด้าน นายศุภชัย นิลวรรณ กรรมการผู้อำนวยการธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจเพลงของอาร์เอสมีรายได้และทำกำไรดูแลตัวเองได้มาโดยตลอด สวนกระแสธุรกิจเพลงทั่วโลกที่ค่อยๆ ทยอยล้มหายตายจากไป เนื่องจากบริษัทมีการปรับโมเดลธุรกิจเพลงให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดกับสภาวะปัจจุบัน โดยมุ่งมั่นสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆสู่ตลาดเพลงอย่างต่อเนื่อง และผลิตผลงานเพลงให้ครอบคลุมทุกมิติ เช่นการนำเอาศิลปินเบอร์ต้นๆ ซึ่งมีฐานแฟนคลับเหนียวแน่น มาทำงานเพลงด้วยกลยุทธ์มิวสิก มาร์เก็ตติ้งแอนด์เซอร์วิส เพื่อให้ครอบคลุมเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างมูลค่าต่อยอดทางธุรกิจเพลงในทุกรูปแบบ ที่สำคัญเปิดโอกาสให้ศิลปินทุกคนมีส่วนร่วมในการลงทุนผลิตและวางแผนผลงานเพลงในลักษณะกึ่งพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อตัวศิลปินได้ทั้งในด้านการวางแผนงาน การดูแลรักษาคุณภาพและมาตรฐานของชิ้นงาน ตลอดจนพัฒนาตัวเองกับการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
สาเหตุของการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงในครั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับยุคสมัยที่พฤติกรรมการเสพเพลงของคนฟังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นไปตามการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งมีผลกระทบให้มีการใช้เงินกับการฟังเพลงลดลงอย่างต่อเนื่อง การปรับครั้งนี้เป็นรูปแบบใหม่จึงอาจจะมีทั้งคนเข้าใจและไม่เข้าใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่ศิลปินส่วนใหญ่ที่ได้รับฟังนโยบายมีความเข้าใจและพร้อมที่จะเดินไปกับบริษัท เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพขององค์กรและทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ
ธุรกิจเพลงสำหรับผมยังมองว่า เพลงเป็นคอนเทนต์ต้นน้ำที่แข็งแกร่งสามารถนำมาต่อยอดเพื่อหารายได้ในด้านอื่นๆ ได้อีกหลายทาง อาทิเช่น รายได้จากการบริหารจัดการศิลปิน, รายได้จากโชว์บิซ, รายได้จากอีเวนต์ ซึ่งปัจจุบันถือเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง, รายได้ในการทำmusic marketting ร่วมกับสินค้าต่างๆ, รวมทั้งรายได้จากสื่อทีวีดาวเทียมด้านเพลงที่เรายังคงเป็นเจ้าตลาด ซึ่งรายได้เหล่านี้จะทำให้ธุรกิจเพลงอาร์เอสก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง
"เชื่อมั่นว่าเวลานี้หลายค่ายมีความจำเป็นต้องปรับโมเดลการทำธุรกิจเพลงเช่นกัน ดังนั้น ยิ่งปรับเร็วยิ่งได้เปรียบ เพราะจริงๆแล้วคนฟังเพลงไม่ได้น้อยลง ตรงกันข้ามกลับมีมากขึ้นด้วยซ้ำ เพียงแต่เทคโนโลยี่ใหม่ๆทำให้วิธีการฟังเปลี่ยนไปและหลากหลายขึ้น ส่งผลให้รายได้ในรูปแบบเดิมๆลดลง การทำงานทุกอย่างจึงต้องมีการวิเคราะห์ และเปิดกว้าง มองสิ่งรอบตัวให้เป็นโอกาส อะไรที่มันดีอยู่แล้วเราก็ทำให้มันดียิ่งขึ้น อะไรที่ไม่ดีเราก็ต้องแก้ไขหรือตัดสินใจทิ้งมันไป "นายศุภชัย กล่าว