กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--ททท.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จัดประเพณีบวชนาคช้าง ประจำปี 2544 ขึ้น ณ หมู่บ้านช้าง ต.ตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสืบสานประเพณีชาวกวยให้คงอยู่สืบไปและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองช้างให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายสู่สายตาชาวโลก
นางสาวเอื้อมพร จิรกาลวิศัลย์ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จัดประเพณีบวชนาคช้าง ประจำปี 2544 ระหว่างวันที่ 5-7 พฤษภาคม 2544 ณ หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ โดยมุ่งหวังให้หมู่บ้านช้างบ้านตากลางสุรินทร์เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาค ทั้งเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม จารีต ประเพณี และภูมิปัญญาอันดีงามของท้องถิ่นให้ คงอยู่ และเป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงเป็นการอนุรักษ์ช้างและช่วยเหลือให้ช้างมีอาหารเพียงพอให้คนเลี้ยงช้างมีงานทำมีรายได้ที่เหมาะสมด้วย
นางสาวเอื้อมพรฯ เผยต่อไปอีกว่า จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดที่มีชาวไทยกวยมากที่สุดในประเทศ ส่วนใหญ่มีอาชีพเลี้ยงช้าง โดยชาวกวยจะยกย่องช้างเหมือนสมาชิกหนึ่งของครอบครัว กำหนดให้ผีปู่ตาเป็นผีที่ใหญ่ที่สุด รองลงไปคือผีบ้านผีเรือน (ยุจุ๊, ยะจั๊ว) เมื่อชาวสุรินทร์ที่ลูกชายอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ก่อนจะมีเหย้ามีเรือน พ่อแม่จะต้องจัดการบวชให้ลูกชายเพื่อศึกษา พระธรรมวินัยในพระพุทธศาสนาเสียก่อนโดยมีความเชื่อว่าถ้าจะให้ได้ชื่อเสียง หรือบุญมากจะต้องขี้ช้างแล้วแห่ไประยะทางไกลๆ มีผู้ร่วมขบวนแห่นาคเป็นจำนวนพันคน ล้วนสวมเครื่องแต่งกายด้วยผ้าซิ่นไหมมัดหมี่ลายสวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่นที่หาชมได้ยาก งานประเพณีบวชนาคของชาวกวยจะจัดในวันขึ้น 13,14 และ 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ถือว่าเป็นงานประเพณีบวชนาคที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดในโลกเพราะมีช้างร่วมขบวนแห่นับร้อยเชือก มีนาคร่วมขบวนแห่นับร้อยคน มีผู้ร่วมขบวนแห่นาคหลายพันคน และมีขบวนตรวง และฉัตรที่ทำด้วยผ้าไหมสวยงามแห่ยาวไกลไม่น้อยกว่า 2 กิโลเมตร นอกจากนั้นผู้ที่เป็นนาคจะต้องแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยแพรพรรณผ้าไหมหลากสีสันแต่งหน้าพร้อมกับสวมชฎาที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวกวยเหมาะแก่การเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
ผอ.ททท.กล่าวเสริมอีกว่า นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้มาร่วมทำบุญในงานประเพณีบวชนาคช้างแล้ว ยังสามารถไปเยี่ยมชมโครงการนำช้างกลับบ้านภายในหมู่บ้านช้าง และยังหาซื้อของฝากของที่ระลึกต่างๆ เช่น ผ้าโฮล (ผ้าไหมเนื้อดี) เครื่องเงิน ฯลฯ ในราคาพิเศษอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขต 1 โทรศัพท์ (044)213666, 213030 และ 351722 ทุกวันในเวลาราชการ--จบ--
-นห-