กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--พีอาร์ โฟกัส
เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๙ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดงานนิทรรศการภาพเส้นทางท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ พร้อมเปิดตัวหนังสือ " ก้าวแรก สู่ ๙ ที่ยิ่งใหญ่ " ณ ลานเอเทรียม ๑ ชั้น ๑ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ และจำหน่ายแพ็กเกจทองเที่ยว ราคาพิเศษ จากพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ชวนคนไทยเที่ยวตามรอยพระบาททั่วไทย
"ก้าวแรกสู่ ๙ ที่ยิ่งใหญ่" โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย และยังเป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยว ชาวไทยออกเดินทางท่องเที่ยวตามรอยเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระองค์ ที่ทรงเยี่ยมเยือนราษฎรไปทั่วทุกภูมิภาค
โดยจัดทำเป็นหนังสือ "ก้าวแรกสู่ ๙ ที่ยิ่งใหญ่" แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวในโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในประบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน ๙ เส้นทาง ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั่วประเทศ อีกทั้งเป็นการต่อยอดขยายผลจากหนังสือ ๗๐ เส้นทางตามรอยพระบาท ที่ได้เคยจัดทำและเผยแพร่พระเกียรติคุณในวาระครองราชย์ครบ ๗๐ ปี โดยการคัดเลือกโครงการหลัก ที่มีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น ในอดีต หลายพื้นที่ประสบปัญหาแตกต่างกันไป เช่น ปัญหาดินเปรี้ยว ดินเค็ม การบุกรุก ทำลายธรรมชาติ หรือบางพื้นที่ปลูกพืชเสพติด แต่ปัจจุบันได้รับการพัฒนาและฟื้นฟูจนกลับมามีคุณค่ายิ่งต่อการดำรงชีวิตของราษฎร เป็นแหล่งเรียนรู้ของผู้คน รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ถือเป็นก้าว ที่ยิ่งใหญ่ที่ ททท. ได้นำเสนอเป็นเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยพระบาท ในวาระถวายความอาลัย ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จำนวน ๙ เส้นทาง ๕ ภูมิภาค ดังนี้
ภาคกลาง
เส้นทางที่ ๑ ตามรอยพระบาทดับทุกข์
อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี , โครงการชั่งหัวมัน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย จ.เพชรบุรี และ อ่างเก็บน้ำเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขันธ์
เส้นทางที่ ๒ น้ำพระทัยแห่งความเมตตา
โครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และชุมชนบาง-กระเจ้า สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ จ.สมุทรปราการ
ภาคตะวันออก
เส้นทางที่ ๓ ทรงเป็นนักอนุรักษ์จากผืนดินจรดชายฝั่ง
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.จันทบุรี และโครงการสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จ.ระยอง
ภาคเหนือ
เส้นทางที่ ๔ จากไร่เลื่อนลอยสู่สถานีเกษตรหลวงแห่งแรก
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง และชุมชนบ้านยาง จ.เชียงใหม่
เส้นทางที่ ๕ พลิกฟื้นผืนป่าเสื่อมโทรมสู่เกษตรแผนใหม่
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ และ สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
เส้นทางที่ ๖ พระอัจฉริยะแห่งการพัฒนา
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงสะโง๊ะ จ.เชียงราย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ ๗ พอเพียงด้วยวิถีเกษตรกรรม
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน จ.สกลนคร และบ้านเชียง จ.อุดรธานี
ภาคใต้
เส้นทางที่ ๘ พ่อของแผ่นดินผู้ทรงแก้ปัญหาดิน
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการสวนพฤกษ์ศาสตร์ชายแดนภาคใต้ ต.กะลุวอ จ.นราธิวาส
เส้นทางที่ ๙ บรรเทาทุกข์ปวงชนชาวลุ่มน้ำ
โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ,ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ , พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ
โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง พระตำหนักประทับแรมเฉลิมพระเกียรติปากพนัง และชุมชนขนาบนาก จ.นครศรีธรรมราช
