กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
วันนี้ (20 ธ.ค. 59) น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่ เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยถือฤกษ์ในเวลา 06.45 น. ไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลท้าวเวสสุวรรณ ศาลตายาย และพระพิรุณทรงนาค
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกที่เข้ามาปฏิบัติงานที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยวันนี้ได้เข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และรอพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อออกไปประชุมคณะรัฐมนตรีพร้อมกัน ซึ่งการเข้ามาทำงานในครั้งนี้ถือว่ามาทำงานในช่วงที่ดีมาก เนื่องจากกระทรวงเกษตรฯ ได้มีการวางนโยบายและยุทธศาสตร์ไว้ชัดเจนแล้ว รวมถึงมีแผนการทำงานที่ชัดเจนด้วย ทั้งในปีนี้และในช่วง 5 ปีข้างหน้า รวมถึงแผนระยะยาวทุก 5 ปี จนครบ 20 ปี ซึ่งถือเป็นเส้นทางของกระทรวงเกษตรฯ ที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
"สำหรับเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการคือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำมาหากินของพี่น้องเกษตรกร โดยต้องจัดอันดับเรื่องที่มีปัญหามากที่สุด แล้วเข้าไปช่วยจัดการสิ่งเหล่านั้นให้ดีขึ้น โดยจะมีทั้งข้าราชการของกระทรวงเกษตรฯ ร่วมมือกันทำงานและพร้อมลุยงานไปด้วยกัน ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาได้มากยิ่งขึ้น โดยส่วนตัวมองว่าจะทำอย่างไรให้สามารถยกระดับมาตรฐานของสินค้าเกษตรให้ดียิ่งขึ้น เพราะว่าการทำมาค้าขายทุกวันนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพ เพราะฉะนั้นจะดูว่าต้องทำอย่างไรที่จะยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งก็ตรงกับยุทธศาสตร์ของการทำงานในปีนี้ รวมถึงต้องคำนึงในเรื่องของประสิทธิภาพ ถ้ามาตรฐานดี คุณภาพดี ราคาก็จะสามารถแข่งขันตลาดอื่น ๆ ได้" น.ส.ชุติมา กล่าว
ต่อมา พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแลเรื่องข้าว เพราะสามารถดำเนินการได้ทันที ไม่ต้องมาศึกษางานใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดความรวดเร็วในการทำงาน อีกทั้งยังเคยเป็นเลขาฯ คณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว(นบข.) และมีความเข้าใจในระบบการบริหารข้าวอยู่แล้ว รวมถึงยังได้ร่วมกันทำยุทธศาสตร์ข้าวครบวงจรด้วย จึงสามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้ทันนี้ นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ดูแลในเรื่องมาตรฐานสินค้าต่าง ๆ ให้มีความเชื่อมโยงระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงพาณิชย์ด้วย
"ปัจจัยสำคัญให้การทำงานคือการทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญของการทำงานในยุคนี้ จึงมั่นใจในการทำงานร่วมกัน และจะมาเป็นกำลังสำคัญในการช่วยทำงานที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เป็นอย่างดี และช่วยกันขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลให้สำเร็จต่อไป" พลเอก ฉัตรชัย กล่าว