กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ.เน็ตเบย์' บริษัทแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยี (Innovative Technology Company) และผู้นำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ FinTech Innovative Technology Platform ให้บริการด้าน e-Logistics Trading และ e-Business Services ครบวงจรที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิตอล มั่นใจผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับปีก่อน หลังผู้ประกอบการภาคเอกชนทั้งผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้า กลุ่มสถาบันการเงินและธุรกิจประกันภัย ปรับตัวมุ่งทำธุรกรรมทางระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เอกสารเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายมีแนวโน้มชะลอตัว ด้านผู้บริหารตั้งเป้าขยับสัดส่วนรายได้จากกลุ่มบริการ e-Business Services จากเดิมเกือบ 40%เป็น 50% เพื่อรุกขยายฐานลูกค้ากลุ่มสถาบันการเงินและธุรกิจประกันภัย
นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ประเมินแนวโน้มธุรกิจในปีนี้ จะสามารถผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า และภาคการส่งออกโดยรวมที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเป็นบวกอย่างชัดเจน เนื่องจากเศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศทั่วโลกยังคงอยู่ในช่วงตกต่ำ ส่งผลกระทบต่อความต้องการบริโภคสินค้าที่ลดลง
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้ มาจากการที่ผู้ประกอบการภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้าและภาคธุรกิจอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงสถาบันการเงินและธุรกิจประกันภัย ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของบริษัทฯ ได้ปรับตัวหันมาใช้บริการธุรกรรมทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ของเน็ตเบย์เพื่อทดแทนการใช้เอกสารเพิ่มขึ้น ทั้งการใช้บริการด้าน e-Logistics Trading ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินพิธีการศุลกากรผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์และการใช้บริการ e-Business Services ที่เกี่ยวข้องกับการรายงานข้อมูลธุรกรรมของลูกค้าที่ทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินเพื่อทราบข้อเท็จจริง ซึ่งส่งผลดีต่อการลดต้นทุนในด้านการจัดส่งเอกสารและเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่งข้อมูล
ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่าการใช้บริการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเกตเวย์ของบริษัทฯ นั้น มีจำนวน Transaction เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ใช้บริการจากกลุ่มสถาบันการเงิน ผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งมีการเติบโตที่โดดเด่นในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา และคาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ที่เป็นผลมาจากการปรับตัวของผู้ประกอบการและปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ที่ผ่านเข้า-ออกทางท่าเรือขนส่งสินค้ายังคงมีปริมาณเพิ่มขึ้น
"เราทำผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาได้ค่อนข้างดี จึงมั่นใจว่าจะเป็นปีที่ดีของเน็ตเบย์โดยนอกจากเทรนด์ของจำนวนผู้ใช้บริการรับ-ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การที่รัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนไปประเทศไปสู่ดิจิตอลอีโคโนมี่ รวมถึงส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมให้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิตเพื่อพัฒนาประเทศก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับตัวหันมาพึ่งพาการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันมากยิ่งขึ้น ก็จะช่วยส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัทฯ อีกด้วย" นายพิชิต กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NETBAY กล่าวว่า จากความต้องการใช้บริการทำธุรกรรมรับ-ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯ จึงมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มบริการด้าน e-Business Services จากเกือบ 40% ของรายได้รวม เป็น 50% ของรายได้รวมภายในปี 2560 โดยเน้นการขยายฐานลูกค้ากลุ่มสถาบันการเงิน ธุรกิจประกันภัยและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง หลังจากที่มองเห็นโอกาสจากความต้องการใช้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ พร้อมกันนี้ จะมองหาโอกาสจากการขยายบริการใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับการรับ-ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นในอนาคต