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า "ททท.ได้จับมือกับสายการบินไทยสมายล์และสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ เช่น สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย ( สนท.), สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) จัดโปรแกรมนำเที่ยว ตามรอยเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมของโครงการ ก้าวแรก สู่ ๙ ที่ยิ่งใหญ่" เพื่อนำเสนอขายให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจ ทั้ง ๙ เส้นทาง นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรม Media / Agent Fam Trip นำคณะสื่อมวลชนและผู้แทนบริษัทนำเที่ยว ร่วมสำรวจเส้นทางตามรอย ที่พระองค์ท่านเคยเสด็จฯ ในภาคกลาง ที่ จ.ราชบุรี และจ.เพชรบุรี โดยเฉพาะที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ถือเป็นก้าวแรกของพระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร เป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระองค์ท่าน เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๔๙๗ โดยเป็นการไปเยี่ยมและพระราชทานความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอัคคีภัยครั้งใหญ่ที่ตลาดบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๔๙๗ และยังได้นำคณะสื่อมวลชนไปเยี่ยมชม โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เป็นผืนดินที่พระองค์ท่านได้ทรงพลิกฟื้นความแห้งแล้งกันดาร จนสามารถปลูกข้าว พืชเศรษฐกิจ ยังประโยชน์สุขแก่ประชาชนในพื้นที่มาจนบัดนี้ พร้อมนำคณะเข้าเยี่ยมชมศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ก่อตั้งเมื่อปี ๒๕๒๑ ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช เพื่อส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตรที่เหมาะสมให้เกษตรกรในพื้นที่ให้มีความรู้ ความชำนาญ และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อเสริมสร้างความเข็มแข็งให้ชุมชน และดำรงรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่า รวมถึงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้มีความยั่งยืน และไปชมสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สถานีทดลอง ค้นคว้าและวิจัยพืชผลเมืองหนาวแห่งแรกของโครงการหลวง จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามกระแสพระราชดำรัสว่า "เพื่อให้เขาช่วยตัวเอง" เปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว เพื่อสร้างรายได้แก่ชาวเขา ให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้มาจนปัจจุบัน"
นาย วรเนติ หล้าพระบาง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด กล่าวว่า " นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่ปวงชนชาวไทย ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการเสด็จเยี่ยมเยือนราษฎรทุกหัวระแหงทั่วประเทศไทยมาโดยตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีแห่งการครองราชย์ โดยทุกๆเส้นทางการเสด็จพระราชดำเนินนั้นต่างนำมาซึ่งความเจริญอย่างยั่งยืน รวมถึงชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนของพระองค์ สายการบินไทยสมายล์ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพันธมิตรจัดโครงการ "ก้าวแรก สู่ ๙ ที่ยิ่งใหญ่" ในครั้งนี้ โดยภายในงานไทยสมายล์ยังได้ร่วมประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยพระบาทที่น่าสนใจ ตลอดจนนำเสนอบัตรโดยสารราคาพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ต้องการไปท่องเที่ยวและเรียนรู้ศาสตร์จากพระราชาผ่านการท่องเที่ยวโครงการหลวงในจังหวัดต่างๆ อีกด้วย จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมงานในครั้งนี้ มาร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่จะยังคงสถิตย์อยู่ในหัวใจของคนไทยตลอดไป"
สนใจเลือกซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวตามรอยพระบาท ได้ภายในงาน "ก้าวแรก สู่ ๙ ที่ยิ่งใหญ่ " ณ ลานเอเทรียม ๑ ชั้น ๑ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ -๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๙ พร้อมรับคู่มือท่องเที่ยว "ก้าวแรก สู่ ๙ ที่ยิ่งใหญ่ " ฟรี จำนวน ๙๙๙ เล่ม ระหว่างวันที่ ๑๖ – ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๙ โดยแบ่งรอบการแจกหนังสือ ดังนี้ วันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๘.๑๙ แจกหนังสือจำนวน ๔๙๙ เล่ม และในวันที่ ๑๗ – ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๙ วันละ ๒ รอบ เวลา ๑๓.๑๙ น. และ ๑๘.๑๙ น. จำนวนรอบละ ๙๙ เล่ม