กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
ทิสโก้มองตลาดหุ้นไทยยังเหลือ Upside แม้จะปรับตัวขึ้นมามากแล้วจากแรงซื้อ LTF&RMF แนะนำนักลงทุนใช้กลยุทธ์คัดสรรหุ้น "กลาง-เล็ก" รายตัว พร้อมอวดผลงานเด่นบริหาร 'ทิสโก้ Mid/Small Cap" 3 ปี โตเกิน 50% อันดับ 1ในกลุ่ม Small/Mid Cap และ 'ทิสโก้ Mid/Small Cap LTF' เปิดตัวได้เกือบ 3 เดือน สร้างผลตอบแทนแล้ว 11.55%
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) กล่าวว่า แม้ชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนาย Donald Trumpตัวแทนผู้สมัครจากพรรค Republican จะจุดชนวนให้เกิดเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ แต่ตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแรงซื้อ 'กองทุนรวมหุ้นระยะยาว' และ 'กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ' (LTF และ RMF) ในประเทศ จน SET Indexกลับมายืนเหนือระดับ 1500 จุด แต่เรามองว่าตลาดหุ้นไทยยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ โดยคาดว่าเป้าหมาย SET Index ในปีหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 1600 จุด เรายังแนะนำกลยุทธ์การเลือกหุ้นในกลุ่มขนาดกลางและขนาดเล็กแบบรายตัว (Selective) ที่เป็นหุ้นกลุ่มเติบโตสูง
"ด้วยปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น การเลือกตั้งมีความชัดเจน ภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยทยอยปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเรามองว่าหุ้นไทยยังคงมีความน่าสนใจ แต่ต้องเน้นกลยุทธ์คัดสรรหุ้นมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มขนาดกลางและขนาดเล็ก ทั้งนี้ ผู้ลงทุนต้องทำการบ้านและมีเวลาติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา บลจ. ทิสโก้ขอเสนอ กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ (TISCO Mid/Small Cap Equity Fund: TISCOMS) ซึ่งมีกลยุทธ์การบริหารเชิงรุก (Active Fund) เน้นการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท โดยเลือกจากหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโตสูง และคัดสรรหุ้นแบบ Bottom Up ตาม Performance ของธุรกิจ ไม่อิงดัชนี SET Index" นายสาห์รัช กล่าว
ปัจจุบัน TISCOMS มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปีที่ 57.30% ขณะที่ SET Index อยู่ที่ 11.38% ถือเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปีเป็นอันดับ 1 ในประเภทกองทุน Equity Small/Mid Cap และผลการดำเนินงานตั้งแต่ '3 เดือน' '6เดือน' '1 ปี' และ 'ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน' อยู่ที่ 6.86% 10.95% 10.67% 52.28% ตามลำดับ ขณะที่ผลดำเนินงานของ SET Index ในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ 1.31% 5.06% 13.72% 4.80% (อ้างอิงจาก Morningstar 6 ธ.ค.59)
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในรูปแบบ RMF และ LTF บลจ.ทิสโก้มี กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (TISCO Mid/Small Cap RMF: TMSRMF) และ กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap หุ้นระยะยาว (TISCO Mid/Small Cap LTF: TMSLTF) ซึ่งทั้งสองกองทุนมีความเสี่ยงระดับ 6 (ความเสี่ยงระดับสูง) และมีกลยุทธ์การบริหารเหมือนกับกองทุน TISCOMS โดย TMSLTF เป็นกองทุนล่าสุดที่เพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 59 ก็สามารถสร้างผลตอบแทนแล้ว 11.55% ในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 3 เดือน ขณะที่ SET Index อยู่ที่ 2.50% (ข้อมูลจาก Morningstar 6ธ.ค. 59)
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน LTF/RMF ก่อนการตัดสินใจลงทุน และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4