กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--คอร์แอนด์พีค
ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชรุ่นใหม่นี้จะช่วยผลักดันให้การแปรรูปองค์กรสู่ระบบดิจิทัลของลูกค้าให้ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็ม เปิดตัวระบบ และซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ในกลุ่มโซลูชั่น Hitachi Virtual Storage Platform (VSP) ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้าและให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดียิ่งขึ้น โดยพัฒนาขึ้นจากซอฟต์แวร์ Hitachi Storage Virtualization Operating System (SVOS) รุ่นใหม่ ทำให้สามารถนำเสนอประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และความสามารถในการปรับขยายเวิร์กโหลดได้เหนือกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยที่ผลิตภัณฑ์ยังคงการันตีความสามารถรับประกันความพร้อมใช้งานของข้อมูล 100% อันเป็นข้อดีของอุปกรณ์แบบ Enterprise เฉกเช่นผลิตภัณฑ์ในรุ่นก่อนหน้า
ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลปัจจุบัน นับว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ลูกค้าจะต้องได้รับข้อมูลและใช้งานข้อมูลในแบบเรียลไทม์ ขณะที่องค์กรต่างๆ จะต้องสามารถดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวซอฟต์แวร์ SVOS 7 รุ่นใหม่จึงได้รับการพัฒนาขึ้นโดยมาพร้อมสแตก I/O แบบแฟลชและบริการข้อมูลแบบเลือกลักษณะบริการตามลำดับความสำคัญได้:
คุณภาพการบริการ (Quality of Service: QoS): สามารถคาดการณ์ประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อรองรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องของลูกค้าได้ มาพร้อมบริการลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลสำหรับเวิร์กโหลดโดยเฉพาะเพื่อให้สามารถคาดการณ์เวลาตอบสนองได้ดีขึ้นเมื่อเกิดการขยายตัวของข้อมูล
การลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลแบบปรับได้ (Deduplication and Compression): มีคุณสมบัติด้านการลดความซ้ำซ้อนและการบีบอัดข้อมูลที่อัตราส่วน 2:1, 5:1 หรือในระดับที่สามารถประหยัดพื้นที่จัดเก็บได้มากขึ้น โดย SVOS 7 สามารถถ่ายโอนการบีบอัดไปยังโมดูลแฟลชของฮิตาชิ (FMD) เพื่อลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้มากกว่าอาร์เรย์แฟลชแบบอื่นๆ
การแบ่งระดับชั้นของคลาวด์สำหรับ VSP ซีรีส์ F แบบแฟลชทุกรุ่น: ผลิตภัณฑ์เพิ่มความสามารถในการทำงานกับ คลาวด์ โดยรองรับการย้ายไฟล์ไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์แบบส่วนตัวหรือแบบสาธารณะได้ เพื่อจุดประสงค์ ของการบริการต้นทุนต่อรูปแบบของข้อมูล ในการลดพื้นที่จัดวางของศูนย์ข้อมูลหลัก ผลลัพธ์คือสามารถลดต้นทุนและคาดการณ์การใช้งานระบบจัดเก็บข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบไอทีเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ SVOS 7 พร้อมรองรับการใช้งานกับระบบ Virtual Storage Platform ซีรีส์ G และ F ทั้งรุ่นใหม่และรองรับรุ่นเดิมที่ลูกค้าใช้งานแล้วได้ โดยลูกค้าปัจจุบันสามารถได้รับประโยชน์จาก SVOS 7 เช่น คุณสมบัติการลดความซ้ำซ้อนและการบีบอัดข้อมูลผ่านการอัพเกรดระบบโดยไม่กระทบต่อการทำงานใดๆ
สำหรับองค์กรธุรกิจที่ต้องการรวมศูนย์ระบบไอทีและการสนับสนุนการใช้งานแอปพลิเคชั่นทั้งในระบบเปิด และระบบเมนเฟรมเข้าไว้ด้วยกัน บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พร้อมนำเสนอ VSP รุ่น High-end ใหม่สองรุ่น คือ VSP F1500 และ VSP G1500 โดย VSP F1500 สำหรับระบบแฟลชแบบ Enterprise Flash หรือ FMD โดยมีแต่ละหน่วยจำมีหน่วยประมวลผลแบบ ASIC ที่ทำงานในการเพิ่มประสิทธภาพการทำงานของชิป แบบMLC ซึ่งพัฒนาจาก FMD รุ่นที่ 1 สู่ FMD รุ่นที่ 2 ที่มีความหนาแน่นต่อความจุขึ้นในรุ่นใหม่ที่มากถึง 14 เทราไบต์ต่อหน่วย และให้ประสิทธิภาพของการดำเนินการอินพุต/เอาต์พุตต่อวินาที ที่ระดับ 4.8 ล้าน (IOPS) และความจุรวมในรูปแบบแฟลชประสิทธิภาพสูงถึง 40 เพตาไบต์ (PB) นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการเพิ่มจำนวน FMD ได้มากถึง 576 โมดูล ทำให้มีคอร์รวมมากถึง 2304 คอร์ ของหน่วยประมวลผลของ FMD รวม ซึ่งจะช่วยในการลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลมากขึ้นและยังคงเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานแบบเรียลไทม์ในระดับสูงสุดได้ในเวลาเดียวกัน
สำหรับองค์กรธุรกิจที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้ระบบแฟลชทั้งหมด บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ นำเสนอ VSP G1500 รุ่นใหม่ซึ่งให้ IOPS ที่ระดับ 4.8 ล้าน IOPS ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่ารุ่น VSP G1000 ถึง 20% อย่างไรก็ตามลูกค้า VSP G1000 สามารถอัพเกรดเป็น VSP G1500แบบไม่กระทบต่อการทำงานของระบบ (Online) แนวทางนี้จะช่วยให้การเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม VSP G1500 ซึ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นเรื่องง่ายและตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ในการปกป้องการลงทุนของลูกค้าของเรา
นอกจากการเปิดตัว SVOS 7 และเพิ่มประสิทธิภาพใหม่ๆ ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ VSP แล้ว บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ กำลังอัพเกรดชุดซอฟต์แวร์ด้านการจัดการอื่นๆ เพื่อให้การบริหารจัดการข้อมูลง่ายดายขึ้นกว่าเดิม อาทิเช่น Hitachi Storage Advisor, Automation Director และInfrastructure Analytics Advisor รุ่นใหม่ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถนำฟังก์ชันใหม่ของ SVOS 7 ไปใช้งานได้ง่ายขึ้นและลดต้นทุนการดำเนินงานและความซับซ้อนด้านไอทีลงได้
"เทคโนโลยีแฟลชกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของการแปรรูปองค์กรสู่ระบบดิจิทัล หรือ Digital Transformation ซึ่งต้องการเพิ่มขีดความสามารถด้านการดำเนินงาน กระบวนการต่างๆ และประสบการณ์ใช้งานของลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ SVOS, FMD และ VSP ของเราจะช่วยขยายขีดความสามารถด้านการเข้าถึงเทคโนโลยีแฟลชได้เป็นอย่างมาก ช่วยให้ลูกค้าก้าวสู่องค์กรดิจิทัลได้เร็วขึ้น และลดต้นทุนโดยรวมได้อย่างเห็นผล" ดร. มารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย และพม่า บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด กล่าวทิ้งท้าย