กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--IR PLUS
"อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา" แม่ทัพใหญ่ JMART ประกาศลั่น ผลงานโค้งสุดท้ายของปีนี้โดดเด่น รับไฮ ซี ซั่นธุรกิจ แถมได้อานิสงส์จากมาตรการช้อปช่วยชาติ โดยขยายเวลาช้อปปิ้งเพื่อคืนภาษีได้นานถึง 18 วัน นับตั้งแต่วันที่ 14 - 31 ธันวาคมนี้ สนับสนุนผลงานเดือนธันวาคมให้มียอดขายพีคสุดๆ และมั่นใจผลงานทั้งปี 59 เติบโตโดดเด่นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้านโบรกฯ ชี้พื้นฐานสุดแกร่ง ผลงานปี 60 โดดเด่นต่อเนื่อง เชียร์ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 14 บ.
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจมือถือในช่วงปลายปีโดดเด่น เนื่องจากเป็นไฮซีซั่นธุรกิจ มีสินค้ารุ่นใหม่ออกมากระตุ้นตลาดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รุกตลาดกล้องถ่ายรูปอย่างจริงจัง โดยปัจจุบัน ได้วางจำหน่ายกล้องถ่ายรูปไปยังหน้าร้านเจมาร์ทกว่า 30 สาขา พร้อมทั้งเปิดร้าน Jaycamera ที่ชั้น 3 แฟชั่นไอซ์แลนด์ เป็นสาขาแรก เพราะมองเห็นเทรนด์การเติบโตของตลาดกล้องถ่ายรูป จึงมีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับอานิสงส์จากการที่รัฐบาลไฟเขียวมาตรการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือ ค่าบริการ ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท ตามมาตรการช้อปช่วยชาติ เป็นระยะเวลา 18 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14-31 ธันวาคม 2559 เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยสำหรับกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อ และโดยปกติ ลูกค้าจะให้ความสนใจเข้ามาซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือสินค้าเทคโนโลยีต่างๆ ในช่วงปลายปีอยู่แล้ว เพื่อเปลี่ยนรุ่นใหม่หรือมอบให้เป็นของขวัญ โดยบริษัทฯ ก็ได้ออกโปรโมชั่นต่าง ๆ เข้ามาสนับสนุนให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วย จึงเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนผลงานไตรมาส 4 ปีนี้ให้โดดเด่นได้
"โดยปกติเดือนธันวาคม จะเป็นเดือนที่มียอดขายสูงที่สุดอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่า มาตรการช้อปช่วยชาติที่ออกมา จะสนับสนุนให้ผลงานไตรมาส 4 ปีนี้เติบโตยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมาตรการช้อปช่วยชาติในปีนี้ ได้ขยายเวลาเพิ่มขึ้นเป็น 18 วัน จากตอนปลายปีที่แล้วมีเพียง 7 วันเท่านั้น ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ เตรียมโปรโมชั่นสุดพิเศษไว้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการกระตุ้นการใช้จ่าย ของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดสำหรับกล้องถ่ายรูป อุปกรณ์เสริมมือถือ และดีลผ่อนชำระสมาร์ทโฟน 0% 24 เดือน นอกจากนี้ ยังมีมีทีมขายของ SINGER เป็นอีกช่องทางสำคัญในการเพิ่มยอดขายสินค้าบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น" นายอดิศักดิ์ กล่าว
ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุ JMART แนวโน้มผลประกอบการปี 60 คาดว่าธุรกิจมือถือจะได้แรงหนุนจากการขายมือถือร่วม กับ SINGER ที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับบริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มยอดขายของสินค้าใหม่ ๆ เช่น กล้อง ซึ่งจะทำให้รายได้จากการขายสินค้าโดยรวมดีขึ้น ขณะที่รายได้ค่าเช่าจะได้รับผลบวกจากโครงการ The Jas ศรีนครินทร์ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างซึ่งจะเปิดตัวช่วงปลายปี 59 และปัจจุบันมียอดเช่าราว 95% แล้ว ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ค่าเช่าในปี 60 ได้เต็มปี
สำหรับธุรกิจสินเชื่อภายใต้ JMT Plus (J Fintech) ซึ่งภายหลังผู้ถือหุ้น JMT อนุมัติให้สละสิทธิเพิ่มทุนใน JMT Plus ซึ่ง JMART ได้ใช้สิทธิแทนไปเรียบร้อยแล้วนั้น ส่งผลให้ JMART ถือหุ้นใน JMT Plus เป็นสัดส่วน 90.16% และจะเห็นการรวมงบเข้ามาในช่วงปลายปี สำหรับแนวโน้มใน 3Q59 ที่ผ่านมา JMT Plus ที่เริ่มเห็นผลจากการปล่อยสินเชื่อประเภท Revolving ทำให้สินเชื่อเติบโตถึง 31% QoQ มาอยู่ที่ 1,820 ล้านบาทแล้ว และแนวโน้ม NPL ลดลงจาก 7.46% ในไตรมาสก่อนเหลือ 4.62% ซึ่งด้วยสินเชื่อที่เติบโตสูงบวกกับคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะเห็นกำไรจากธุรกิจสินเชื่อดีขึ้นตามลำดับ
โดยประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธี Sum-of-the-parts หลัง Dilution จากการแจก Stock Dividend เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาไว้ที่ 14 บาท ด้วยระดับ Valuation ที่น่าสนใจบวกกับแนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จึงแนะนำ "ซื้อ"