กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--กองเกษตรสารนิเทศ กระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือด้านการเกษตรร่วมกับ นายเบนจามิน คิง (H.E.Mr.Ben King) เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นที่มีความสนใจร่วมกันเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือด้านการเกษตรไทย – นิวซีแลนด์ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านปศุสัตว์และโคนมที่นิวซีแลนด์มีความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงมาตรการปกป้องพิเศษ (Special Safeguards: SSG) สินค้าปศุสัตว์ ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น (Thailand – New Zealand Closer Economic Partnership : TNZCEP) โดยเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายพัฒนาโคนมและผลิตภัณฑ์ (Mill Board) ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มปริมาณการนำเข้าในแต่ละปี (Trigger Volume)ในสินค้าที่มีมาตรการ SSG จำนวน 6 รายการ ตามที่ฝ่ายนิวซีแลนด์ร้องขอ ได้แก่ หางนม ไขมันเนย เนยแข็งสด เนยแข็งฝอย เนยแข็งผ่านกรรมวิธี และเนยแข็งอื่นๆ ทั้งนี้ ไทยจะต้องใช้เวลาเพื่อดำเนินการภายในทางกฎหมายในการปรับแก้เอกสารแนบท้ายของความตกลง TNZCEP และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนสำหรับการขยายเพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าดังกล่าว ฝ่ายไทยได้เสนอโครงการความร่วมมือด้านปศุสัตว์ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาเทคโนโลยีแปลงปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตอาหารสัตว์ 2.โครงการพัฒนามาตรฐานและคุณภาพผลิตภัณฑ์โคนมไทย และ 3.โครงการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่เพื่อพัฒนาแนวคิดและการบริหารจัดการฟาร์ม
นอกจากนี้ ไทยได้หารือเกี่ยวกับการเปิดตลาดสินค้าเกษตรไทยในนิวซีแลนด์ โดยขอให้นิวซีแลนด์เร่งรัดพิจารณาเปิดตลาดสินค้าเกษตรไทยที่คงค้าง โดยเฉพาะสินค้าเป็ดปรุงสุกของไทยซึ่งมีความก้าวหน้ามาก เพื่อให้สามารถเปิดตลาดได้ภายในไตรมาสแรกของ ปี 2560 นี้
สำหรับการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยและนิวซีแลนด์ในปี 2558 มีมูลค่ารวม 19,360 ล้านบาท ไทยส่งออกมูลค่า 4,470 ล้านบาท ไทยนำเข้ามูลค่า 14,890 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออก 5 อันดับแรกของไทย ได้แก่ ปลาทูน่าปรุงแต่ง ข้าว อาหารสุนัขและแมว เบเกอรี่ และอาหารปรุงแต่งอื่น ๆ ขณะที่สินค้านำเข้าจากนิวซีแลนด์ 5 ลำดับแรก ได้แก่ นมและครีมอัดเม็ดไม่เติมน้ำตาล นมและครีมอัดเม็ดเติมน้ำตาล แอปเปิ้ลสด ไขมันจากนม และบัตเตอร์มิลค์