กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--IR PLUS
JMT ประกาศซื้อหนี้เพิ่มจาก AEONTS มูลค่า 6.65 พันลบ. หนุนพอร์ตบริ หารหนี้เฉียด เป้าที่ 1.1 แสนลบ. เรียบร้อยแล้ว แถมมีลุ้นปลาย ปีนี้อาจมี ประกาศดีลซื้อ หนี้เพิ่มอีก "ปิยะ พงษ์อัชฌา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผย ช่วงต่อจากนี้อาจเห็นมิติใหม่ของ JMT เพราะหลังจากลดสัดส่วนการถือหุ้นในธุรกิจปล่อยสินเชื่อลง ทำให้ภาระการ จัดหาเงินทุน และสำรองหนี้ฯ ลดลงไปมาก พร้อมโฟกัสธุรกิจบริหารหนี้ ครองมาร์เก็ต แชร์เบอร์หนึ่ง ต่อเนื่องใน อนาคต ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ระบุ JMT แกร่ง แนะนำซื้อ ให้ราคาเหมาะสม 30 บ.
นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ บริหารหนี้ด้อย คุณภาพระดับแนว หน้าของไทย ประกาศข่าวดี ลงนามในสัญญาซื้อหนี้ด้อยคุณภาพของสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล กับ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS โดยสัญญามีมูลค่าหนี้คงค้างตามสิทธิ 6,645 ล้านบาท เข้าใกล้เป้า หมายทั้งปีจะมี พอร์ตบริหาร หนี้แตะ 1.1 แสนล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มอย่างต่อเนื่องอีก หากขั้นตอนการ ทำเอกสารแล้ว เสร็จทันในปี นี้ จะประกาศแจ้งให้นักลงทุนทราบในลำดับถัดไป
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ในระบบมีตัวเลขที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตามข้อมูลของ ธนาคารแห่ง ประเทศไทย สัดส่วนหนี้ NPL ต่อสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/2559 อยู่ที่ 2.89% นับเป็นยอดสูง สุดในรอบหลายปี ที่ผ่านมา สอดคล้องกับสถาบันการเงินต่างๆ ที่มีการขาย หนี้ออกมาอย่าง ต่อเนื่อง เป็นโอกาสของ JMT ให้เข้าไปประมูลซื้อหนี้เพิ่ม เนื่องจาก สถาบันการเงิน เหล่านี้ ต้องการบริษัทฯ ที่มีคุณภาพและ มาตรฐานในการ เข้ามาดำเนิน การ ที่สำคัญคือต้องมีเงินทุนเพียงพอที่จะเข้าไปซื้อหนี้ด้อยคุณภาพก้อนใหญ่ ส่งผลให้ ปัจจุบัน JMT ครองมาร์เก็ตแชร์เบอร์หนึ่งในธุรกิจอย่างต่อเนื่องได้ และแม้ในสภาวะ ที่เศรษฐกิจที่ ยังมีความเปราะ บางอยู่ JMT ก็สามารถจัดเก็บหนี้จากลูกค้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยกลยุทธ์และ การบริหาร จัดการที่ดี จึงมั่นใจว่า ทิศทางธุรกิจของ JMT ในช่วงต่อจากนี้ จะเติบโตตามแผน งานที่วางไว้ ได้
"JMT มีพอร์ตบริหารหนี้ทะลุ 1 แสนล้านบาทเรียบร้อยแล้ว และเฉียดเป้า หมายทั้งปีที่ วางไว้ โดยตั้งเป้าจะซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารเพิ่มในปีนี้อีก 2 หมื่นล้านบาท หรือมีพอร์ตบริ หารหนี้ทั้งปี 2559 แตะ 1.1 แสนล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน ยังมีสถาบันการ เงินที่อยู่ ระหว่างรอทำ สัญญากับ บริษัทฯ เพิ่มอีก และหนี้ด้อยคุณภาพส่วนใหญ่ที่ซื้อมามีคุณภาพมากขึ้น จึงมั่นใจจะส่ง ผลดีต่อบริษัทฯ ให้เติบโตได้ อย่างแข็งแกร่ง ในระยะยาว และด้วยภาพรวมธุรกิจบริหารหนี้มีแนวโน้มเติบโตสูง ทำให้ก่อนหน้า นี้ บริษัทฯ
ลดสัดส่วนการ ถือหุ้นใน บริษัท เจ ฟินเทคฯ (เดิมชื่อ บ.เจเอ็มที พลัสฯ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจสินเชื่อ ลงเหลือ 9.1% จากเดิมที่ถือ 100% ให้แก่บริษัทแม่ JMART ทำให้ภาระการจัดหาเงินทุนและสำรองหนี้เบาตัวไปมาก และสามารถโฟกัส เฉพาะธุรกิจ บริหารหนี้ได้ อย่างมี ประสิทธิภาพมาก ขึ้น" นายปิยะ กล่าว
ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า JMT พอร์ตบริหารลูกหนี้ที่ขึ้นทะลุหลัก 1 แสนล้านบาทไปแล้วจากการซื้อหนี้เข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่องภายใต้เป้าหมาย 2 หมื่นล้านบาทในปี 2559 และอีก 3 หมื่นล้านบาทใน ปี 2560 ซึ่งจะทยอยสร้างรายได้เข้ามาต่อเนื่อง ภายใต้ปัจจัย แวดล้อมที่ เอื้ออำนวยขึ้น ในปี 2560 จากมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้สถานการณ์ ติดตามและเรียก เก็บหนี้ราบ รื่นขึ้น ภาพรวม NPL ของสถาบันการเงินที่เชื่อว่าจะยังเพิ่มขึ้นและทำพีคในช่วงกลางปี 2560 ทำให้มีพอร์ตลูกหนี้ให้เลือกซื้ออีกมาก และความได้ เปรียบที่เกิด ขึ้น ภายหลังจากการลดสัดส่วนเงินลงทุนใน บ.เจ ฟินเทคฯ ทำให้สัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อทุนลดลงต่ำกว่า 1 เท่า ณ สิ้นปี 2559 เพิ่มกำลังความพร้อมให้บริษัทฯ ในการประมูล ซื้อหนี้เข้า มาบริหารได้อีก มาก
แนะนำซื้อ พร้อมปรับเพิ่ม Fair value ปี 2560 เป็น 30 บาท (เดิม 20.75 บาท) โดยปรับ target PBV กลับขึ้นไปที่ระดับ 6 เท่า (เดิม 4.29 เท่า) เท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี